เทรดทอง เสียภาษีไหม? ไขทุกข้อสงสัยลงทุนทอง

หากพูดถึงกำไรจากการเทรดทอง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายทองคำแท่ง การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือการเทรดทองในตลาดฟอเร็กซ์ หลายคนอาจสงสัยว่า เทรดทอง เสียภาษีไหม? ในความเป็นจริง การเสียภาษีจากการลงทุนทองคำขึ้นอยู่กับรูปแบบการลงทุน และประเภทของเงินได้ที่ได้รับ วันนี้เราจะมาดูกันว่า การเทรดทองแบบใดต้องเสียภาษี และแบบใดที่ได้รับการยกเว้น

ก่อนจะไปเจาะลึกเรื่องการเทรดทอง เราต้องทำความรู้จักเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากันก่อน โดยมีสถานะดังต่อไปนี้

-บุคคลธรรมดา

-เงินได้จากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

-ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี

-กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง

-วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

คุณสมบัติทั้ง 5 ข้อนี้ คือ การการันตีได้ว่า คุณจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมายของ กรมสรรพากร โดยจะต้องยื่นแบบแสดงรายการ ปีละ 1 ครั้ง ภายใน 31 มีนาคม ของปีถัดไป ซึ่งครอบคลุมรายได้จาก

-รายได้จากเงินเดือนประจำ

-รายได้พิเศษ งานฟรีแลนซ์

-รายได้จากการลงทุน

ยกเว้น เงินได้จากการรับเหมาธุรกิจ การพาณิชย์ ที่จะต้องยื่นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับข้อนี้ครับ สิ่งที่นักลงทุนอิสระหลายคนกังวลก็คือ รายได้จากการลงทุน ที่จะยังคลุมเครือว่า ต้องเสียภาษีหรือไม่ ? แต่ก่อนอื่นเลยก็ต้องมาแยกประเภทกันก่อนว่า การเทรดทองของนักลงทุนเป็นแบบไหนบ้าง ?

เทรดทอง หมายถึงการซื้อ-ขายแบบไหนได้บ้าง ?

ก่อนอื่นนักลงทุนควรทราบและแยกประเภทก่อนว่า การเทรดทองคำ หมายถึงการซื้อ-ขาย แบบใด ?

1. การซื้อขายทองคำแท่ง

-การซื้อทองคำแท่งหรือเหรียญทองคำเพื่อเก็บรักษาในระยะยาว

-ซื้อขายผ่านร้านทอง ธนาคาร หรือผู้ค้าทองคำ

-ภาษีที่เกี่ยวข้อง: หากขายทองคำแท่งแล้วได้กำไร ส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายถือเป็น "เงินได้พึงประเมิน" และต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90)

2. การซื้อขายทองคำผ่านตลาดฟิวเจอร์ส

-เป็นการซื้อขายสัญญาล่วงหน้ากับตลาดอนุพันธ์ เช่น ตลาด Thailand Futures Exchange (TFEX)

-นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในอนาคต

-ภาษีที่เกี่ยวข้อง: กำไรจากการซื้อขายสัญญาทองคำฟิวเจอร์สถือเป็นเงินได้พึงประเมินและต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

3. การซื้อขายทองในตลาด Forex

-เป็นการซื้อขายทองคำในรูปแบบของคู่สกุลเงิน เช่น XAU/USD (ทองคำ/ดอลลาร์สหรัฐ)

-เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความคล่องตัวและสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

-ภาษีที่เกี่ยวข้อง: หากมีกำไรจากการเทรดทองในตลาด Forex รายได้ส่วนนี้ถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 4 (ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือส่วนแบ่งกำไร) และต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 เพื่อเสียภาษี

4. การซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

-มีหลายแอปพลิเคชันในประเทศไทย เช่น Gold Wallet ในแอป เป๋าตัง

-ซื้อทองในรูปแบบดิจิทัลและสามารถขายคืนเป็นเงินสดได้

-ภาษีที่เกี่ยวข้อง: รายได้จากการขายทองคำดิจิทัลต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากมีกำไร

5. การออมทอง (Gold Savings)

-เป็นการออมเงินในรูปแบบของทองคำโดยสะสมทีละน้อย จนถึงจำนวนที่กำหนดแล้วแลกเป็นทองคำแท่ง

-ภาษีที่เกี่ยวข้อง: หากทำกำไรจากการขายทองที่ออมไว้ กำไรนั้นจะต้องนำไปรวมคำนวณภาษี

ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม หากการเทรดทองของคุณเข้าข่ายเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 หรือ 8 จะต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ที่กำหนด

การเทรดทองในเชิงธุรกิจ vs. ลงทุนส่วนบุคคล

การเทรดทองสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การเทรดในเชิงธุรกิจและการลงทุนส่วนบุคคล ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้ 

หัวข้อ	การเทรดทองคำในเชิงธุรกิจ	การลงทุนส่วนบุคคล
เป้าหมาย	สร้างรายได้จากธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ	ทำกำไรหรือสะสมมูลค่าทรัพย์สิน
เงินทุนที่ใช้	ต้องการเงินทุนที่สูง	ใช้เงินลงทุนตามกำลังทรัพย์
ความยืดหยุ่น	มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องวางแผนธุรกิจ	มีความยืดหยุ่นตามเป้าหมายส่วนตัว
ความเสี่ยง	เสี่ยงจากการทำธุรกิจ	เสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ
รายได้	ได้รับจากการขายทองคำหรือค่าธรรมเนียม	ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนหรือการเทรด

หากการลงทุนเป็นลักษณะธุรกิจที่มีกำไรแน่นอน ต้องยื่นภาษีตามกฎหมาย แต่หากเป็นการลงทุนส่วนบุคคลที่ไม่ได้มีกำไรแน่นอน อาจไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องยื่นแสดงรายได้เพื่อคำนวณภาษีที่ถูกต้อง

กรณีที่ไม่ต้องเสียภาษีจากการเทรดทอง

แม้ว่าการเทรดทองจะอยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษี แต่ยังมีบางกรณีที่ได้รับการยกเว้นภาษี ได้แก่:

1. การเทรดทอง Futures ในตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange)

-การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Futures) ในตลาด TFEX อ้างอิงราคาทองคำในตลาดโลก

-ส่วนใหญ่ไม่มีการส่งมอบทองจริง เนื่องจากเทรดเดอร์มักปิดสถานะก่อนหมดอายุสัญญา

2. การเทรดทอง Forex ที่ไม่ได้กำไร

-หากการเทรดทองคำ XAUUSD ผ่านโบรกเกอร์ Forex ไม่ได้กำไร หรือขาดทุน ไม่ต้องเสียภาษี

-ภาษีจะถูกเรียกเก็บเฉพาะในกรณีที่มีรายได้สุทธิหรือกำไรจากการเทรด

3. รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี

-หากกำไรต่อปีต่ำกว่าเกณฑ์ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เช่น ได้กำไร 10,000 บาทต่อปี และรายได้รวมไม่เกิน 150,000 บาท) ก็ไม่ต้องเสียภาษี

คำแนะนำสำหรับนักเทรดทอง

-เก็บหลักฐานการขาดทุนและกำไร เช่น รายการเทรด, ใบแจ้งยอดบัญชี และเอกสารที่เกี่ยวข้อง

-รายงานรายได้แม้ไม่ได้กำไร เพื่อป้องกันการตรวจสอบย้อนหลังจากกรมสรรพากร

-ศึกษาสิทธิ์ลดหย่อนภาษี เพราะอาจช่วยลดภาระภาษีของคุณได้

สรุปแล้ว เทรดทอง เสียภาษีไหม

ขึ้นอยู่กับลักษณะของการลงทุนและกำไรที่ได้รับ หากการเทรดทองทำให้เกิดกำไร ถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ซึ่งต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากรายได้รวมทั้งปีไม่เกิน 150,000 บาท (สำหรับบุคคลธรรมดา) ก็ไม่ต้องเสียภาษี

กรณีที่ต้องเสียภาษี

1. ซื้อขายทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร – หากขายแล้วมีกำไร ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้

2. เทรด Gold Futures หรือทองคำในตลาดล่วงหน้า – หากมีกำไร ต้องนำไปรวมเป็นเงินได้พึงประเมิน

3. ทำธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ – เช่น ร้านทองออนไลน์ ต้องเสียภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม

กรณีที่ไม่ต้องเสียภาษี

1. ถือทองคำเพื่อสะสมมูลค่า โดยไม่มีการขายทำกำไร

2. รายได้จากการเทรดทองในปีนั้นไม่เกิน 150,000 บาท

เทรดทองในตลาด Forex ต้องเสียภาษีไหม?

การเทรดทองในตลาด Forex ถือเป็นการลงทุนในตราสารอนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่งนักลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของทองคำจริง แต่เก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา หากมีกำไรจากการเทรด ก็ถือเป็น เงินได้พึงประเมิน และมีเงื่อนไขเกี่ยวกับภาษี ดังนี้

กรณีที่ต้องเสียภาษี

1. หากมีรายได้จากการเทรด Forex รวมทั้งปีเกิน 150,000 บาท (สำหรับบุคคลธรรมดา) ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า

2. กรณีถอนกำไรเข้าบัญชีในไทย – เงินได้ที่เข้ามาในประเทศในปีที่ได้รับ ต้องนำไปคำนวณภาษี

3. หากเทรดในนามบริษัท – อาจต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

กรณีที่ไม่ต้องเสียภาษี

1. หากรายได้รวมจากการเทรดไม่ถึง 150,000 บาทต่อปี (ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา)

2. หากเก็บกำไรไว้ในบัญชีต่างประเทศ และไม่นำเงินเข้าประเทศไทยภายในปีภาษีนั้น

ทั้งนี้ การเทรดทอง เสียภาษีไหม ขึ้นอยู่กับรูปแบบของคุณ และะรายได้ที่ได้รับจากการซื้อขายทองคำ หากการเทรดทองทำให้เกิดกำไรที่ถือเป็น "เงินได้พึงประเมิน" ตามกฎหมายไทย จะต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) ภายในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป

โดยทั่วไป หากการเทรดทองคำเป็นลักษณะของการทำธุรกิจ เช่น ร้านค้าทอง หรือแพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายทองคำ การทำกำไรจากการขายทองจะถือเป็นรายได้ประเภทที่ 8 ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม หากเป็นการลงทุนส่วนบุคคลโดยมีจุดประสงค์เพื่อสะสมมูลค่าทรัพย์สิน อาจไม่ต้องเสียภาษีตราบใดที่รายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษี

ในกรณีของการเทรดทองผ่านตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ใน TFEX หรือการลงทุนในทองคำผ่าน Forex หากไม่มีการทำกำไรหรือขาดทุนจากการเทรด ก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากมีรายได้เกิดขึ้นจากการซื้อขายที่เข้าข่ายเป็นเงินได้พึงประเมิน ก็จะต้องยื่นภาษีตามกฎหมาย เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น

อย่างไรก็ตาม หากรายได้จากการเทรดทองในปีนั้นไม่เกินเกณฑ์ขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษี (ปัจจุบันอยู่ที่ 150,000 บาทต่อปีสำหรับบุคคลธรรมดา) ก็ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเงินได้ แต่ยังคงต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเพื่อความถูกต้องและป้องกันการถูกตรวจสอบย้อนหลัง

ดังนั้น นักลงทุนที่ทำกำไรจากการเทรดทองควรมีการจัดทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องและป้องกันความเสี่ยงจากภาษีย้อนหลัง หากไม่แน่ใจว่าต้องเสียภาษีหรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือกรมสรรพากรเพื่อความแน่นอน

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ