简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ทองคำพุ่งแตะ 3,697 ดอลลาร์ หลังคาดการณ์ Fed ลดดอกเบี้ย 0.25%

2025-09-16

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกันยายน 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น


ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Gold Price Today

ณ วันที่ 16 กันยายน 2025 ราคาทองคำตลาดสปอตปรับตัวขึ้นสู่ 3,697.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปีที่แล้ว ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวที่ 3,720.10 ดอลลาร์


การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำครั้งนี้มาจากปัจจัยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และความคาดหมายที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งหน้า นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีผ่อนคลายของ Fed อาจผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นได้อีก


ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำ


1) การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ไว้

ผู้เข้าร่วมตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุด และมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะปรับลด 50 จุดพื้นฐาน


อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน เช่น ทองคำลดลง และกดดันค่าเงินดอลลาร์ ทำให้ทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ใช้สกุลเงินอื่นมากขึ้น


2) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้ทองคำมีราคาลดลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น


3) ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ส่งผลให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนที่ต้องการปกป้องพอร์ตการลงทุนจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่างหันมาลงทุนในทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นไปอีก


แนวโน้มตลาด

Gold Price Surges

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ราคาทองคำจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่มีโอกาสเกิดการปรับฐานระยะสั้นราว 5–6% ก่อนที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและมีแนวโน้มทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2026 โดยบางการคาดการณ์ประเมินว่าราคาจะสูงกว่า 4,200 ดอลลาร์ ความเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในช่วงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงการเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนมุมมองขาขึ้นในระยะยาวของทองคำ


ผลการดำเนินงานของเงิน


ราคาเงินก็ได้รับประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาทองคำเช่นกัน โดยราคาแตะระดับ 42.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี การพุ่งขึ้นนี้เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาคเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเงินมีมูลค่าสูงเนื่องจากมีคุณสมบัตินำไฟฟ้าที่เหนือกว่า


ข้อควรพิจารณาในการลงทุน

Gold Price Performance USD

นักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำสามารถพิจารณากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) เช่น SPDR Gold Shares (GLD), iShares Gold Trust (IAU) และ VanEck Gold Miners ETF (GDX) โดยกองทุนเหล่านี้มีข้อดีแตกต่างกันด้านความคุ้มค่า ผลตอบแทน และความสะดวกในการซื้อขาย


บทสรุป


การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในปัจจุบันเกิดจากความคาดหมายการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานระยะสั้น แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ทอง XAU/USD วิ่งแรง แตะ $3,675 จับตา CPI คืนนี้กำหนดทิศทาง FED
ทองคำทำสถิติใหม่ ดอลลาร์สหรัฐแกว่ง ตลาดลุ้น Fed ลดดอกเบี้ยแรงสุดรอบปี
ทองคำ XAU/USD พุ่งแรงแตะนิวไฮ ด้าน Google ถูกรัฐคุมเข้ม
ทองคำชะงัก 3,635 ดอลลาร์ แรงขายฉุด แม้ FED จ่อหั่นดอกเบี้ยหนุน
เทรนด์ AI จุดพลุหุ้น AVGO ทุบ ATH แต่ทอง-น้ำมันยังไม่ฟื้น