เผยแพร่เมื่อ: 2025-09-18 อัปเดตเมื่อ: 2025-09-19
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมราคาหุ้นบางครั้งเคลื่อนไหวอย่างไร้เหตุผล หรือทำไมคู่สกุลเงินถึงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกลับร่วงลงภายในเวลาไม่กี่นาที? ในหลายกรณี สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของตลาด แต่คือ Market Manipulation
Market Manipulation คือ การบิดเบือนราคาในตลาดอย่างตั้งใจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งอาจมาในรูปแบบที่แนบเนียน เช่น การปล่อยข่าวลือเท็จเกี่ยวกับบริษัท ไปจนถึงการวางคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ที่ไม่มีเจตนาจริงเพื่อหลอกล่อผู้เทรดคนอื่น นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงเพราะบั่นทอนความยุติธรรมและความน่าเชื่อถือของตลาดการเงินทั่วโลก
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Market Manipulation ไม่ว่าจะเป็นวิธีการสังเกต เทคนิคที่มักถูกใช้โดยผู้บิดเบือนราคา และแนวทางปฏิบัติที่นักเทรดทุกคนสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้
Market Manipulation คือ การกระทำหรือแผนการที่ตั้งใจหลอกลวงนักลงทุนโดยการบิดเบือนอุปทานหรือราคาของสินทรัพย์ แทนที่จะปล่อยให้แรงอุปสงค์และอุปทานเป็นตัวกำหนดราคา ผู้บิดเบือนจะใช้กลยุทธ์ที่หลอกลวงเพื่อทำให้สินทรัพย์ดูมีมูลค่ามากหรือน้อยกว่าความจริง
ในหลายประเทศ การบิดเบือนตลาดถือว่าผิดกฎหมาย การบิดเบือนสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายตลาด เช่น หุ้น Forex และคริปโตเคอร์เรนซี ส่วนใหญ่เป็นเพราะยากต่อการตรวจสอบกิจกรรมทั้งหมด
เป้าหมายของผู้บิดเบือนเหล่านี้ชัดเจน พวกเขาต้องการหลอกล่อเทรดเดอร์ให้ซื้อหรือขายสินทรัพย์ เพื่อให้ได้กำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดจากการบิดเบือนนี้
เกิดขึ้นเมื่อผู้บิดเบือนราคาเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์อย่างเทียมโดยการสร้างกระแสความนิยมหรือซื้ออย่างหนัก จากนั้นจึงขายออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาพุ่งขึ้นแล้วร่วงลงทันที
ตลาดที่พบมาก: หุ้นราคาต่ำ (Penny stocks) และคริปโตเคอร์เรนซี
ตัวอย่าง : เหรียญ Altcoin ขนาดเล็กพุ่งขึ้น 200% ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังมีข่าวบนโซเชียลมีเดีย แต่ร่วงทันทีเมื่อผู้มีข้อมูลภายในขายออก
Spoofing คือ การวางคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่เทียมเพื่อหลอกล่อให้ผู้อื่นคิดว่ามีความต้องการหรืออุปทานสูง ส่วน Layering คือ การวางคำสั่งเทียมหลายระดับราคา เมื่อราคาขยับ ผู้บิดเบือนจะยกเลิกคำสั่ง
ผลกระทบ : หลอกล่อเทรดเดอร์ให้เปิดตำแหน่งตามอุปสงค์ที่เป็นเท็จ
ตัวอย่าง : คำสั่งขายขนาดใหญ่ทำให้เกิดความตื่นตระหนก แต่คำสั่งถูกยกเลิกทันทีหลังนักเทรดรายย่อยขายหุ้น
คือ การซื้อขายสินทรัพย์เดียวกันพร้อมกันเพื่อสร้างภาพลวงตาของกิจกรรมและปริมาณการซื้อขาย
ความสำคัญ : ปริมาณปลอมดึงดูดเทรดเดอร์รายใหม่ ทำให้เชื่อว่าสินทรัพย์นั้นเป็นที่ต้องการ
มักพบใน : การแลกเปลี่ยน Crypto ที่มีกฎระเบียบต่ำ
การเผยแพร่ข่าวเท็จหรือเกินจริงเกี่ยวกับบริษัทหรือสกุลเงินเพื่อกระทบราคาสินทรัพย์
ตัวอย่าง : ข่าวประชาสัมพันธ์เท็จอ้างว่าบริษัทเทคโนโลยีเซ็นสัญญามูลค่าหลายพันล้าน ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นก่อนร่วงเมื่อความจริงปรากฏ
ผู้บิดเบือนทำการ short sell จำนวนมากพร้อมกับเผยแพร่ข่าวลบเพื่อกดราคาหุ้นลง
ผลลัพธ์ : นักลงทุนรายย่อยขายหุ้นตื่นตระหนก
ตัวอย่าง : กองทุน Hedge Fund ถูกกล่าวหาว่า short หุ้น GameStop ก่อนเกิด Short Squeeze ในปี 2021
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสะสมสินทรัพย์จำนวนมากเพื่อครอบงำราคาตลาด
ตัวอย่าง : พี่น้อง Hunt พยายามควบคุมตลาดเงินฝากเงิน (Silver) ในปี 1980 ทำให้ราคาพุ่งสูงสุดก่อนที่หน่วยงานกำกับดูแลจะเข้ามาแทรกแซง
แม้ในปี 2025 การบิดเบือนตลาดยังคงเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์อินเดีย (Indian Securities and Exchange Board) เพิ่งสั่งห้ามบริษัทการค้าสัญชาติอเมริกา Jane Street เข้าร่วมตลาดอินเดีย หลังมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการบิดเบือนราคาที่เกี่ยวข้องกับการ Arbitrage และการซื้อขายอนุพันธ์มูลค่า 566 ล้านดอลลาร์
ตัวอย่างเพิ่มเติม ได้แก่:
GameStop Short Squeeze (2021) : กองทุน Hedge Fund short หุ้น GME อย่างหนัก จนเกิดข้อกล่าวหาว่าเป็น Bear Raid นักลงทุนรายย่อยบน Reddit ตอบโต้ ทำให้เกิด Short Squeeze ครั้งประวัติศาสตร์
กลุ่ม Crypto Pump : กลุ่มในแพลตฟอร์มอย่าง Telegram ประสานการปั๊มราคาของ Altcoin ขนาดเล็ก ดึงดูดนักเทรดใหม่ ก่อนขายออก
คดี LIBOR Scandal (2012) : ธนาคารใหญ่หลายแห่งบิดเบือนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลก
กรณีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการบิดเบือนตลาดเป็นความจริง และเกิดขึ้นได้ทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยจนถึงสถาบันขนาดใหญ่
แม้จะไม่สามารถคาดการณ์ทุกแผนการบิดเบือนได้ทั้งหมด แต่สามารถสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ ได้ดังนี้:
ราคาพุ่งสูงผิดปกติโดยไม่มีข่าวที่ชัดเจนหรือเหตุผลพื้นฐานรองรับ
ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ
ข่าวปลอมหรือกระแสฮือฮาแพร่กระจายไปทั่วโซเชียลมีเดีย
คำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ปรากฏแล้วหายไปอย่างรวดเร็วในสมุดคำสั่ง
ความผันผวนสูงในสินทรัพย์ที่โดยปกติราคาจะนิ่ง
ถ้าบางอย่างรู้สึกว่า "ดีเกินกว่าจะเป็นจริง" มักจะเป็นเช่นนั้น
สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน การมีกลยุทธ์ป้องกันตนเองเป็นสิ่งสำคัญ:
ทำการวิจัยด้วยตัวเอง : ตัดสินใจโดยอิงข้อมูลที่เชื่อถือได้และพื้นฐานแทนข่าวลือหรือกระแส
ระวังข้อเสนอที่ "ดีเกินจริง" : ไม่ควรเชื่อราคาพุ่งหรือสัญญากำไรเร็วโดยไม่มีเหตุผล
ใช้ Limit Orders: หลีกเลี่ยงการใช้ Market Orders เพราะอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนเทียม
กระจายพอร์ตลงทุน: การกระจายความเสี่ยงช่วยลดการรับผลกระทบจากหุ้นที่ถูกบิดเบือน
ติดตามกิจกรรมการเทรดของตัวเอง : ตรวจสอบบัญชีและประวัติการเทรดอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาความผิดปกติ
ติดตามข่าวสารตลาด : อัปเดตจากหน่วยงานกำกับดูแลและสื่อการเงินที่เชื่อถือได้
รายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย : แจ้งโบรกเกอร์หรือหน่วยงานกำกับดูแลหากพบการเทรดหรือพฤติกรรมราคาที่น่าสงสัย
การเข้าใจการจัดการเป็นสิ่งสำคัญเพราะว่า:
ทำให้ราคาสินทรัพย์บิดเบือนจากมูลค่าที่แท้จริง ทำให้ยากต่อการเทรดโดยอิงปัจจัยพื้นฐานหรือสัญญาณทางเทคนิค
อาจก่อให้เกิดการขาดทุนโดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะมือใหม่ที่ติดตามราคามากกว่าข้อมูลจริง
การรู้จักสัญญาณบิดเบือนตั้งแต่ต้นช่วยหลีกเลี่ยงกับดัก และบางครั้งสามารถทำกำไรโดยเทรดสวนกับผู้บิดเบือนได้
หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังเสริมสร้างกลไกตรวจจับและบังคับใช้กฎหมาย:
เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบด้วย AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
มีโปรแกรม whistleblower ให้ความคุ้มครองและรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส
กำหนดโทษหนัก ห้ามเทรด และดำเนินมาตรการแก้ไข
ให้ความรู้แก่นักลงทุนเกี่ยวกับสัญญาณเตือนและวิธีป้องกัน Market Manipulation
อินเดีย และหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น US SEC, UK FCA และ European ESMA กำลังเป็นผู้นำในการปกป้องตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาพุ่งสูงอย่างกะทันหันโดยไม่มีข่าวสาร การยกเลิกคำสั่งซื้อที่ผิดปกติ ปริมาณการซื้อขายที่พุ่งสูง และการโปรโมตหุ้นอย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย
การใช้ข้อมูลภายในที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และมักเกี่ยวข้องกับการบิดเบือนตลาดหากทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการซื้อขาย
แจ้งความสงสัยต่อโบรกเกอร์หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบ
สรุปได้ว่า Market Manipulation คือความเสี่ยงร้ายแรงต่อความยุติธรรมของตลาดการเงินและความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก ตั้งแต่ Pump and Dump ไปจนถึง Spoofing และการบิดเบือนด้วยข่าวลือ กลยุทธ์อาจแตกต่างกัน แต่เป้าหมายคือเหมือนกันเสมอ จะหาผลกำไรจากนักลงทุนที่ขาดข้อมูล
ข่าวดีคือ การสังเกตสัญญาณเตือน การบริหารความเสี่ยง และการมุ่งเน้นตลาดที่โปร่งใส สามารถช่วยหลีกเลี่ยงกับดักส่วนใหญ่ได้ จำไว้ว่าตลาดให้รางวัลแก่ความอดทน วินัย และความรู้ ไม่ใช่การตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่นต่อกระแสข่าวหรือ hype
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ