Pennant Pattern คืออะไร? รูปแบบที่นักเทรดควรรู้

ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค Pennant Pattern ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟสำคัญที่นักเทรดมักจับตามอง รูปแบบนี้จะปรากฏขึ้นหลังจากราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง แล้วตามมาด้วยช่วงเวลาสั้น ๆ ของการแกว่งตัวแคบลง

ลักษณะของรูปแบบนี้จะคล้ายกับสามเหลี่ยมสมมาตรขนาดเล็ก ที่มีกรอบด้านบนและด้านล่างเอียงเข้าหากัน ขณะที่ราคาค่อย ๆ บีบตัวแคบลง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ วรูปแบบนี้มักถูกมองว่าเป็นรูปแบบต่อเนื่อง (Continuation Pattern) ซึ่งบ่งชี้ว่าหลังจากช่วงพักตัว ราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวต่อในทิศทางเดียวกับแนวโน้มก่อนหน้า

การเข้าใจถึงการทำงานของรูปแบบ Pennant Pattern จะช่วยให้นักเทรดมีความได้เปรียบในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจความหมาย วิธีการระบุ และแนวทางการเทรดโดยใช้รูปแบบนี้อย่างมืออาชีพ

Pennant Pattern คืออะไร?

รูปแบบ Pennant Pattern เกิดขึ้นหลังจากราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ซึ่งเรียกช่วงนี้ว่า “เสาธง” (Flagpole) จากนั้นราคาจะเข้าสู่ช่วงพักตัว โดยแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมที่มีเส้นแนวโน้มสองเส้นลู่เข้าหากัน กลายเป็นรูปทรงของ “ธงสามเหลี่ยม” หรือที่เรียกว่า Pennant

ในช่วงพักตัวนี้ ปริมาณการซื้อขายมักจะลดลง เนื่องจากนักลงทุนรอดูทิศทางการเคลื่อนไหวถัดไปของราคา และเมื่อราคาเบรกทะลุกรอบของรูปแบบ Pennant ไม่ว่าจะเป็นฝั่งบนหรือฝั่งล่าง มักจะเป็นสัญญาณว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปตามแนวโน้มเดิมก่อนหน้า หากเบรกขึ้นเหนือแนวต้าน ถือเป็นสัญญาณขาขึ้น (Bullish) แต่หากทะลุแนวรับลงมา มักถือเป็นสัญญาณขาลง(Bearish)

นักเทรดในตลาดต่าง ๆ เช่น หุ้น Forex และสกุลเงินดิจิทัล นิยมใช้รูปแบบนี้เพื่อค้นหาจังหวะเข้าซื้อขายในทิศทางของแนวโน้มเดิม

วิธีระบุรูปแบบ Pennant Pattern

หากต้องการระบุรูปแบบ Pennant Pattern บนกราฟ ราคาคุณควรมองหาสัญญาณสำคัญบางประการดังนี้ อันดับแรก ต้องมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวนี้จะสร้างสิ่งที่เรียกว่า “เสาธง” (Flagpole) ซึ่งถือเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่ารูปแบบ Pennant กำลังเริ่มก่อตัว

เมื่อราคากลับเข้าสู่ช่วงพักตัว (Consolidation) บนกราฟจะปรากฏเป็นรูปสามเหลี่ยมสมมาตร ราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของเส้นแนวโน้มสองเส้นที่ลู่เข้าหากัน และปริมาณการซื้อขาย (Volume) มักจะลดลงในช่วงนี้ ระยะเวลาของช่วงพักตัวอาจกินเวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่คุณใช้เทรด

หลังจากช่วงพักตัว สิ่งที่นักเทรดรอคอยคือการเบรกเอาต์ (Breakout) ของราคา ซึ่งมักจะมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นี่คือสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบ Pennant สมบูรณ์และเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการเข้าเทรด

กลยุทธ์การเทรดด้วยรูปแบบ Pennant Pattern

เมื่อคุณสามารถระบุรูปแบบ Pennant Pattern ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตัดสินใจว่าจะเทรดอย่างไร โดยทั่วไป แนวคิดในการเทรดรูปแบบนี้คือการรอให้เกิดการเบรกเอาต์ (Breakout) ก่อนหากราคาทะลุกรอบขึ้นไป ถือเป็นสัญญาณขาขึ้น (Bullish) แต่ถ้าทะลุกรอบลงมาถือเป็นสัญญาณขาลง (Bearish)

สำหรับนักเทรดที่ต้องการเปิดสถานะ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการรอให้ราคาทะลุกรอบของ Pennant และยืนยันทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา หลังจากการเบรก ราคามักจะเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มก่อนหน้า ทำให้รูปแบบนี้จัดเป็นรูปแบบต่อเนื่อง (Continuation Pattern)

วิธีที่นิยมใช้ในการตั้งเป้าราคาหลังเบรกคือการวัดความสูงของ “เสาธง” (Flagpole) ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วก่อนพักตัว แล้วนำความสูงนี้ไปฉายต่อจากจุดที่ราคาเบรกออกมา วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดตั้งเป้าราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับการเทรด

อย่างไรก็ตาม การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) เป็นสิ่งสำคัญมาก หากการเบรกไม่เกิดขึ้นจริงหรือเป็นสัญญาณหลอก (False Breakout) ราคาสามารถกลับตัวได้ การตั้ง Stop-loss จะช่วยจำกัดความเสี่ยงและลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

Bullish vs Bearish Pennant Pattern

รูปแบบ Pennant แบบขาขึ้น (Bullish Pennant) เกิดขึ้นหลังจากราคามีการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จากนั้นราคาจะเข้าสู่ช่วงพักตัวในกรอบสามเหลี่ยม หากราคาทะลุกรอบด้านบนของ Pennant ได้สำเร็จ มักเป็นสัญญาณว่าราคาอาจจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป นักเทรดมักใช้รูปแบบนี้เป็นจังหวะเข้าซื้อ (Long Position)

ในทางกลับกัน รูปแบบ Pennant แบบขาลง (Bearish Pennant) จะเกิดขึ้นหลังจากราคาปรับตัวลงอย่างรุนแรง แล้วเข้าสู่ช่วงพักตัวเช่นเดียวกัน โดยราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม หากราคาทะลุกรอบด้านล่างของ Pennant ลงมา มักถือเป็นสัญญาณการต่อเนื่องของแนวโน้มขาลง นักเทรดจึงอาจใช้จังหวะนี้ในการเปิดสถานะขาย (Short Position)

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

แม้ว่ารูปแบบ Pennant จะถือว่าเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่นักเทรดควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ การเข้าเทรดเร็วเกินไป การรีบเข้าสถานะก่อนที่ราคาจะเบรกกรอบแนวโน้มอย่างชัดเจน อาจนำไปสู่สัญญาณหลอก (False Signal) และเกิดการขาดทุนโดยไม่จำเป็น ดังนั้น ความอดทน เป็นกุญแจสำคัญในการใช้รูปแบบนี้

นอกจากนี้ ไม่ให้ความสำคัญกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) หากเกิดการเบรกเอาต์แต่ไม่มีวอลุ่มรองรับ มักบ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้มใหม่ และมีโอกาสสูงที่ราคาจะย้อนกลับ นักเทรดควรให้ความสำคัญกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นขณะเกิดเบรก เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของรูปแบบ

สุดท้าย เทรดในตลาดที่ผันผวนและไม่มีแนวโน้มชัดเจน (Sideway/Choppy Market) รูปแบบ Pennant เหมาะกับการใช้ในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน เพราะจะสร้างกรอบพักตัวที่มีคุณภาพ การใช้รูปแบบนี้ในตลาดไร้ทิศทางอาจนำไปสู่สัญญาณหลอกบ่อยครั้ง

สรุป

รูปแบบ Pennant Pattern เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคที่ทรงพลังในการระบุโอกาสเทรดในทิศทางของแนวโน้มเดิมหลังจากเกิดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง โดยการรอให้เกิดการเบรกอย่างชัดเจน พร้อมกับการใช้กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม จะช่วยให้นักเทรดสามารถใช้รูปแบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าคุณจะเทรดในตลาดหุ้น Forex หรือสกุลเงินดิจิทัล การเข้าใจและประยุกต์ใช้ Pennant Pattern อย่างถูกต้อง จะช่วยยกระดับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและเสริมความมั่นใจในกลยุทธ์การลงทุนของคุณ

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ