เรียนรู้วิธีการซื้อขายฟอเร็กซ์และหุ้นโดยใช้กลยุทธ์อินดิเคเตอร์ Supertrend ค้นพบการตั้งค่าที่ดีที่สุด และวิธีนำไปใช้กับการซื้อขายรายวันและการซื้อขายแบบสวิง
ตัวบ่งชี้ Supertrend เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ในตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้น ตัวบ่งชี้นี้ติดตามแนวโน้มซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ระบุทิศทางของตลาดได้และให้สัญญาณซื้อและขายที่ชัดเจน
เนื่องจากความเรียบง่ายและความน่าเชื่อถือ ตัวบ่งชี้ Supertrend จึงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ซื้อขายที่มองหากลยุทธ์ที่ง่ายดายแต่ทรงพลังในการนำทางตลาด
ตัวอย่างเช่น ความแม่นยำของตัวบ่งชี้ Supertrend ทำให้ตัวบ่งชี้นี้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของผู้ซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายภายในวัน การซื้อขายแบบสวิง หรือการลงทุนระยะยาว
ตัวบ่งชี้ Supertrend คือตัวบ่งชี้การติดตามแนวโน้มที่ซ้อนทับการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อให้สัญญาณซื้อและขายที่ชัดเจน ตัวบ่งชี้นี้มาจาก Average True Range (ATR) ซึ่งใช้ในการวัดความผันผวนของตลาด
ตัวบ่งชี้ประกอบด้วยเส้นไดนามิกเส้นเดียวที่ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาและเปลี่ยนสีตามทิศทางของแนวโน้ม ตัวอย่างเช่น เมื่อราคาอยู่เหนือเส้น Supertrend ตัวบ่งชี้จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น เมื่อราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น Supertrend ตัวบ่งชี้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง
สูตร Supertrend คำนวณได้ดังนี้:
แบนด์บน = (สูง + ต่ำ) / 2 + (ตัวคูณ × ATR)
แบนด์ล่าง = (สูง + ต่ำ) / 2 − (ตัวคูณ × ATR)
สูง : ราคาสูงสุดในช่วงปัจจุบัน
ต่ำ : ราคาที่ต่ำที่สุดในช่วงปัจจุบัน
ตัวคูณ: ปัจจัยที่ตั้งไว้ล่วงหน้า (โดยปกติคือ 2 หรือ 3)
ATR: ช่วงจริงเฉลี่ย (โดยทั่วไปจะใช้ ATR 14 ช่วงเวลา)
สมมติว่าเรากำลังคำนวณตัวบ่งชี้ Supertrend สำหรับ EUR/USD บนกราฟ 1 ชั่วโมง และเรามีข้อมูลดังต่อไปนี้:
ราคาสูง: 1.1050
ราคาต่ำ: 1.1000
ATR 14 งวด: 0.0025
ตัวคูณ: 2
จำนวนเงินที่คำนวณได้จะเป็นดังนี้:
แบนด์บน: (1.1050+1.1000)/2 + (2×0.0025) == 1.1075
แถบล่าง: (1.1050+1.1000)/2 - (2×0.0025) == 1.0975
ลองสมมติว่าราคาปิดอยู่ที่ 1.1080 เนื่องจากราคาอยู่เหนือแถบบน Supertrend จึงเปลี่ยนเป็นขาขึ้น และผู้ซื้อขายสามารถมองหาโอกาสซื้อได้
หรืออีกทางหนึ่ง ถ้าราคาปิดอยู่ที่ 1.0960 ราคาจะต่ำกว่าแถบล่าง ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง และผู้ซื้อขายจะพิจารณาเปิดตำแหน่งขาย
ดังที่ได้กล่าวไว้ ตัวบ่งชี้ Supertrend ถูกใช้ในหลายวิธีเพื่อระบุแนวโน้มของตลาด สร้างสัญญาณการซื้อขาย และจัดการความเสี่ยง แนวคิดพื้นฐานเบื้องหลังตัวบ่งชี้ Supertrend คือ เมื่อราคาเคลื่อนไหวเหนือเส้น Supertrend แสดงว่ามีโอกาสซื้อ เมื่อราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น Supertrend แสดงว่ามีโอกาสขาย
สำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ ตัวบ่งชี้ Supertrend ใช้เพื่อระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งในคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD และ USD/JPY เทรดเดอร์ที่ใช้ Supertrend ในฟอเร็กซ์อาจเข้าสู่ตำแหน่งซื้อเมื่อ Supertrend เปลี่ยนเป็นสีเขียว และวางจุดตัดขาดทุนไว้ด้านล่างเส้นตัวบ่งชี้เพื่อป้องกันการกลับตัวกะทันหัน ในทำนองเดียวกัน เทรดเดอร์อาจเข้าสู่ตำแหน่งขายเมื่อตัวบ่งชี้เปลี่ยนเป็นสีแดงในแนวโน้มขาลง โดยตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ด้านบนเส้นตัวบ่งชี้
สำหรับการซื้อขายหุ้น เทรดเดอร์ใช้ตัวบ่งชี้ Supertrend เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มและจัดการการเข้าและออกการซื้อขายในหุ้นบลูชิป หุ้นขนาดกลาง และหุ้นเพนนี เทรดเดอร์หุ้นที่ต้องการซื้อหุ้นอาจรอให้ Supertrend เปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนจึงจะเข้าสู่สถานะซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าหุ้นนั้นอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่ได้รับการยืนยัน ในทางกลับกัน หาก Supertrend เปลี่ยนเป็นสีแดง แสดงว่าเป็นสัญญาณของช่วงขาลง ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสในการขายชอร์ตที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้ Supertrend ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายระหว่างวัน เนื่องจากปรับตัวตามความผันผวนได้ และให้จุดเข้าและออกโดยตรง เมื่อนำไปใช้กับกรอบเวลาสั้น เช่น แผนภูมิ 1 นาที 5 นาที หรือ 15 นาที Supertrend จะช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว
กลยุทธ์การซื้อขายรายวันของ Supertrend ขั้นพื้นฐานเกี่ยวข้องกับการมองหาสัญญาณซื้อเมื่อราคาเคลื่อนไหวเหนือเส้น Supertrend และมองหาสัญญาณขายเมื่อราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นดังกล่าว การตั้งค่า Supertrend ที่เหมาะสมคือ ATR 10 พร้อมตัวคูณ 2 การตั้งค่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างรวดเร็วในขณะที่กรองความผันผวนเล็กน้อยออกไป อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาตัวบ่งชี้ Supertrend เพียงอย่างเดียวอาจส่งผลให้เกิดสัญญาณปลอม โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนหรือเคลื่อนไหวด้านข้าง
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการใช้ตัวบ่งชี้ Supertrend ในการซื้อขายรายวันคือการรวมเข้ากับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ การวิเคราะห์ปริมาณ หรือตัวบ่งชี้โมเมนตัม เช่น Relative Strength Index (RSI) หรือ MACD จะช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มและลดโอกาสที่ราคาจะทะลุแนวรับที่ผิดพลาด
โดยทั่วไปแล้ว เดย์เทรดเดอร์จะเข้าสู่ตำแหน่งซื้อเมื่อ Supertrend เปลี่ยนเป็นสีเขียว และตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ด้านล่างเส้น Supertrend เล็กน้อย ในทำนองเดียวกัน ให้เข้าสู่ตำแหน่งขายเมื่อ Supertrend เปลี่ยนเป็นสีแดง โดยตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ด้านบนเส้นตัวบ่งชี้
ในทางกลับกัน การเทรดแบบสวิงจะเน้นที่การจับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง ซึ่งโดยทั่วไปจะกินเวลาตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหลายสัปดาห์ ตัวบ่งชี้ Supertrend มีประสิทธิภาพสูงสำหรับนักเทรดแบบสวิง เนื่องจากช่วยระบุแนวโน้มที่โดดเด่นและกรองความผันผวนในระยะสั้นออกไป ซึ่งแตกต่างจากนักเทรดรายวันซึ่งเน้นที่กรอบเวลาสั้น นักเทรดแบบสวิงจะใช้ตัวบ่งชี้ Supertrend กับแผนภูมิรายวันหรือ 4 ชั่วโมงเพื่อระบุแนวโน้มในระยะยาว
การตั้งค่า Supertrend ที่แนะนำสำหรับการซื้อขายแบบสวิงคือ ATR 14 พร้อมตัวคูณ 3 การตั้งค่าเหล่านี้จะช่วยให้ราคาดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและให้สัญญาณน้อยลงแต่เชื่อถือได้มากกว่า
ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงโดยทั่วไปที่ใช้ตัวบ่งชี้ Supertrend เกี่ยวข้องกับการเข้าทำการซื้อขายแบบซื้อเมื่อตัวบ่งชี้เปลี่ยนเป็นสีเขียว และอยู่ในการซื้อขายนั้นจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสีแดง เนื่องจากการเทรดแบบสวิงเกี่ยวข้องกับการถือครองการซื้อขายนานกว่า จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องวางจุดตัดขาดทุนที่กว้างขึ้นเพื่อรองรับความผันผวนของตลาดตามปกติ
กลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงที่มีประสิทธิผลที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวข้องกับระดับการย้อนกลับของฟีโบนัชชี หากราคาถอยกลับไปที่ระดับแนวรับฟีโบนัชชีที่สำคัญในขณะที่ตัวบ่งชี้ Supertrend ยังคงเป็นขาขึ้น แสดงว่ามีโอกาสที่ดีเยี่ยมในการเข้าทำการซื้อขายแบบซื้อ ในทำนองเดียวกัน หากราคาถอยกลับไปที่ระดับแนวต้านของฟีโบนัชชีในขณะที่ตัวบ่งชี้ Supertrend ยังคงเป็นขาลง แสดงว่าอาจเข้าสู่การซื้อขายแบบขาย
กลยุทธ์อินดิเคเตอร์ Supertrend ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างหนึ่งคือการใช้อินดิเคเตอร์เป็นตัวกรองเทรนด์แบบสแตนด์อโลน ผู้ซื้อขายมองหาจุดตัดของ Supertrend ซึ่งราคาจะเปลี่ยนจากด้านล่างของอินดิเคเตอร์ไปอยู่เหนืออินดิเคเตอร์ (สัญญาณขาขึ้น) หรือจากด้านบนอินดิเคเตอร์ไปอยู่ใต้อินดิเคเตอร์ (สัญญาณขาลง) วิธีนี้ช่วยให้มีจุดเข้าที่ชัดเจนในตลาดที่มีแนวโน้ม
กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพอีกประการหนึ่งคือกลยุทธ์การทะลุแนวรับหรือแนวต้าน Supertrend สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์จะมองหากรณีที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านสำคัญหรือแนวรับหลักในขณะที่ตัวบ่งชี้ Supertrend อยู่ในทิศทางเดียวกับการทะลุแนวรับ การทะลุแนวรับที่ Supertrend รองรับมักจะบ่งชี้ถึงความต่อเนื่องของโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ในการเข้าสู่ตำแหน่งในช่วงต้นของแนวโน้ม
โดยสรุปแล้ว ตัวบ่งชี้ Supertrend เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มตลาดในการซื้อขายฟอเร็กซ์และหุ้น โดยการระบุสัญญาณซื้อและขายที่ชัดเจน การกรองสัญญาณรบกวนในตลาด และการให้ระดับการสนับสนุนและการต้านทานแบบไดนามิก Supertrend จึงช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการซื้อขาย
การเชี่ยวชาญกลยุทธ์ตัวบ่งชี้ Supertrend จำเป็นต้องมีการฝึกฝน และผู้ซื้อขายควรปรับตัวคูณ ATR ตามสภาวะตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ซื้อขายเข้าใจวิธีตีความสัญญาณแล้ว ตัวคูณ ATR จะกลายเป็นเครื่องมืออันล้ำค่าสำหรับการตัดสินใจซื้อขายที่ทำกำไรได้ในตลาดฟอเร็กซ์ หุ้น และตลาดการเงินอื่นๆ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ปี 2025 อาจได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยสำคัญ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจจีน พร้อมกลยุทธ์รับมือกับความผันผวนในตลาด
2025-03-23เปิดสาเหตุทำไมหุ้น ai จีน โดยเฉพาะ DeepSeek ถึงมาแรงในปี 2025 พร้อมวิเคราะห์โอกาสการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนและผลกระทบจากเทคโนโลยี AI ใหม่ของจีน
2025-03-23เทรดทองต้องรู้อะไร? ส่องปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ เช่น อุปสงค์-อุปทาน อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ นโยบายธนาคารกลาง และเรียนรู้การวิเคราะห์ด้วย RSI,MACD
2025-03-23