กลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลจริง เพื่อสาย Day Trade โดยเฉพาะ

2024-07-30
สรุป

การเทรดหุ้นแบบ Day Trade เป็นการซื้อขายหุ้นภายในวันเดียวกัน การเทรดประเภทนี้จะเน้นการทำกำไรแบบระยะสั้น ๆ โดยไม่ถือครองหุ้นข้ามวัน ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และต้องมีการตัดสินใจอย่างรวดเร็วด้วย นักเทรดจะต้องคอยติดตามกราฟราคาหุ้นตลอดทั้งวัน และใช้เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคต่าง ๆ

การเทรดหุ้นแบบ Day Trade เป็นการซื้อขายหุ้นภายในวันเดียวกัน การเทรดประเภทนี้จะเน้นการทำกำไรแบบระยะสั้น ๆ โดยไม่ถือครองหุ้นข้ามวัน ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และต้องมีการตัดสินใจอย่างรวดเร็วด้วย นักเทรดจะต้องคอยติดตามกราฟราคาหุ้นตลอดทั้งวัน และใช้เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ หรือที่เรียกกันเล่น ๆ ว่า “เฝ้าจอ”

ทั้งนี้ลักษณะของ Day Trade ก็มีหลายรูปแบบ เช่น การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Trading) ซึ่งเน้นการเทรดตามทิศทางหลักของราคา, การเทรดแบบสวิง (Swing Trading) ที่เน้นการจับจังหวะการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาในระยะสั้น และการเทรดแบบ Breakout ที่เน้นการเข้าซื้อหรือขายเมื่อราคาหุ้นผ่านจุดแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ เป็นต้น

Day Trade เหมาะกับการเทรดหุ้นแบบไหน


การเทรดหุ้นแบบ Day Trade เหมาะกับหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายสูง (High Liquidity) และมีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างชัดเจน (High Volatility) ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าและออกจากตลาดได้อย่างรวดเร็ว และมีโอกาสทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้น หุ้นที่เหมาะกับการ Day Trade มักเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็วและเป็นที่นิยมของนักลงทุนทั่วไป นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มการเงินและพลังงานก็เป็นที่นิยม เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายสูง และมักมีความผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน

การเลือกหุ้นสำหรับ Day Trade ยังต้องพิจารณาหุ้นที่มีการประกาศข่าวสำคัญ เช่น ผลประกอบการรายไตรมาส ข่าวการควบรวมกิจการ หรือข่าวการเปลี่ยนแปลงในทีมผู้บริหาร เนื่องจากข่าวดังกล่าวสามารถส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้ด้วย

กลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลจริง สำหรับสายเทรดหุ้นแบบ Day Trade


1. กลยุทธ์การใช้กราฟเทคนิค (Technical Analysis)

การวิเคราะห์แนวรับ-แนวต้าน (Support-Resistance) แนวรับ คือ ระดับราคาที่ราคาหุ้นมีแนวโน้มที่จะหยุดไหลลงและกลับขึ้นมา ส่วนแนวต้าน คือ ระดับราคาที่ราคาหุ้นมีแนวโน้มที่จะหยุดพุ่งขึ้นและกลับลดลง การใช้แนวรับและแนวต้านช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดเข้าซื้อและจุดขาย ที่มีโอกาสทำกำไรได้สูง

การใช้ Moving Average เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นเครื่องมือที่มักนิยมใช้กับสาย Day Trade โดยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA) จะช่วยให้นักเทรดเห็นแนวโน้มของตลาดในระยะสั้นและระยะยาวได้ดีขึ้น

การใช้ Indicators ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น Relative Strength Index (RSI) ที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของราคาหุ้น, Moving Average Convergence Divergence (MACD) ที่ใช้ระบุการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม, และ Bollinger Bands ที่ใช้ระบุช่วงความผันผวนของราคา การใช้ Indicators เหล่านี้ประกอบการวิเคราะห์กราฟ จะช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดเข้าซื้อขายได้คมขึ้น


2. กลยุทธ์การใช้ข่าวสาร (News Trading)

              การติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ เช่น การประกาศตัวเลข GDP, อัตราดอกเบี้ย, และตัวเลขการจ้างงาน สามารถส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้อย่างมาก นักเทรดควรติดตามข่าวสารที่มีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อการลงทุนทุกวัน

              การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทของหุ้นที่จะลงทุน ข่าวเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การเปลี่ยนแปลงในทีมผู้บริหาร หรือการประกาศแผนการควบรวมกิจการ สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก การติดตามข่าวสารเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้นได้


3. กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

              การตั้ง Stop Loss คือ การกำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) เป็นการกำหนดจำนวนเงินที่สูญเสียได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ เป็นจุดที่นักเทรดพร้อมจะยอมรับการขาดทุนในแต่ละครั้งเพื่อจำกัดความเสียหาย การตั้ง Stop Loss ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมความเสี่ยงและป้องกันการขาดทุนมากเกินไปได้เป็นอย่างดี

              การใช้ Position Sizing คือ การกำหนดขนาดของการลงทุนในแต่ละครั้งที่เข้าเทรด ซึ่งต้องกำหนดให้เหมาะสมกับขนาดของพอร์ตและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การใช้ Position Sizing จะช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสในการขาดทุนได้

              การติดตามและปรับกลยุทธ์ นักเทรดควรติดตามผลลัพธ์ของการเทรดอย่างสม่ำเสมอ และปรับปรุงกลยุทธ์ตามสถานการณ์ตลาด หรือเมื่อกลยุทธ์เดิมมี Win Rate ต่ำ ลงเรื่อย ๆ การวิเคราะห์ผลลัพธ์จะช่วยให้นักเทรดสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในอนาคต


6.jpg


ข้อดีของการใช้รูปแบบ Day Trade

              1. ทำกำไรได้ในระยะสั้น นักเทรดสามารถทำกำไรได้ภายในวันเดียว หรือภายใน 1 ชั่วโมงก็สามารถทำได้ ทำให้ไม่ต้องรอนาน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับกำไรทันที
              2. ลดความเสี่ยงจากการถือหุ้นข้ามคืน การเทรดภายในวันเดียวช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในช่วงที่ตลาดปิด เช่น ข่าวสารที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นทันทีที่เปิดขายได้ในวันถัดไป

              3. มีความคล่องตัว การซื้อขายในระยะสั้นทำให้นักเทรดสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ทันที จึงสามารถเข้าและออกจากตลาดได้อย่างรวดเร็ว และมีโอกาสนำเงินไปทำกำไรต่อในหุ้นตัวอื่น ๆ ได้ทันที
              4. มีโอกาสทำกำไรสูง หากนักเทรดมีความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจอย่างแม่นยำ การเทรดแบบ
Day Trade สามารถให้ผลกำไรสูงในระยะสั้นได้



ข้อควรระวังของ
Day Trade

              1. ความเสี่ยงสูง การเทรดระยะสั้นมีความเสี่ยงสูง เพราะราคาหุ้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว การตัดสินใจผิดพลาดเพียงนิดเดียว สามารถทำให้ขาดทุนได้มากในเวลาอันสั้น
              2. ต้องมีทักษะและความรู้ การเทรดแบบ
Day Trade ต้องเข้าใจการใช้และแปลค่ากราฟผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค และต้องมีการติดตามข่าวสารที่มีผลต่อตลาดเสมอ ยิ่งรู้ข่าวไวยิ่งมีโอกาสทำกำไรและหยุดการขาดทุนได้ไวขึ้น
              3. ความเครียดและความกดดัน การต้องตัดสินใจเร็วและเฝ้าจอตลอดเวลา อาจทำให้เกิดความเครียด ความเหนื่อยล้า และความกดดัน ดังนั้นจึงต้องมีจังหวะที่ออกจากหน้ากราฟเพื่อหาเวลาผ่อนคลายบ้าง เช่น ในช่วงที่ตลาดปิดพักเบรก เพราะการบริหารจัดการอารมณ์และความเครียด เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันสำหรับการเทรดแบบ
Day Trade
              4. ต้นทุนการเทรดสูงขึ้น การเทรดบ่อย ๆ อาจมีต้นทุนจากค่าคอมมิชชันและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรที่ทำได้ ดังนั้นอย่าลืมนำค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปคำนวณเพื่อบริหารต้นทุนด้วย

 

การเป็นนักเทรดแบบ Day Trade ที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้หมายถึงการทำกำไรในทุกครั้งที่เทรด แต่คือการสามารถจัดการความเสี่ยงและทำกำไรในระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์อยู่เสมอ ดังนั้นต้องเข้าใจตลาด และใช้การตัดสินใจอย่างรอบคอบ จะช่วยให้สามารถประสบความสำเร็จในสาย Day Trade ได้แบบยั่งยืนอย่างแน่นอน

คู่สกุลเงิน AUDUSD และกลยุทธ์การซื้อขาย

คู่สกุลเงิน AUDUSD และกลยุทธ์การซื้อขาย

AUDUSD คืออัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์ออสเตรเลียต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับอิทธิพลจากอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลเศรษฐกิจ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และความรู้สึก

2024-09-13
ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและการใช้งานและข้อควรระวัง

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและการใช้งานและข้อควรระวัง

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและปรับเวลาการซื้อขายให้เหมาะสม ใช้ร่วมกับวิธีการอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าและสัญญาณหลอก

2024-09-13
คำจำกัดความ การคำนวณ และการวิเคราะห์อัตราส่วนเงินสด

คำจำกัดความ การคำนวณ และการวิเคราะห์อัตราส่วนเงินสด

อัตราส่วนเงินสดจะเปรียบเทียบเงินสดกับหนี้สินหมุนเวียน โดยประเมินความสามารถในการชำระหนี้ในระยะสั้นและสุขภาพทางการเงิน พิจารณามาตรฐานและการจัดการของอุตสาหกรรม

2024-09-13