ลงทุนผ่านดัชนีหุ้นฟิวเจอร์ส แค่ดูดัชนีเป็นอย่างเดียวไม่ได้ เพราะนักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ได้ จะต้องรู้จักกลยุทธ์และการจัดการกับความเสี่ยงให้ดีด้วย
การเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์ส (Futures Trading) เป็นการลงทุนในสัญญาที่จะซื้อหรือขายสินค้า หรือหลักทรัพย์ในอนาคต ด้วยราคาและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์สมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ถ้าคุณสามารถคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคตได้ถูกต้อง ซึ่งดัชนีหุ้นฟิวเจอร์ส (Futures Index) เป็นสัญญาฟิวเจอร์สที่มีดัชนีหุ้นเป็นสินค้าหลัก และเป็นตัวบ่งชี้ระดับราคาของหุ้นในตลาดหุ้น
และการวิเคราะห์ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นเพื่อการลงทุน เป็นกระบวนการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเมือง การสังคม และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อราคาของดัชนีหุ้น และนี่คือเรื่องที่คนสนใจในการลงทุนฟิวเจอร์จะต้องไม่พลาด
อย่างที่เกริ่นไว้ว่า การเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์ส (Futures Trading) คือการซื้อขายสัญญาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงจะซื้อขายสินค้าหรือหลักทรัพย์ในอนาคต โดยกำหนดราคา จำนวน และวันที่ส่งมอบล่วงหน้า ซึ่งแนวคิดของการเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นคือการคาดการณ์ราคาในอนาคตของสินค้าหรือหลักทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ของสัญญาฟิวเจอร์ส โดยผู้ซื้อฟิวเจอร์สสจะคาดว่า ราคาในอนาคตจะสูงกว่าราคาที่ตกลงไว้ และผู้ขายฟิวเจอร์จะคาดว่า ราคาในอนาคตจะต่ำกว่าราคาที่ตกลงไว้
โดยกลไกการทำงานของการเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์สคือ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการฝากเงินประกัน (Margin) เพื่อรับผิดชอบต่อสัญญาฟิวเจอร์ส และจะมีการปรับยอดเงินประกันทุกวันตามความเสี่ยงของตลาด (Mark to Market) ผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องถือสัญญาไว้จนครบกำหนด แต่อาจซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้โดยผ่านตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange) ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ต้องซื้อหรือขายตามราคาในดัชนีหุ้นฟิวเจอร์ที่ตกลงกันไว้
หุ้นฟิวเจอร์สมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อ้างอิงที่ใช้ เช่น หุ้นรายตัว (Single Stock Futures) สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Futures) และดัชนีหุ้นฟิวเจอร์ส (Index Futures) การลงทุนในหุ้นฟิวเจอร์สมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงได้ ถ้าผู้ลงทุนสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นฟิวเจอร์สได้ถูกต้อง โดยปัจจัยที่มีผลต่อราคาหุ้นฟิวเจอร์ส สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ
1. ราคาสินทรัพย์อ้างอิง เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อราคาหุ้นฟิวเจอร์ส เนื่องจากราคาหุ้นฟิวเจอร์สจะปรับตัวตามราคาสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงซื้อขายในอนาคต ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง จะส่งผลต่อราคาหุ้นฟิวเจอร์โดยตรง และปัจจัยที่กระทบต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์นั้น ๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ผลประกอบการ นโยบายดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน หรือการจ่ายเงินปันผล
2. ระยะเวลาของสัญญาที่เหลือ เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าตามเวลาที่เหลืออยู่ (Time Value) ของฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นในตลาด เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป ความไม่แน่นอนของราคาสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตจะลดลง ทำให้มูลค่าตามเวลาที่เหลืออยู่ของหุ้นฟิวเจอร์สลดลงด้วย จนถึงวันหมดอายุของสัญญา ราคาหุ้นฟิวเจอร์สจะเท่ากับราคาสินทรัพย์อ้างอิง
3. อัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการถือหุ้นฟิวเจอร์ส (Cost of Carry) ซึ่งคือค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการลงทุนในหุ้นฟิวเจอร์ส โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการถือหุ้นฟิวเจอร์สก็จะสูงขึ้น ทำให้ราคาหุ้นฟิวเจอร์สลดลง และกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยลดลง ค่าใช้จ่ายในการถือหุ้นฟิวเจอร์สก็จะลดลง ทำให้ราคาหุ้นฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น
4. เงินปันผล จะส่งผลต่อราคาเฉพาะในกรณีที่สินทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้นรายตัว หรือดัชนีหุ้น เนื่องจากการถือหุ้นฟิวเจอร์สจะไม่ได้รับเงินปันผลเหมือนการถือหุ้นโดยตรง ดังนั้นหากบริษัทที่อยู่ในสินทรัพย์อ้างอิงมีการประกาศจ่ายเงินปันผลออกมา จะทำให้ราคาหุ้นฟิวเจอร์สห่างจากราคาหุ้นอ้างอิงมากขึ้น
การวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด จัดเป็นกระบวนการศึกษาและวิเคราะห์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Contracts) ที่มีการนำเสนอซื้อขายในตลาด โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้วิธีการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและดัชนีหุ้นฟิวเจอร์ส 2 ประเภทหลักด้วยกัน
1. การวิเคราะห์พื้นฐาน เป็นการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดโดยอาศัยข้อมูลปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่ออุปสงค์และอุปทานของสินค้า เช่น สภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ภัยธรรมชาติ นโยบายธนาคารกลาง และข่าวสารที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเหล่านี้กับราคาสินค้า และทำนายราคาในอนาคต
2. การวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยการอาศัยข้อมูลทางสถิติของราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีต เช่น ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และปริมาณการซื้อขายของฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวโน้ม ระดับราคาสำคัญ รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา และสัญญาณการซื้อขาย โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิคช่วย
1. กลยุทธ์การเทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการตามทิศทางของตลาด โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค และรูปแบบกราฟ เพื่อหาจุดเข้าออกตลาดที่เหมาะสม กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค และสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดี
2. กลยุทธ์การเทรดตามการกลับตัวของราคา (Mean ReveRSIon) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการซื้อหุ้นในดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สที่ถูกตัดสินว่ามีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และขายหุ้นฟิวเจอร์สที่ถูกตัดสินว่ามีราคาสูงกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค
3. กลยุทธ์การเทรดตามข่าว (News Trading) เน้นการซื้อขายหุ้นฟิวเจอร์สตามผลกระทบของข่าวหรือเหตุการณ์ที่มีผลต่อราคาสินค้าหรือสินทรัพย์ โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางพื้นฐาน กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ทางพื้นฐาน และสามารถตัดสินใจได้เร็ว
หลัก ๆ แล้วความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นจะประกอบด้วย ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น ที่หากราคาหุ้นในตลาดปัจจุบันแตกต่างจากราคาที่ตกลงไว้ในสัญญาฟิวเจอร์ส ผู้ซื้อหรือผู้ขายอาจได้รับผลกำไรหรือขาดทุน และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน ยิ่งหากเป็นสัญญาฟิวเจอร์สหุ้นต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนจะมีผลต่อผลตอบแทนของการลงทุนค่อนข้างมาก
ส่วนวิธีการจัดการความเสี่ยงในการลงทุนหลัก ๆ นักลงทุนมักนิยมใช้การทำ hedging ที่เป็นการทำสัญญาฟิวเจอร์สที่มีทิศทางตรงกันกับสถานะที่ถือครองหุ้นอยู่ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น อัตราดอกเบี้ย หรืออัตราแลกเปลี่ยน และการทำ Speculation ด้วยการทำสัญญาที่มีทิศทางเดียวกับสถานะที่ถือครองหุ้นอยู่ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลง
แม้ว่าการเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์สเป็นวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ด้วยการวิเคราะห์ดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สอย่างเข้าใจ จะเป็นเครื่องมือที่พาให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และก่อนที่จะเล่นหุ้นแบบฟิวเจอร์สก็อย่าลืมว่า นี่คือการลงทุนที่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนั้นเราก็จัดการได้เช่นกัน ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความพยายามของเราแน่นอน