รู้จักตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เปิดเผยข้อมูล GDP, NFP, CPI และยอดขายปลีก สำคัญต่อดอลลาร์ หุ้น ทองคำ และตลาดโลกที่นักลงทุนต้องรู้อย่างชัดเจน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจของอเมริกาที่มี ตั้งแต่การจ้างงาน การผลิต การบริโภค ไปจนถึงอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีจะมีผลกระทบและความเกี่ยวข้องสูงกับตลาดการเงินในองค์รวม ดังนั้น อีบีซี ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จึงขอพาทุกท่านไปเปิดข้อมูลว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญอย่างไร มีอะไรบ้าง และส่งผลต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างไร
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ คือชุดข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เผยแพร่โดยหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน และธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ข้อมูลเหล่านี้ครอบคลุมทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การผลิต การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต
โดยความสำคัญของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ที่การเป็นเครื่องมือชี้วัดเศรษฐกิจแบบเรียลไทม์ นักลงทุนและนักวิเคราะห์ใช้ตัวเลขเหล่านี้เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุน การปรับพอร์ต และการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมักทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นสูง ขณะที่ตัวเลขที่อ่อนแอมักสร้างความระมัดระวังในกลุ่มนักลงทุน
แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสะท้อนสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศก็จริง แต่เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกและดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลัก ทำให้การเคลื่อนไหวของตัวเลขเหล่านี้จึงส่งผลต่อ เศรษฐกิจโลก นักลงทุนและตลาดต่างประเทศมักปรับพอร์ตตาม GDP, NFP, CPI หรือดัชนีการบริโภคของสหรัฐ
ตัวอย่างเช่น การเติบโตของ GDP หรือการจ้างงานที่แข็งแกร่งจะสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลก ส่งผลให้หุ้น ดอลลาร์ และพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น ขณะที่ตัวเลขอ่อนแออาจทำให้ค่าเงินและตลาดหุ้นในประเทศอื่น ๆ ปรับตัวตาม การติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ทางสหรัฐฯ ส่วนมากจะมีการเผยตัวเลขเศรษฐกิจออกมาทุกเดือน ซึ่งแต่ละตัวเลขมักสร้างความสนใจในตลาดการเงินและสื่อเศรษฐกิจมาก ในหัวข้อนี้เราจะยกตัวอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญและน่าสนใจ
1. GDP – ตัวชี้วัดภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐ
GDP (Gross Domestic Product) คือมูลค่ารวมของสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตภายในประเทศในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สุดของการเติบโตทางเศรษฐกิจ นักลงทุนใช้ GDP เพื่อประเมินแนวโน้มการลงทุนและคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้น หาก GDP เติบโตสูงกว่าคาด ตลาดหุ้นและดอลลาร์มักตอบสนองเชิงบวก ขณะที่ GDP ที่ชะลอตัวอาจสะท้อนเศรษฐกิจซบเซาและสร้างแรงกดดันต่อตลาด
2. Nonfarm Payrolls (NFP) – สัญญาณกำลังซื้อและแรงงาน
NFP แสดงจำนวนตำแหน่งงานใหม่ที่เกิดขึ้นนอกภาคเกษตรกรรม เป็นตัวเลขสำคัญในการวัดตลาดแรงงานและความแข็งแรงของเศรษฐกิจ การเติบโตของ NFP มักสอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้หุ้นและดอลลาร์ปรับตัวขึ้น ส่วนตัวเลขอ่อนแอมักทำให้ตลาดชะลอตัว นักลงทุนมักจับตามอง NFP เดือนต่อเดือนและเปรียบเทียบกับคาดการณ์เพื่อประเมินความเสี่ยงของเศรษฐกิจ
3. CPI และ Core CPI – ตรวจสอบแรงกดดันด้านราคา
CPI (Consumer Price Index) แสดงการเปลี่ยนแปลงราคาโดยรวมของสินค้าและบริการในระดับผู้บริโภค ส่วน Core CPI จะตัดสินค้าที่ผันผวนสูงอย่างอาหารและพลังงานออก เพื่อให้เห็นแนวโน้มเงินเฟ้อที่แท้จริง การเพิ่มขึ้นของ CPI สูงกว่าคาด อาจกดดันให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นบางกลุ่มลดลง ในขณะที่ทองคำและพันธบัตรมักเคลื่อนไหวสวนทางกับดอลลาร์
4. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index)
ดัชนีนี้วัดทัศนคติและความมั่นใจของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจ การเงินส่วนบุคคล และความพร้อมในการใช้จ่าย ผู้บริโภคที่มั่นใจมักใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลต่อยอดขายปลีกและเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีสูงแสดงถึงความเชื่อมั่นและกระตุ้นการลงทุน ขณะที่ดัชนีลดลงสะท้อนความระมัดระวัง การเคลื่อนไหวของดัชนีนี้มักสัมพันธ์กับตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน
5. ยอดขายปลีก (Retail Sales) – สัญญาณกำลังซื้อผู้บริโภค
ยอดขายปลีกสะท้อนการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นตัวเลขสำคัญที่แสดงถึงความแข็งแรงของเศรษฐกิจในภาคบริโภค การเติบโตของยอดขายปลีกสูงกว่าคาดหมาย มักสนับสนุนหุ้นผู้บริโภคและส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจขยายตัว ในทางกลับกัน ยอดขายปลีกอ่อนแออาจทำให้ตลาดชะลอตัวและดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนใช้ตัวเลขนี้ร่วมกับ NFP และ CPI เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจ
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่ใช่เพียงสัญญาณทั่วไป แต่ยังเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่นักลงทุนใช้ประเมินความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หลากหลายประเภท ที่มักตอบสนองต่อความคาดหมายของตลาดต่อ GDP, NFP, CPI และดัชนีอื่น ๆ ดังนั้นการเปรียบเทียบตัวเลขจริงกับตัวเลขคาดการณ์จึงกลายเป็นสัญญาณสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มเชิงเทคนิค
หุ้น (Stocks)
ตลาดหุ้นตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจแบบ real-time หาก GDP เติบโตสูงกว่าคาดหรือ NFP เพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นมักรีบปรับตัวขึ้น โดยนักวิเคราะห์มักใช้เทคนิคการวิเคราะห์เชิงกราฟร่วมกับข่าวเศรษฐกิจเพื่อหา จุดซื้อขายและแนวรับ-แนวต้าน เช่น การสังเกตแรงซื้อจากสัญญาณ MACD หรือ RSI หลังตัวเลขเศรษฐกิจประกาศ
ทองคำ (Gold)
ทองคำมีความสัมพันธ์เชิงลบกับดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ย ตัวเลข CPI หรือ Core CPI ที่สูงเกินคาดอาจกดดัน Fed ให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ทองคำถูกกดดันลดค่า ในทางเทคนิค นักลงทุนจะจับ โซนแนวรับ-แนวต้านสำคัญบนกราฟราคา ร่วมกับข่าวเศรษฐกิจเพื่อกำหนดจุดเข้าซื้อหรือขาย
พันธบัตร (Bonds)
ราคาพันธบัตรเคลื่อนไหวตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ย การประกาศ GDP หรือ CPI ที่แรงกว่าคาดมักทำให้นักลงทุนคาดการณ์ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาพันธบัตรลดลง นักลงทุนมืออาชีพมักใช้ Yield Curve และ Spread Analysis วิเคราะห์แรงขายหรือแรงซื้อพันธบัตรหลังตัวเลขเศรษฐกิจออก
สกุลเงิน (Forex)
ดอลลาร์สหรัฐมักปรับตัวทันทีหลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ ตัวเลข NFP, GDP หรือ CPI ที่แข็งแกร่งสร้างแรงซื้อดอลลาร์ ในทางเทคนิค ผู้เทรดมักใช้ Price Action, Support/Resistance และ Fibonacci Retracement ร่วมกับข่าวเศรษฐกิจเพื่อหาจุดเข้าซื้อขายสกุลเงินคู่หลัก
สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
ราคาน้ำมัน โลหะอุตสาหกรรม และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ มักตอบสนองต่อตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ เช่น GDP และ Retail Sales การใช้ Technical Indicators เช่น Moving Average และ Bollinger Bands ร่วมกับตัวเลขเศรษฐกิจช่วยให้เทรดเดอร์วิเคราะห์ทิศทางราคาสินค้าได้แม่นยำขึ้น
เพื่อติดตามทิศทางเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนและเทรดเดอร์มักต้องอัปเดตตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการลงทุนก่อนตลาดเกิดภาวะผันผวน
เว็บไซต์ทางการของรัฐบาลสหรัฐ
- Bureau of Economic Analysis (BEA) – GDP, Personal Income, Trade Balance
- Bureau of Labor Statistics (BLS) – การจ้างงาน, อัตราการว่างงาน, CPI, PPI
- U.S. Census Bureau – การค้าระหว่างประเทศ, การผลิต, ยอดขายค้าปลีก
เว็บไซต์ธนาคารกลางสหรัฐ
- ประกาศนโยบายการเงิน, อัตราดอกเบี้ย, รายงาน Beige Book
ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar)
- ให้วัน-เวลาเผยแพร่ตัวเลขเศรษฐกิจล่วงหน้า พร้อมระดับผลกระทบต่อ USD : Forex Factory
Q: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ มีอะไรบ้าง?
A: ตัวเลขสำคัญได้แก่ GDP, CPI, PPI, NFP, ยอดขายปลีก และดัชนีตลาดต่าง ๆ ที่สะท้อนทั้งการผลิต การบริโภค และการจ้างงาน
Q: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลต่อสินทรัพย์อะไร?
A: มีผลต่อหุ้น ทองคำ พันธบัตร และสกุลเงิน โดยการตีความตัวเลขช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด
Q: ทำไมต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ?
A: เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด การเปลี่ยนแปลงตัวเลขส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก การลงทุน และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ คือดัชนีสำคัญที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจและแนวโน้มการเติบโต ข้อมูลเหล่านี้ครอบคลุมการจ้างงาน เงินเฟ้อ การผลิต การบริโภค และดุลการค้าระหว่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของการจ้างงานหรือ GDP ชี้ถึงความแข็งแรงของเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขที่ชะลอตัวอาจสะท้อนความเสี่ยงต่อการเติบโตและศักยภาพการบริโภค
ตัวเลขเงินเฟ้อ เช่น CPI และ PPI มีบทบาทสำคัญต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟด การเร่งตัวของราคาสินค้าและบริการทำให้ธนาคารกลางอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดัน ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อปานกลางช่วยให้ตลาดคาดการณ์โอกาสการลดดอกเบี้ยหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังส่งผลโดยตรงต่อสินทรัพย์การเงิน หุ้นมักตอบสนองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจแข็งแรง แต่สามารถปรับฐานหากเงินเฟ้อสูง ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเศรษฐกิจเข้มแข็ง ขณะที่ทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น ๆ มักเคลื่อนไหวสวนทาง ซึ่งโดยปกติตัวเลขเหล่านี้เราจะสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ เช่น BEA, BLS ฯลฯ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
FED คือธนาคารกลางสหรัฐที่ควบคุมนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อเศรษฐกิจโลก ตลาด Forex และความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก
2025-08-22Mitigation Block คืออะไรในตลาดฟอเร็กซ์และหุ้น ซึ่งมีความสำคัญต่อการเทรด Price Action พร้อมตัวอย่างที่จะช่วยให้คุณเทรดตามเทรนด์และการกลับตัวได้อย่างมั่นใจ
2025-08-22เปิดข้อมูลพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี สินทรัพย์ปลอดภัยที่สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย พร้อมวิธีคำนวณผลตอบแทนและปัจจัยสำคัญ
2025-08-22