QM Pattern คืออะไร? พร้อมยกตัวอย่าง และกลยุทธ์เทรด

ในการเทรดด้วย Price Action รูปแบบ (Patterns) ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังซึ่งช่วยเผยให้เห็นว่ากลไก อุปสงค์และอุปทาน (Supply & Demand) ขับเคลื่อนพฤติกรรมของตลาดอย่างไร หนึ่งในรูปแบบขั้นสูงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Quasimodo Pattern (QM Pattern) ซึ่งมีโครงสร้างที่ชัดเจนจากการเกิด Higher Highs และ Lower Lows โดยรูปแบบนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดกลับตัว (Reversal) ที่มีนัยสำคัญได้

QM Pattern คืออะไร? พูดง่าย ๆ คือ QM Pattern เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังหมดแรงในเทรนด์เดิมและเตรียมพร้อมสำหรับการกลับตัว ซึ่งเปิดโอกาสในการเข้าออเดอร์ที่มีความน่าจะเป็นสูงสำหรับนักเทรด

บทความนี้ จะอธิบายถึงความหมายของ QM Pattern และทำไมถึงเกิด Pattern นี้ ตัวอย่างจริงในตลาด และยังมี กลยุทธ์การเทรดเชิงปฏิบัติ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้อย่างมั่นใจ

QM Pattern คืออะไร?

รูปแบบ Quasimodo (QM Pattern) หรือที่บางครั้งเรียกว่า Over and Under (O&U) Pattern เป็นโครงสร้าง Price Action แบบกลับตัว (Reversal Formation) ซึ่งได้ชื่อมาจากลักษณะรูปร่างที่ดูคล้ายร่างที่เอียง ๆ เหมือน Quasimodo หลังค่อม ในวรรณกรรม

โดยปกติแล้ว รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดเคลื่อนที่ตามเทรนด์มาแล้ว และสร้างโครงสร้างดังนี้:

1. Higher High (HH) จุดสูงใหม่

2. Higher Low (HL) จุดต่ำใหม่ที่สูงขึ้น

3. Higher High (HH) จุดสูงใหม่อีกครั้ง

4. Lower Low (LL) จุดต่ำใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม (ทำลายโครงสร้างขาขึ้น)

5. Final Pullback การดึงกลับครั้งสุดท้าย ซึ่งมักจะกลับตัวจากบริเวณ Higher Low เดิม

รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดได้ทำลายโครงสร้างแนวโน้มและกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง

รูปแบบ QM เกิดขึ้นได้อย่างไร

เพื่อให้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้น ลองแยกเป็นขั้นตอนดังนี้:

1. Trending Move (การเคลื่อนที่ตามเทรนด์):
   ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง โดยสร้าง Higher Highs (HH) และ Higher Lows (HL) หรือในขาลงก็จะสร้าง Lower Highs (LH) และ Lower Lows (LL)

   
   

2. Key Swing Points (จุดสวิงหลัก):
   ตลาดสร้าง Higher High (HH) ตามด้วยการย่อตัว (Retracement)

   
   

3. Failure of Trend Structure (โครงสร้างเทรนด์ล้มเหลว):
   หลังจากที่ตลาดสร้าง Higher High แล้ว แต่กลับทำ Lower Low (LL) ใหม่ (หรือในกรณีขาลง สร้าง Higher High หลังจากที่มี Lower Low) แสดงถึงการสูญเสียการควบคุมของฝั่งเดิม

   
   

4. Quasimodo Level (ระดับ QM):
   รูปแบบนี้เน้นให้เห็นถึงความไม่สมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การย่อตัวกลับมาที่ระดับ QM Level คือจุดที่มักจะเกิดการกลับตัว และเป็นโซนที่นักเทรดใช้เข้าออเดอร์

ในขาขึ้น (Uptrend) หากตลาดสร้างลำดับ HH → HL → HH → LL → Retest การเกิด LL บ่งบอกว่าฝั่งผู้ซื้อเสียการควบคุม การกลับไปทดสอบบริเวณ HL ก่อนหน้า จะกลายเป็นโซนเข้าออเดอร์ Short ของ QM

QM Pattern ขาขึ้นเทียบกับขาลง

วิธีเทรดแบบ QM Pattern

ขั้นตอนที่ 1: ระบุแนวโน้ม

ตรวจสอบก่อนว่าตลาดมีแนวโน้มขึ้นหรือลง ก่อนที่จะตรวจสอบการตั้งค่า QM

ขั้นตอนที่ 2: ระบุจุดสวิงสำคัญ

ทำเครื่องหมายจุด HH, HL, LL และ LH บนแผนภูมิของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันการแตกหักของโครงสร้าง (BOS)

การพังทลายของโครงสร้างแนวโน้มถือเป็นสัญญาณที่สำคัญที่สุด

ขั้นตอนที่ 4: รอการทดสอบซ้ำระดับ QM

การเข้าเทรด QM มักจะเกิดขึ้นเมื่อราคาถอยกลับไปที่ HL ก่อนหน้า (ในการตั้งค่าขาลง) หรือ LH (ในการตั้งค่าขาขึ้น)

ขั้นตอนที่ 5: ดำเนินการด้วยการจัดการความเสี่ยง

• รายการ: ที่ระดับ QM (โซนอุปทาน/อุปสงค์)

• Stop-Loss: เหนือ HH (สำหรับแนวโน้มขาลง) หรือต่ำกว่า LL (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น)

• Take-Profit: ใกล้ระดับโครงสร้างถัดไปหรือโซนอุปสงค์/อุปทาน

กลยุทธ์การเทรดแบบ QM Pattern

1. กลยุทธ์ด้านอุปทานและอุปสงค์

ผสานระดับ QM เข้ากับโซนอุปทานและอุปสงค์ รูปแบบ QM สอดคล้องกับรูปแบบสถาบันอย่างสมบูรณ์แบบ มอบการเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ให้ผลตอบแทนสูง

2. กลยุทธ์ Fibonacci Confluence

เมื่อระดับ QM ทับซ้อนกับโซนการย้อนกลับ Fibonacci (61.8% หรือ 78.6%) การตั้งค่าการซื้อขายจะแข็งแกร่งขึ้น

3. กลยุทธ์หลายกรอบเวลา

มองหาการตั้งค่า QM ในกรอบเวลาที่สูงกว่า (H4, D1) และปรับแต่งรายการในกรอบเวลาที่เล็กกว่า (M15, M5)

4. กลยุทธ์การไหลของคำสั่งซื้อและสภาพคล่อง

เงินที่ชาญฉลาดมักสร้างการทะลุกรอบราคาที่ผิดพลาดเพื่อดักจับเทรดเดอร์ การเฝ้าดูสภาพคล่องที่พุ่งสูงขึ้นควบคู่ไปกับการตั้งค่า QM สามารถเพิ่มความแม่นยำได้

5. กลยุทธ์การยืนยันตัวบ่งชี้

แม้ว่ารูปแบบ QM จะอิงตามการเคลื่อนไหวราคา แต่การยืนยันจากการแยกทางของ RSI หรือการตัดกันของ MACD สามารถเพิ่มความมั่นใจในการซื้อขายได้

เคล็ดลับสำหรับการเทรดรูปแบบ QM ให้สำเร็จ

• ฝึกฝนการระบุรูปแบบ QM จากชาร์ตย้อนหลังก่อนเทรดจริง

• ใช้คำสั่ง stop loss อย่างเคร่งครัด เพราะรูปแบบ QM อาจล้มเหลวหากมีข่าวหรือความผันผวนสูง

• ยืนยันรูปแบบ QM ด้วยตัวชี้วัด ปริมาณการซื้อขาย (Volume) และ โมเมนตัม (Momentum Indicators)

• หลีกเลี่ยงการเทรด QM ในช่วงสภาพคล่องต่ำ เช่น ชั่วโมงตลาดฟอเร็กซ์เอเชีย

• ผสานรูปแบบ QM กับบริบทตลาดโดยรวม อย่าใช้เป็นกลยุทธ์แยกเดี่ยว

คำถามที่พบบ่อย

1. รูปแบบ QM ในการเทรดคืออะไร?

รูปแบบ QM คือการตั้งค่าการกลับตัวของราคาที่ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นเมื่อโครงสร้างตลาดเปลี่ยนจากการสร้างจุดสูงที่สูงขึ้นไปเป็นจุดต่ำที่ต่ำลง (หรือในทางกลับกัน)

2. สามารถใช้รูปแบบ QM ในตลาดใดได้บ้าง?

เทรดเดอร์สามารถใช้รูปแบบ QM ในตลาดฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี เนื่องจากรูปแบบนี้อาศัยการเคลื่อนไหวด้านราคาเพียงอย่างเดียว

3. รูปแบบ QM เหมาะสำหรับมือใหม่หรือไม่?

รูปแบบ QM นั้นมีความก้าวหน้ากว่าเพราะต้องระบุจุดแกว่งตัวและโครงสร้างตลาดได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นจึงมักแนะนำสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาบ้างแล้ว

บทสรุป

สรุปได้ว่า รูปแบบ QM Pattern คือเครื่องมือราคาที่ทรงพลังสำหรับการระบุการกลับตัวของแนวโน้มอย่างแม่นยำ เช่นเดียวกับกลยุทธ์อื่น ๆ การใช้งานต้องอาศัย ความอดทน วินัย และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรวมการตั้งค่า QM เข้ากับการวิเคราะห์ โซนอุปสงค์และอุปทาน (Supply & Demand) ระดับ Fibonacci และการยืนยันจาก กรอบเวลาที่สูงกว่า

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ