Mitigation Block: กุญแจสำคัญในการเทรด Price Action

ในโลกของการเทรดด้วย Price Action มีกลยุทธ์บางอย่างที่ช่วยให้เทรดเดอร์ได้เปรียบ เพราะช่วยทำความเข้าใจว่าผู้เล่นรายใหญ่หรือสถาบันขับเคลื่อนตลาดอย่างไร

หนึ่งในแนวคิดเหล่านั้นคือ Mitigation Block ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อราคาตลาดย้อนกลับไปยัง Order Block เดิม เพื่อจัดการคำสั่งซื้อขายที่ยังไม่ได้ถูกจับคู่ของสถาบัน ซึ่งมักนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ

สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้หลักการ อุปสงค์ อุปทาน (Supply & Demand), Smart Money Concepts (SMC) และ Price Action นั้น Mitigation Block คือเครื่องมือสำคัญในการค้นหาสัญญาณการกลับตัว (Reversal) หรือการต่อเนื่องของแนวโน้ม

Mitigation Block คืออะไร?

Mitigation Block คือบริเวณของราคา ซึ่งมักเกิดจาก Order Block ที่สถาบันการเงินใช้ในการกลับมา “Mitigate” หรือจัดการตำแหน่งเดิม ก่อนที่จะขับเคลื่อนราคาไปในทิศทางที่ต้องการ

• Order Block คือเขตการสะสม (Consolidation Area) ที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้เล่นรายใหญ่ มักบ่งบอกถึงจุดที่มีการวางคำสั่งซื้อขายของสถาบัน

• Mitigation Block เกิดขึ้นเมื่อราคาย้อนกลับมาแตะ Order Block เดิมเพื่อดูดซับสภาพคล่อง (Absorb Liquidity) จัดการคำสั่งที่รออยู่ (Pending Orders) หรือกระตุ้น Stop-loss ที่สะสมอยู่ ก่อนที่จะเดินหน้าตามแนวโน้มต่อไป

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ:

• สถาบันไม่สามารถเปิดหรือปิดคำสั่งทั้งหมดได้ในการเคลื่อนไหวครั้งเดียว

• ราคาจึงมักย้อนกลับเข้ามาในโซนเดิมเพื่อให้คำสั่งที่เหลือถูกจับคู่จนเสร็จ

ผลตอบแทนดังกล่าวนี้ถูกเรียกโดยผู้ค้าว่ากระบวนการบรรเทาผลกระทบ

Mitigation Blocks ก่อตัวขึ้นได้อย่างไร

Mitigation Blocks ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่เกิดตามกระบวนการที่เชื่อมโยงกับ Order Flow โดยทั่วไปการก่อตัวมีดังนี้:

1. การเข้าของสถาบัน: ราคาเคลื่อนไหวแบบแรงและฉับพลันหลังจากช่วงสะสม (Order Block)

2. คำสั่งที่ยังไม่ถูกจับคู่: สถาบันอาจไม่สามารถเปิดหรือปิดตำแหน่งทั้งหมดได้ ส่งผลให้ราคาทิ้งสภาพคล่องไว้ข้างหลัง

3. การย้อนกลับของราคา: ตลาดย่อตัวกลับเข้ามาใน Order Block เดิมเพื่อ “Mitigate” หรือปรับสมดุลจากความไม่สมบูรณ์ก่อนหน้า

4. การต่อเนื่องหรือกลับตัว: หลังจากกระบวนการ Mitigation ราคามักตอบสนองอย่างรุนแรง โดยอาจเดินหน้าตามแนวโน้มเดิมต่อ หรือกลับตัวหากบล็อกนั้นล้มเหลว

ให้นึกถึงมันเหมือนกับตลาดที่ “หยุดหายใจ” ชั่วคราวเพื่อเก็บคำสั่งที่เหลืออยู่ ก่อนจะเดินทางต่อ

ประเภทของ Mitigation Block

Mitigation Block สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง:

1. Bullish Mitigation Block

• เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้น

• ราคาย้อนกลับมาแตะ Bullish Order Block (แท่งเทียนขาลงก่อนการพุ่งขึ้นแรง)

• หลังจาก Mitigation แล้ว ราคามักจะดีดตัวสูงขึ้นต่อ

2. Bearish Mitigation Block

• เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาลง

• ราคาย้อนกลับมาแตะ Bearish Order Block (แท่งเทียนขาขึ้นก่อนการร่วงลงแรง)

• หลังจาก Mitigation แล้ว ราคามักจะร่วงลงต่อ

วิธีการระบุ Mitigation Block บนกราฟ

การมองหา Mitigation Block ต้องอาศัยการฝึกฝน แต่สามารถเริ่มได้ตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. มองหาการเคลื่อนไหวแบบแรงและฉับพลันหลังจากโซนการสะสม (Consolidation Zone)

2. ระบุแท่งเทียนขาขึ้นหรือขาลงสุดท้ายก่อนการเคลื่อนไหวนั้น (Order Block)

3. รอให้ราคาย่อตัวกลับเข้ามาในโซนนั้น

4. ยืนยันการตอบสนองโดยใช้รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) หรือปริมาณการซื้อขาย (Volume)

ตัวอย่าง :

ในกรณี Bullish Setup ให้หาดูแท่งเทียนขาลงสุดท้ายก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นแรง เมื่อราคาย่อตัวกลับเข้ามาในเขตของแท่งเทียนนั้นภายหลัง จุดนั้นเองจะกลายเป็น Mitigation Block

กลยุทธ์การเทรดด้วย Mitigation Block    

ขั้นตอนที่ 1: ระบุโครงสร้างตลาด

ตรวจสอบว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง โดย Mitigation Block จะมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อสอดคล้องกับแนวโน้มหลัก

ขั้นตอนที่ 2: หาตำแหน่ง Order Block

ทำเครื่องหมาย Order Block ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวแบบแรงและฉับพลัน

ขั้นตอนที่ 3: รอการ Mitigation

อดทนรอให้ราคาย้อนกลับเข้าสู่เขตของ Order Block

ขั้นตอนที่ 4: มองหาการยืนยัน

ใช้สัญญาณแท่งเทียน เช่น Pin Bar, Engulfing Candle หรือ Rejection Wick เพื่อยืนยันการเข้าเทรด

ขั้นตอนที่ 5: วางคำสั่งเทรด

• จุดเข้าเทรด : ใกล้โซนบล็อกบรรเทาสาธารณภัย

• Stop Loss: ด้านนอกบล็อกเล็กน้อย

• Take Profit: ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนหรือระดับสภาพคล่องถัดไป

ตัวอย่างการเทรดด้วย Mitigation Block

ลองจินตนาการถึงคู่เงิน EUR/USD ที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแรง:

1. ราคามีการสะสม แล้วพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจาก 1.0800 ไปถึง 1.0950

2. แท่งเทียนขาลงสุดท้ายก่อนการพุ่งขึ้นถูกทำเครื่องหมายเป็น Order Block

3. ต่อมาราคาย่อตัวกลับมาที่บริเวณ 1.0820

4. โซนนั้นกลายเป็น Mitigation Block ซึ่งสถาบันใช้สำหรับเติมคำสั่งที่เหลืออยู่

5. จากนั้นราคาก็พุ่งขึ้นอีกครั้ง ดำเนินต่อไปตามแนวโน้มขาขึ้น

Mitigation Block ในฟอเร็กซ์เทียบกับตลาดอื่น

ฟอเร็กซ์ : เป็นเรื่องปกติเนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและมีอิทธิพลเหนือสถาบัน

หุ้น : ปรากฏหลังจากผลประกอบการหรือข่าวสำคัญเมื่อสถาบันปรับตำแหน่ง

Crypto : มองเห็นได้จากการเคลื่อนไหวที่ผันผวน โดยเฉพาะรอบๆ Bitcoin และ altcoins

Mitigation Block vs Order Block

เคล็ดลับการเทรด Mitigation Block แบบมืออาชีพ    

1. ผสมผสาน Mitigation Block กับการวิเคราะห์ Timeframe ที่สูงกว่า

2. ใช้มันร่วมกับ โซนสภาพคล่อง (Liquidity Zones) และ Fair Value Gaps (FVGs)

3. ไม่จำเป็นต้องเทรดทุกบล็อก ควรเลือกอย่างมีวิจารณญาณ

4. ทดสอบย้อนหลังบนกราฟประวัติศาสตร์เพื่อสร้างความมั่นใจ

5. เรียนรู้ Smart Money Concepts (SMC) ต่อเนื่อง เพราะ Mitigation เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมใหญ่

คำถามที่พบบ่อย

1. Mitigation Block คืออะไรในการเทรด?
Mitigation Block คือโซนราคาที่ตลาดย้อนกลับไปยัง Order Block ก่อนหน้า เพื่อดูดซับสภาพคล่องและเติมคำสั่งของสถาบันที่เหลือ ก่อนที่จะเคลื่อนราคาต่อไปตามทิศทางที่ตั้งใจไว้

2. Mitigation Block น่าเชื่อถือสำหรับการเทรด Forex หรือไม่?
ใช่ Mitigation Block ถูกใช้อย่างแพร่หลายในตลาดฟอเร็กซ์ เพราะบ่งบอกถึงกระแสคำสั่งของสถาบัน แต่เทรดเดอร์ควรใช้ร่วมกับสัญญาณยืนยันและการบริหารความเสี่ยงเพื่อให้มีประสิทธิภาพ

3. ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Mitigation Block มีอะไรบ้าง?
ความเสี่ยงหลักคือ Mitigation Block บางจุดอาจล้มเหลว ทำให้ราคาผ่านโซนนั้นไปได้ การพึ่งพา Mitigation Block เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการยืนยันหรือการตั้ง Stop Loss อาจทำให้เกิดการขาดทุน

บทสรุป

สรุปได้ว่า Mitigation Block คือแนวคิดสำคัญใน Price Action ที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าผู้เล่นสถาบันเข้าตลาดที่จุดใด

การเรียนรู้วิธีระบุโซนเหล่านี้ รอให้ราคาย้อนกลับมา และใช้สัญญาณยืนยันอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถหาจุดเข้าเทรดที่มีความน่าจะเป็นสูงพร้อมความเสี่ยงต่ำ

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ