ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ของ Palantir ที่สร้างสถิติใหม่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตลาด แต่ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าธุรกิจ AI ของบริษัทสามารถขับเคลื่อนการเติบโตที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นได้หรือไม่
Palantir Technologies เป็นบริษัทที่ยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของข้อมูล ความมั่นคง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาโดยตลอด และในสัปดาห์นี้ บริษัทได้สร้างความประหลาดใจให้กับวอลล์สตรีทอีกครั้ง ด้วยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และยังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปี 2025 ขึ้น นักลงทุนต่างแสดงความยินดีต่อผลประกอบการดังกล่าว แต่คำถามสำคัญที่หลายคนกำลังตั้งก็คือ ผลลัพธ์อันโดดเด่นนี้ หมายถึงโอกาสเติบโตต่อเนื่องของแพลตฟอร์ม AI ที่ Palantir ภาคภูมิใจหรือไม่?
เริ่มจากตัวเลขกันก่อน รายได้ของ Palantir ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 เพิ่มขึ้นถึง 48% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1.02 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 980 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 144% เป็น 326 ล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงอยู่ที่ 0.16 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เช่นกัน
ที่น่าสนใจคือ รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่:
รายได้จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบรายปีมาอยู่ที่ 426 ล้านดอลลาร์
รายได้จากภาคเอกชนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 93% อยู่ที่ 306 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์เจาะตลาดเอกชนที่ได้ผล
AI Platform (AIP) ถูกระบุว่าเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลัก โดย CEO Alex Karp กล่าวถึง “ผลกระทบของ AI ที่น่าทึ่ง” พร้อมกับคะแนน Rule of 40 (ดัชนีที่วัดการเติบโตและกำไร) ที่สูงถึง 94%
Palantir ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปี 2025 จากเดิม 3.89–3.90 พันล้านดอลลาร์ เป็น 4.14–4.15 พันล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศว่าในไตรมาสนี้ปิดดีลสัญญา 66 ฉบับที่มูลค่ามากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ และอีก 42 ฉบับที่มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงการเร่งทำข้อตกลงในระดับสูงอย่างชัดเจน
แรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตอยู่ที่ความต้องการในแพลตฟอร์ม AI (AIP) ซึ่งช่วยให้รัฐบาลและธุรกิจต่าง ๆ สามารถนำ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มนี้มีบทบาทสำคัญในดีลใหญ่หลายรายการ รวมถึงสัญญามูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์กับกองทัพสหรัฐฯ ที่ประกาศในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาคการแพทย์ พลังงาน และการเงิน ที่ต้องการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับความปลอดภัยด้วยเครื่องมือ AI
นอกจากนี้ Palantir ยังมุ่งพัฒนา “Generative AI” ที่ใช้งานง่ายมากขึ้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถดึงข้อมูลเชิงลึกออกมาได้ง่ายกว่าเดิม ทำให้การนำ AI ไปใช้จริงเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังรายงานผลประกอบการ ราคาหุ้นของ Palantir ขยับขึ้น 2–4% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตลอดปี หุ้นได้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า และมีมูลค่าตลาดทะลุ 379 พันล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์ยกให้เป็นหนึ่งในหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุดของ S&P 500 ในปี 2025
อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราราคาต่อกำไร (P/E) ที่สูงถึง 276 เท่า หลายฝ่ายในวอลล์สตรีทเริ่มเตือนว่าหุ้นอาจมีราคาสูงเกินจริง เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่ม AI อื่น ๆ ที่คาดหวังสูง แม้การพลาดเป้าหมายเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวนอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงรวมถึง CTO ของบริษัท ได้ขายหุ้นรวมกันเกือบ 370 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีที่ผ่านมา อาจเป็นสัญญาณของความระมัดระวัง
ความเสี่ยงด้านมูลค่าหุ้น: หุ้น Palantir ซื้อขายที่ P/E สูงกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft หรือ Google จึงอ่อนไหวต่อความเปลี่ยนแปลงของความต้องการ AI หรือการปรับงบประมาณภาครัฐ
การพึ่งพารายได้จากภาครัฐ: แม้ว่าธุรกิจเชิงพาณิชย์จะเติบโตเร็ว แต่สัญญารัฐบาลยังเป็นสัดส่วนรายได้หลัก หากเกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือการลดงบ อาจกระทบผลประกอบการ
การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น: ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Google และแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส กำลังรุกตลาด Generative AI ทำให้ Palantir ต้องรักษาความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
จากผลประกอบการไตรมาส 2 และการปรับเพิ่มเป้ารายได้ทั้งปี Palantir แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในแนวโน้มของ AI อย่างต่อเนื่อง CEO Alex Karp ยังระบุว่าเป้าหมายต่อไปคือการขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นอีก 10 เท่า โดยใช้เครื่องมืออย่างระบบอัตโนมัติ, Deep Learning และ LLM (Large Language Models )เพื่อยึดครองตำแหน่งผู้นำในตลาด AI ทั้งภาครัฐและเอกชน
รายได้จากธุรกิจเอกชนแซงหน้ารัฐบาล จะบ่งชี้ว่า Palantir กำลังเปลี่ยนจากผู้รับเหมารัฐรายเฉพาะ ทางสู่บริษัท AI เชิงพาณิชย์ที่ครอบคลุมมากขึ้น
การปิดดีลระดับพันล้านดอลลาร์ในต่างประเทศหรือภาคการแพทย์ จะสะท้อนว่าเทคโนโลยี AI ของ Palantir มีความสามารถแข่งขันระดับโลก
การรักษาการเติบโตของรายได้กว่า 40% ต่อปีพร้อมกับอัตรากำไรที่ดีขึ้น จะเป็นหลักฐานว่า AI ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราวแต่เป็นแนวโน้มที่มั่นคง
คำตอบสั้นๆ: ใช่—แต่มีเงื่อนไข ตัวเลขต่าง ๆ ชี้ชัดว่า AI เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจ Palantir และความมั่นใจของผู้บริหารก็มาจากผลลัพธ์จริงทั้งในภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม ด้วยความคาดหวังที่สูงลิ่วและการแข่งขันที่ดุเดือด เส้นทางข้างหน้าจำเป็นต้องอาศัย “การเติบโตอย่างต่อเนื่อง” และ “การบริหารแบบไร้ข้อผิดพลาด” เพื่อรักษาราคาหุ้นให้อยู่ในระดับปัจจุบันได้
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ข้อตกลงชิปจีนของ Nvidia และ AMD เพิ่มความเสี่ยงด้านภาษีและกำไร แต่กลับคืนสู่การเข้าถึงตลาดสำคัญ ข้อตกลงนี้อาจเปลี่ยนความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าหรือไม่?
2025-08-11ราคาหุ้นของ SoftBank พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการลงทุนใน AI การฟื้นตัวของ Vision Fund และแผน IPO ขนาดใหญ่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปี 2024
2025-08-08ค่าเงินปอนด์ทรงตัวในวันศุกร์ หลังจากที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่งประธานธนาคารกลางจากทีมของทรัมป์
2025-08-08