เข้าใจ Smart Money Concept คืออะไร พร้อมรู้จักกลยุทธ์ CHoCH, BOS และ Liquidity Grabs ที่ช่วยให้คุณเทรดตามรายใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Smart Money Concept (SMC) ได้กลายเป็นกรอบแนวคิดที่ทรงพลังในการทำความเข้าใจโครงสร้างของตลาด การเคลื่อนไหวราคาที่ถูกควบคุม และกลยุทธ์การเทรดของสถาบันขนาดใหญ่
แนวคิดนี้ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรด Forex หุ้น และคริปโต โดยมีรากฐานจากแนวคิดที่ว่า "Smart Money" หรือเงินทุนขนาดใหญ่ เช่น สถาบันการเงิน ธนาคาร และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ คือผู้ที่ควบคุมทิศทางของตลาด ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้เทรดเหมือนนักเทรดรายย่อย แต่จะทิ้งร่องรอยไว้ในรูปแบบของการเคลื่อนไหวของราคา
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ว่า Smart Money Concept คืออะไร แนวคิดหลักของ Smart Money Concept วิธีสังเกตการเคลื่อนไหวของ Smart Money กลยุทธ์การเทรดแบบS mart Money Concept ตัวอย่างในสถานการณ์จริงและเคล็ดลับในการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ
Smart Money หมายถึงเงินทุนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนักเทรดมืออาชีพ นักลงทุนสถาบัน ผู้ทำตลาด และธนาคาร ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้มีทรัพยากรจำนวนมาก ความรู้เชิงลึกจากภายใน และอัลกอริธึมขั้นสูงทำให้พวกเขาได้เปรียบเหนือกว่านักเทรดรายย่อย
แนวคิด Smart Money Concept คือวิธีการเทรดที่อิงกับการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action) โดยมีเป้าหมายเพื่อวิเคราะห์และเทรดไปในทิศทางเดียวกับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด แทนที่จะเทรดสวนทางกับพวกเขา
SMC ในตลาด Forex vs หุ้น
ตลาด | การประยุกต์ใช้ SMC |
---|---|
Forex |
ตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ขับเคลื่อนโดยสถาบัน เหมาะกับการใช้ Order Blocks และ Liquidity Sweeps |
หุ้น | ทำงานได้ดีกับหุ้นขนาดใหญ่และดัชนี ที่ปริมาณการซื้อขายและโครงสร้างตลาดมีความสำคัญ |
SMC vs แนวทางการเทรดแบบดั้งเดิม
การเทรดแบบดั้งเดิม | Smart Money Concept (SMC) |
---|---|
ใช้อินดิเคเตอร์ (RSI, MACD) | อาศัยการเคลื่อนไหวของราคาและโครงสร้างตลาด |
ติดตาม Breakout อย่างไร้จุดหมาย | รอจังหวะ Liquidity Grabs และการจัดการราคา |
เส้นแนวโน้มและรูปแบบ | เน้น Order Blocks (OBs), Fair Value Gaps (FVGs), และChange of Character (CHOCH) |
เทรดตามสิ่งที่เห็น | เทรดตามพฤติกรรมของสถาบันใหญ่ |
1.โครงสร้างตลาด (Market Structure)
SMC พึ่งพาโครงสร้างของตลาดอย่างมากในการกำหนดทิศทางแนวโน้ม ความแข็งแกร่ง และการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
ช่วงสำคัญของโครงสร้างตลาด:
Higher Highs (HH) และ Higher Lows (HL) = ตลาดขาขึ้น (Bullish)
Lower Lows (LL) และ Lower Highs (LH) = ตลาดขาลง (Bearish)
Break of Structure (BOS) = ยืนยันแนวโน้มเดิมยังคงอยู่
Change of Character (CHOCH) = สัญญาณเตือนแนวโน้มอาจกลับตัว
การเข้าใจโครงสร้างตลาดช่วยให้นักเทรดสามารถเทรดตามแนวโน้มหลักและจับจังหวะเข้าซื้อขายได้แม่นยำขึ้น
2. กลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pools)
สภาพคล่องคือบริเวณที่มีคำสั่งซื้อขายจำนวนมาก Smart Money ต้องการสภาพคล่องเพื่อเปิดสถานะขนาดใหญ่จึงมัก:
ดึงดูดให้นักเทรดรายย่อยเข้าซื้อขาย
สร้างการ Breakout ปลอม
มุ่งเป้ากลุ่ม Stop-loss
ประเภทของสภาพคล่อง :
Equal highs/lows = จุดสูงสุดหรือต่ำสุดเท่ากัน เช่น Double Tops และ Double Bottoms เป็นเป้าหมายสำคัญของการเก็บสภาพคล่อง
Trendline liquidity = จุดหยุดขาดทุนเหนือหรือต่ำกว่าเส้นแนวโน้ม
Session highs/lows = จุดสูงสุดต่ำสุดของช่วงเวลาการซื้อขายที่มักถูกจัดการเพื่อเก็บสภาพคล่อง
Smart Money จะล่าหาบริเวณเหล่านี้ก่อนเคลื่อนไหวราคาจริง
3. Order Blocks (OB)
Order Block คือแท่งเทียนสุดท้ายก่อนเกิดการกลับตัวของราคา หรือก่อน Break of Structure แสดงถึงบริเวณที่ Smart Money วางคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่
ประเภทของ Order Block:
Bullish Order Block = แท่งเทียนลงสุดท้ายก่อนราคาขึ้น
Bearish Order Block = แท่งเทียนขึ้นสุดท้ายก่อนราคาลง
นักเทรดใช้ OB เป็นโซนเข้าซื้อขายพร้อมกับสัญญาณยืนยันอื่น ๆ
4. Fair Value Gaps (FVG)
หรือเรียกอีกชื่อว่า Imbalances คือช่องว่างของราคาเกิดจากความไม่สมดุลของผู้ซื้อและผู้ขาย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม ช่องว่างนี้มักจะถูกทดสอบซ้ำหรือถูกเติมเต็มในภายหลัง
FVG คือช่องว่างระหว่าง:
จุดต่ำของแท่งเทียนหนึ่ง
จุดสูงของแท่งเทียนถัดไป(ในกรณีแนวโน้มขาขึ้น)
ราคามักจะกลับมาที่โซนนี้ก่อนจะเดินหน้าต่อ ทำให้นักเทรดมีโอกาสเข้าซื้อในราคาที่ดีกว่า
5. Change of Character (CHOCH)
CHOCH คือสัญญาณแรกของการกลับตัวของแนวโน้ม เมื่อ:
แนวโน้มขาขึ้นเกิดจุดต่ำใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม (Lower Low)
แนวโน้มขาลงเกิดจุดสูงใหม่ที่สูงกว่าเดิม (Higher High)
สัญญาณนี้ช่วยให้นักเทรดเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขายก่อนที่ตลาดจะตอบสนองอย่างกว้างขวาง
6. Mitigation Blocks
Mitigation คือการที่ Smart Money ปิดสถานะเก่าหรือชดเชยความเสี่ยงโดยเปิดสถานะในทิศทางตรงข้าม Mitigation Blocks มักทับซ้อนกับ Order Blocks และทำหน้าที่เป็นโซนที่ราคามักมีปฏิกิริยาแรง
นักเทรดรายย่อยส่วนใหญ่มักเสียเงินเพราะตามแนวโน้ม Breakout แบบไม่วางแผน ใช้อินดิเคเตอร์ที่ตอบสนองช้า หรือเทรดแบบสุ่ม ต่างจาก Smart Money ที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในตลาด เช่น
ความเข้าใจในสภาพคล่อง
กลยุทธ์การจัดการราคา
ความรู้เรื่องโครงสร้างตลาด
วางแผนระยะยาวและเข้าเทรดอย่างแม่นยำ
ด้วย Smart Money Concept นักเทรดจะสามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวของตลาดได้ดียิ่งขึ้น เพราะรู้ว่าเมื่อไรและเพราะเหตุใดสถาบันใหญ่ๆถึงเข้าหรือออกจากตลาด
ขั้นตอนที่ 1: ระบุโครงสร้างตลาด
ใช้กราฟเวลา 1 ชั่วโมง (1H), 4 ชั่วโมง (4H) หรือรายวัน (Daily) เพื่อตรวจสอบแนวโน้มโดยรวม ตลาดกำลังสร้าง Higher Highs (HH) กับ Higher Lows (HL) หรือ Lower Highs (LH) กับ Lower Lows (LL)
ขั้นตอนที่ 2: มองหาโซนสภาพคล่อง
ทำเครื่องหมายจุดสูงสุด/ต่ำสุดที่เท่ากัน เส้นแนวโน้ม หรือจุดสูงสุด/ต่ำสุดของช่วงเวลาการซื้อขายก่อนหน้า เพราะเป็นเป้าหมายที่ Smart Money มักเข้าไปเก็บสภาพคล่อง
ขั้นตอนที่ 3: รอจังหวะ Liquidity Grab
สังเกตการล่า Stop-loss หรือการกวาดสภาพคล่อง (Liquidity Sweep) ตามด้วยการกลับตัวของราคา ซึ่งมักแสดงด้วยแท่งเทียนแรง ๆ เช่น แท่ง engulfing หรือการ Break of Structure (BOS)
ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันด้วย Order Block หรือ Fair Value Gap (FVG)
เมื่อราคามีการเปลี่ยนทิศทาง รอการกลับมาทดสอบ (retest) บริเวณ Order Block หรือช่องว่างราคาที่ไม่สมดุล (FVG) ในทิศทางใหม่
ขั้นตอนที่ 5: ใช้ CHOCH เพื่อจับจุดกลับตัวอย่างรวดเร็ว
ถ้าเกิด Change of Character (CHOCH) ขึ้น แสดงว่าสัญญาณกลับตัวของแนวโน้มเริ่มเกิดขึ้น
ตัวอย่าง
สถานการณ์: EUR/USD อยู่ในแนวโน้มขาลงบนกราฟ 4 ชั่วโมง
พบกลุ่มสภาพคล่อง: Double Top ที่ 1.0800
Liquidity Grab: ราคาทะลุขึ้นเหนือ 1.0800 ดึงนักเทรดฝั่งซื้อหลุดจุด Stop-loss จากนั้นราคากลับตัวแรง
CHOCH: กราฟ 1 ชั่วโมงสร้าง Lower Low ใหม่สัญญาณแนวโน้มเริ่มเปลี่ยน
Order Block: แท่งเทียน 1 ชั่วโมงขาขึ้นที่ราคา 1.0815 กลายเป็นโซน Mitigation
จุดเข้าเทรด: เปิดสถานะ Short เมื่อราคากลับมาทดสอบ Order Block
เป้าหมายกำไร: กลุ่มสภาพคล่องถัดไปที่ 1.0700
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): ตั้งเหนือ Order Block เล็กน้อย
ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า Smart Money มักสร้างกับดักให้นักเทรดรายย่อยหลงเชื่อ แล้วเคลื่อนไหวสวนทางอย่างมีนัยสำคัญ
ประโยชน์ของ Smart Money Concept
ประโยชน์ | คำอธิบาย |
---|---|
เข้าเทรดที่มีโอกาสชนะสูง | SMC มุ่งเน้นการติดตามสถาบันการเงิน |
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีขึ้น | การเข้าเทรดใกล้กับ Order Blocks และ Fair Value Gaps ช่วยให้ตั้ง Stop Loss น้อยและตั้งกำไรได้มาก |
หลีกเลี่ยงกับดักนักเทรดรายย่อย | SMC สอนให้นักเทรดคิดสวนทางกับความรู้สึกของนักเทรดรายย่อย |
ใช้การวิเคราะห์จากราคา (Price Action) | ไม่ต้องพึ่งพาอินดิเคเตอร์ กราฟสะอาดและใช้ตรรกะในการวิเคราะห์ |
ใช้งานได้ครอบคลุมทุกตลาด | เหมาะกับตลาด Forex คริปโต หุ้น และดัชนีต่าง ๆ |
Smart Money Concept ช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมตลาดอย่างลึกซึ้ง ทั้งเรื่องโครงสร้างตลาด สภาพคล่อง การจัดการราคา และกลยุทธ์ของสถาบันการเงิน การเทรดตามทิศทางของ Smart Money แทนการสวนทาง จะช่วยเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพในการเทรดอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การใช้ SMC ให้ชำนาญต้องใช้เวลาและวินัย แต่เมื่อเข้าใจแล้ว จะกลายเป็นหนึ่งในวิธีการเทรดที่สำคัญที่สุดในชุดเครื่องมือของนักเทรดเลยทีเดียว
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีการทำงานของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ สัญญาณที่ให้ และวิธีที่ผู้ซื้อขายใช้เส้นเหล่านี้เพื่อระบุแนวโน้มตลาดและตัดสินใจอย่างรอบรู้มากขึ้น
2025-06-06ค้นพบการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโรต่อเงินรูปีอินเดียสำหรับปี 2025 เรียนรู้ว่าคาดว่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับเงินรูปีอินเดียหรือไม่
2025-06-06เรียนรู้ที่จะระบุรูปแบบการเตะขาขึ้น และทำความเข้าใจว่าเหตุใดสัญญาณอันทรงพลังนี้จึงชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากโมเมนตัมขาลงไปเป็นขาขึ้น
2025-06-06