คำสั่ง Trailing Stop คือเครื่องมือที่ช่วยปกป้องกำไรและจำกัดการขาดทุนในขณะเทรด โดยไม่ต้องเฝ้าติดตามตลาดตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนและรับมือกับความผันผวนของตลาด
Trailing Stop หรือ Trailing Stop Loss เป็นกลยุทธ์การเทรดยอดนิยมที่นักลงทุนใช้เพื่อรักษากำไรที่ได้มา พร้อมทั้งจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น โดยกลไกของคำสั่งนี้คือการปรับระดับ Stop Loss โดยอัตโนมัติเมื่อราคาตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุน ซึ่งช่วยให้สามารถปกป้องผลกำไรได้โดยไม่ต้องคอยจับตาดูตลาดตลอดเวลา
แต่ Trailing Stop มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่? มาร่วมสำรวจข้อดี กลยุทธ์ที่ควรรู้ และตัวอย่างจากสถานการณ์จริง เพื่อทำความเข้าใจว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยเสริมแนวทางการเทรดของคุณได้อย่างไรบ้าง
Trailing Stop คืออะไร?
Trailing Stop คือคำสั่งที่ตั้งระยะห่างจากราคาตลาดปัจจุบันในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงิน ซึ่งต่างจาก Stop Loss แบบปกติที่คงที่ โดยคำสั่งนี้จะเคลื่อนที่ตามราคาตลาด และรักษาระยะห่างที่ตั้งไว้ ทำให้เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนสูง เพราะราคามักมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การทำงานของ Trailing Stop:
ระดับ Stop Loss จะปรับตามการเคลื่อนไหวของราคาตลาด
ปกป้องกำไร โดยการปรับระดับ Stop Loss เมื่อราคาขึ้นไปในทิศทางที่ดี
ช่วยจำกัดการขาดทุนหากราคาขยับไปในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์
ข้อดีของการใช้ Trailing Stop:
การใช้ Trailing Stop มีข้อดีหลายประการสำหรับเทรดเดอร์ รวมถึง:
ปกป้องกำไร: ล็อกกำไรโดยอัตโนมัติเมื่อราคาขึ้น
การบริหารความเสี่ยง: ช่วยจำกัดการขาดทุนโดยการปรับ Stop Loss
ไม่ต้องเฝ้าตลาดตลอดเวลา: สามารถตั้งคำสั่งและปล่อยให้มันทำงานได้เอง โดยไม่ต้องคอยติดตามราคาตลอด
ยืดหยุ่น: ใช้ได้กับหลายสภาพตลาดและสินทรัพย์ต่าง ๆ
กลยุทธ์ในการใช้ Trailing Stop
กลยุทธ์การใช้ Trailing Stop
เพื่อให้การใช้ Trailing Stop มีประสิทธิภาพสูงสุด ลองพิจารณากลยุทธ์ดังนี้:
1. Trailing Stop แบบเปอร์เซ็นต์ (Percentage-Based Trailing Stop)
ตั้ง Trailing Stop เป็นเปอร์เซ็นต์ที่คงที่ต่ำว่าราคาตลาดปัจจุบัน เช่น หากตั้ง Trailing Stop ที่ 10% และราคาหุ้นอยู่ที่ £100 Stop Loss จะอยู่ที่ £90 และเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้น Stop Loss ก็จะปรับตาม
2. Trailing Stop แบบจำนวนเงิน (Dollar-Based Trailing Stop)
วิธีนี้คล้ายกับการใช้เปอร์เซ็นต์ แต่ใช้จำนวนเงินที่คงที่แทน เช่น หากตั้ง Trailing Stop ที่ £5 และราคาหุ้นอยู่ที่ £50 Stop Loss จะอยู่ที่ £45 วิธีนี้เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาน้อย
3. Trailing Stop แบบอิงความผันผวน (Volatility-Based Trailing Stop)
ใช้ความผันผวนของตลาดในการกำหนดระดับ Trailing Stop สำหรับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง อาจต้องใช้ Trailing Stop ที่กว้างขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการขายก่อนเวลา เครื่องมือเช่น Average True Range (ATR) สามารถช่วยตั้งระดับที่เหมาะสมโดยอิงจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ผ่านมา
4. Trailing Stop แบบอิงจากเวลา (Time-Based Trailing Stop)
ตั้ง Trailing Stop ให้ปรับตามช่วงเวลา เช่น ปรับ Stop Loss ทุก ๆ ชั่วโมง หรือเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายในแต่ละวัน วิธีนี้เหมาะกับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวที่คาดเดาได้
ตัวอย่างจากสถานการณ์จริง
ตัวอย่างที่ 1: นักลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่ราคาหุ้นละ £100 และตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 10% ซึ่งทำให้ระดับ Stop Loss เริ่มต้นที่ £90 เมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้นไปถึง £120 Stop Loss ก็จะปรับตามเป็น £108 เพื่อปกป้องกำไร เมื่อราคาหุ้นลดลงไปที่ £108 คำสั่งจะถูกดำเนินการและนักลงทุนจะได้กำไร £20 ต่อหุ้น
ตัวอย่างที่ 2: เทรดเดอร์ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ราคา £500 และใช้ Trailing Stop £50 ซึ่งทำให้ระดับ Stop Loss เริ่มต้นที่ £450 เมื่อราคาขึ้นไปถึง £700 Stop Loss จะปรับเป็น £650 เพื่อรักษากำไร เมื่อราคาตกลงมาที่ £650 คำสั่ง Stop Loss จะถูกดำเนินการและเทรดเดอร์จะได้กำไร£ 150 ต่อเหรียญ
ตัวอย่างที่ 3: เทรดเดอร์ forex ตั้ง Trailing Stop ที่ 20 pips สำหรับการเทรดคู่สกุลเงิน เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 50 pips ระดับ Stop Loss จะปรับตาม เมื่อราคาตลาดลดลงไป 20 pips คำสั่ง Stop Loss จะถูกดำเนินการ และเทรดเดอร์จะได้รักษากำไรจากการเคลื่อนไหวที่เป็นไปในทิศทางที่ดี
สรุป
คำสั่ง Trailing Stop เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถปกป้องกำไรและบริหารความเสี่ยงได้ดี ทั้งยังให้ความยืดหยุ่นในการเทรด โดยไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามตลาดตลอดเวลา การทำความเข้าใจและเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับตัวและรับมือกับความผันผวนในตลาดได้อย่างมั่นใจ
การนำ Trailing Stop มาใช้ในกลยุทธ์การเทรดจะช่วยเสริมการปกป้องกำไรและจำกัดการขาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองทดลองใช้หลาย ๆ วิธี และปรับให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้และสภาพตลาด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับพอร์ตการลงทุนของคุณ อย่าลืมว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้วัดจากการทำกำไรอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการรักษากำไรที่คุณได้มา การวางแผนและใช้ Trailing Stop อย่างมีระบบสามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
Bollinger Bands วัดความผันผวนด้วยเส้นปรับตัวสามเส้นรอบการดำเนินราคา ช่วยให้ผู้ซื้อขายระบุจุดกลับตัว การทะลุ และอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
2025-04-15สำรวจว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) ช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์แนวโน้มและช่วยให้ผู้ซื้อขายตัดสินใจได้เร็วขึ้นและชาญฉลาดขึ้นอย่างไร
2025-04-15ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) ช่วยระบุแนวโน้มตลาดได้โดยการเฉลี่ยราคาในช่วงเวลาที่กำหนด เรียนรู้วิธีใช้ตัวบ่งชี้พื้นฐานนี้
2025-04-15