คู่มือสำหรับมือใหม่ สู่การทำกำไรในตลาดน้ำมัน

น้ำมันดิบ คือ ของเหลวที่พบได้ในชั้นหินใต้ดินประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนที่ระเหยง่ายน้ำมันดิบ ยังถือเป็นสินทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่งที่มาแรงซึ่งนักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามอง เนื่องจากมีอุปสงค์และอุปทานที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลามีความผันผวนสูงและความสภาพคล่องสูง ทำให้การเทรดน้ำมันเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์นักลงทุนจับตลอดเวลา

เนื่องจากน้ำมันดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันจึงส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการขนส่ง หรือแม้แต่ชีวิตประจำวันของเรา เมื่อนำน้ำมันดิบไปผ่านกระบวนการกลั่นจะได้ผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงยางมะตอยและสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่ง สำหรับนักลงทุนเทรดน้ำมันมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าเทรดน้ำมันยังดีในบทความนี้เราขอแนะนำคู่มือเบื้องต้นในการเทรดน้ำมันมาฝากกัน

เทรดน้ำมันดิบ คืออะไร?

การเทรดน้ำมันดิบ (Crude Oil Trading) คือ การซื้อขายน้ำมันดิบในตลาดการเงิน โดยผู้เทรดจะทำการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นหรือลงในอนาคต จากนั้นใช้ข้อมูลที่มีเพื่อตัดสินใจซื้อเมื่อราคาต่ำและขายเมื่อราคาสูง เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา การเทรดน้ำมันดิบมีลักษณะคล้ายกับการเทรดหุ้นหรือค่าเงิน แต่สินค้าอ้างอิงในที่นี้คือน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนสูงและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นสถานการณ์การเมืองปริมาณอุปสงค์และอุปทานรวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

เทรดน้ำมันดิบ มีกี่ประเภท?

การเทรดน้ำมันดิบ สามารถแบ่งออกได้หลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. การเทรดน้ำมันดิบผ่านตลาดฟิวเจอร์ส (Futures Market)

การเทรดแบบนี้เป็นการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยผู้เทรดจะตกลงซื้อหรือขายน้ำมันดิบในราคาและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นหรือระยะยาว และการเทรดฟิวเจอร์สยังช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบได้อีกด้วย

2. การเทรดน้ำมันดิบผ่านตลาด CFD (Contract for Difference)

การเทรด CFD เป็นการซื้อขายส่วนต่างราคา โดยผู้เทรดไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของน้ำมันดิบจริง ๆ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคา โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดเก็บหรือขนส่งสินค้า ซึ่ง การเทรด CFD มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถใช้เลเวอเรจ (Leverage) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

น้ำมันดิบมีกี่ประเภท

น้ำมันดิบมีหลากหลายประเภท แต่ 2 ประเภทที่นิยมเทรดมากที่สุด ได้แก่

1. เทรดน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent)

น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) คือน้ำมันที่มีแหล่งผลิตอยู่ในทะเลเหนือ เป็นทะเลที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะอังกฤษและคาบสมุทรสแกนดิเนเวียเป็นน้ำมันประเภท Light Sweet Crude

2.เทรดน้ำมันดิบ WTI

น้ำมันดิบ WTI (WTI ย่อมาจาก West Texas Intermediate) คือน้ำมันที่มีแหล่งผลิตอยู่ในทวีปอเมริกา เป็นน้ำมันประเภท Light Sweet Crude

ข้อแตกต่างระหว่างน้ำมันดิบ 2 ประเภท

น้ำมันดิบเบรนท์ เป็นน้ำมันที่มีความนิยมใช้งานมากที่สุดในโลก ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI มักมีการนิยมใช้งานมากในทวีปอเมริกาเหนือ

น้ำมันดิบเบรนท์มักมีราคาที่สูงกว่าน้ำมันดิบแบบ WTI อยู่เสมอ เนื่องจากมีการใช้งานจากประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก ทำให้มี Demand ที่มากกว่า ในขณะที่น้ำมันดิบ WT Iที่มีการใช้งานหลักเพียงทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้น้ำมันดิบมีราคาที่ต่ำกว่า

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมันดิบ WTI

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันมีความผันผวนสูงและได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้:

1. อุปสงค์และอุปทาน:

-ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโต

-ปริมาณการผลิตน้ำมันจากประเทศผู้ผลิต

-การค้นพบแหล่งน้ำมันใหม่หรือเทคโนโลยีการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไป

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์:

-ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

-นโยบายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC,OPEC+)

-การคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดทางการค้า

3. อัตราแลกเปลี่ยน:

-ราคาน้ำมันซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น ค่าเงินดอลลาร์จึงมีผลต่อราคาน้ำมัน

4. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ:

-การเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

-ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือวิกฤตเศรษฐกิจ

5. ปัจจัยตามฤดูกาล:

-ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในฤดูหนาว (น้ำมันทำความร้อน) และฤดูร้อน (น้ำมันเบนซิน)

วิธีเริ่มต้นเทรดน้ำมัน

เทรดน้ำมัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดการเงิน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมากและสามารถใช้เลเวอเรจ เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันมีความผันผวนสูง ทำให้การคาดการณ์แนวโน้มราคาค่อนข้างท้าทาย

เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ผู้เทรดควรติดตามการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคและข่าวสารเกี่ยวกับตลาดน้ำมันอยู่เสมอ ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

เคล็ดลับสำคัญในการเทรดน้ำมัน

1. ใช้ Indicator เชิงเทคนิคช่วยวิเคราะห์แนวโน้มราคา

การใช้ Indicator ทางเทคนิค เช่น Moving Average (MA),Relative Strength Index (RSI) และ MACD สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุแนวโน้มของราคาน้ำมันได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน

2. ศึกษาปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมัน

ราคาน้ำมัน ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น Demand & Supply ในตลาดโลก,สภาพเศรษฐกิจ,และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำมันหลักของโลก

3. จับตาฤดูกาลและแนวโน้มของราคา

ราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์กับฤดูกาล เช่น

ช่วงฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.) ราคาน้ำมันมักพุ่งสูง เนื่องจากมีการเดินทางมากขึ้น

ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค.–พ.ย.) ราคามักปรับลดลง เนื่องจากเทศกาลวันหยุดกำลังสิ้นสุด

ช่วงฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) ราคาน้ำมันมักเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้พลังงานที่สูงขึ้น

4. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ราคาน้ำมันมีความเชื่อมโยงกับค่าดัชนีดอลลาร์ หากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ราคาน้ำมันดิบมักปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ราคาน้ำมันมักปรับลดลง

5. เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ

การเลือกโบรกเกอร์ที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเทรดน้ำมันควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีสเปรดต่ำ,บริการลูกค้าดี และมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบถ้วน เช่น MetaTrader4 (MT4) หรือ MetaTrader5 (MT5)

สรุปแล้ว การเทรดน้ำมันเป็นโอกาสทำกำไรที่ดีสำหรับนักลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของตลาด ผู้เทรดควรเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดน้ำมัน,ติดตามข่าวน้้ำมัน และใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดพลังงาน หากคุณกำลังมองหาช่องทางลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูง ตลาดน้ำมันอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ