การเทรด CFDs ให้ได้ผลต้องมีทักษะ ความชำนาญ และการวิเคราะห์แนวโน้ม เพื่อเลือกเทคนิคการเทรดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ
ความผันผวนในตลาดเกิดขึ้นตลอดเวลา ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดสถานการณ์การปรับตัวขึ้น-ลงของราคา โดยเฉพาะตลาดเงิน Forex ที่มีทั้งความเปราะบางและอ่อนไหวง่าย ทำให้นักลงทุนหลายคนหันมาใช้วิธีการลงทุนแบบ CFDs เพื่อให้สามารถเก็งกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง แต่ทั้งนี้ถึงแม้การเทรดแบบ CFDs จะมีประโยชน์และใช้ได้ผลจริง นักลงทุนก็ยังต้องมีทักษะ ความชำนาญ ความรู้ และความสามารถในการวิเคราะห์แนวโน้มเป็นพื้นฐาน เพื่อให้สามารถเลือกใช้เทคนิคการเทรดได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
เทคนิคการเทรดแบบ CFDs เป็นรูปแบบการเทรดที่นักลงทุนสามารถฝึกฝนให้เกิดความชำนาญได้ แต่นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดจนเกิดเป็นความวิตกกังวล เพราะนักลงทุนแต่ละคนจะมีปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางคนพร้อมสำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ส่วนบางคนอาจค้นพบว่า มีบางเทคนิคเท่านั้นที่เหมาะสมกับตัวเอง และสามารถใช้งานได้ดีที่สุด ดังนั้นไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับการเลือกใช้เทคนิคการเทรด ขอเพียงนักลงทุนมีความเข้าใจในสถานการณ์ของตลาด และมีเทคนิคสำหรับการรับมือ โดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้แก่พอร์ต เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
1. เทคนิค Swing Trading
เป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างการใช้กราฟ เพื่อหารูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา และจุดที่เหมาะสมในการเปิดคำสั่งซื้อขายในช่วงเวลาสั้น ๆ เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่นักลงทุนเห็นว่าเกิดความเปลี่ยนแปลง หรือมีข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะการเคลื่อนไหวของบริษัทขนาดใหญ่ มักจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดโดยรวมเสมอ
2. เทคนิค Day Trading
เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และนักลงทุนที่มีเวลาจำกัด เทคนิคนี้นักลงทุนจะนิยมเข้าตลาดกันในช่วงเวลากลางวัน เพื่อรอให้ตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นอเมริกาเหนือเปิดเพื่อทำการเก็งกำไร และปิดการเทรดภายในวันนั้น โดยที่จะไม่นิยมเปิดสถานะเอาไว้ข้ามคืน และที่สำคัญ การปิดสถานะในตอนเย็น จะช่วยให้การเข้าสู่ตลาดในวันใหม่ สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดได้ง่าย เพราะสามารถเกาะติดข่าวสารได้แบบรายวัน
3. เทคนิค Scalping Trading
เป็นเทคนิคการเทรดที่เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น ระดับนาที หรือวินาที ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบ Day Trading ที่จะเปิดสถานะเอาไว้ทั้งวัน การเทรดด้วยเทคนิค Scalping นักลงทุนจะไม่มุ่งเน้นการทำกำไรสูง แต่จะเน้นการเข้าทำกำไรบ่อย ๆ และสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ตลาดเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง ราคามีการสวิงตัวขึ้นและลงตลอดเวลา นักลงทุนจะใช้เทคนิคนี้เพื่อการเข้าทำกำไรจากความผันผวน ด้วยทักษะและประสบการณ์ที่มี และที่สำคัญถึงแม้ว่าเทคนิคนี้จะไม่ช่วยให้ทำกำไรได้ก้อนโต แต่นักลงทุนก็จะไม่เสี่ยงต่อการขาดทุนก้อนโตด้วยเช่นกัน
และเทคนิคทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ และความสามารถในการวิเคราะห์แนวโน้มของนักลงทุน เป็นตัวช่วยให้เทคนิคมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างผลตอบแทนได้จริง นักลงทุนไม่สามารถใช้เทคนิคโดยปราศจากความรู้ในข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ เพราะมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนสูง อีกทั้งยังทำให้พอร์ตเกิดความเสียหาย และตัวนักลงทุนก็จะเกิดความท้อแท้ ดังนั้นศึกษาข้อมูลทุกอย่างร่วมกัน เพื่อนำไปประกอบกันเป็นกลยุทธ์แห่งความสำเร็จจะดีที่สุด
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดมุ่งหมาย (และไม่ควรถือเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรืออื่น ๆ ที่ควรเชื่อถือได้ ไม่มีการให้ความเห็นในเนื้อหาที่ถือเป็นคำแนะนำโดย EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน การรักษาความปลอดภัย ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ นั้นเหมาะสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ