ฟอเร็กซ์ vs ฟิวเจอร์ส ความเสี่ยงและผลตอบแทน

2025-01-16
สรุป

การเทรดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์สมีความแตกต่างในกลยุทธ์และสินทรัพย์ที่ซื้อขาย ซึ่งนักลงทุนควรเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง

การเทรดในตลาดการเงินเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสในการทำกำไร โดยสองตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ ฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์ส แม้ว่าทั้งสองจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีลักษณะเฉพาะ ความเสี่ยง และโอกาสที่แตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะสำรวจความแตกต่างพื้นฐานระหว่างทั้งสองตลาด รวมถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละตลาด และแนวทางในการเริ่มต้นเทรดในแต่ละประเภท


ความแตกต่างระหว่างฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์ส

การเทรดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์สมักสร้างความสับสนให้กับนักลงทุน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองตลาดนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในแง่โครงสร้างและการดำเนินการ ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือสินทรัพย์ที่ถูกซื้อขายในแต่ละตลาด ในตลาดฟอเร็กซ์หรือที่เรียกว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงิน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก โดยมีการหมุนเวียนเงินมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน นักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์จะทำการเปรียบเทียบมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่ง เช่น ยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ


การเทรดฟิวเจอร์สนั้นแตกต่างออกไป โดยเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัญญาที่เป็นตัวแทนของสินทรัพย์เฉพาะ ซึ่งอาจเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันหรือทองคำ ดัชนีหุ้น หรือแม้กระทั่งอัตราดอกเบี้ย สัญญาฟิวเจอร์สจะมีวันหมดอายุที่ชัดเจน นักลงทุนจะต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุ แม้ว่าตลาดฟิวเจอร์สมีปริมาณการซื้อขายรายวันที่น้อยกว่าตลาดฟอเร็กซ์ แต่ก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจในสินค้าโภคภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน


อีกหนึ่งความแตกต่างที่สำคัญคือประเภทของผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในตลาด ในตลาดฟอเร็กซ์นักลงทุนมักจะเป็นบุคคลทั่วไป ธนาคาร สถาบันการเงิน และกองทุนป้องกันความเสี่ยง ที่ทำการซื้อขายโดยตรงระหว่างกันเอง ขณะที่ในตลาดฟิวเจอร์สนักลงทุนจะทำการซื้อขายผ่านตลาดแลกเปลี่ยน เช่น Chicago Mercantile Exchange (CME) หรือ Intercontinental Exchange (ICE) ซึ่งเป็นตลาดที่มีการกำกับดูแล เพื่อให้การซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สเป็นไปตามมาตรฐานและสามารถชำระบัญชีได้ตามกำหนดเวลา

CME เทียบกับ ICE

สภาพคล่องเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการเปรียบเทียบทั้งสองตลาด ในตลาดฟอเร็กซ์ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายสูงมากในแต่ละวัน ทำให้สภาพคล่องสูง ส่งผลให้การเข้าและออกจากตำแหน่งทำได้ง่ายโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาที่รวดเร็ว ในขณะที่ตลาดฟิวเจอร์ส แม้ว่าจะมีสภาพคล่องเช่นกัน แต่บางครั้งก็อาจพบว่ามีสภาพคล่องต่ำกว่า โดยเฉพาะในกรณีของสัญญาที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก


สุดท้ายนี้ ช่วงเวลาเทรดก็แตกต่างกันระหว่างทั้งสองตลาด ตลาดฟอเร็กซ์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ เนื่องจากการเทรดสกุลเงินเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการทั่วโลก จึงสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกที่และในทุกเขตเวลา ขณะที่ตลาดฟิวเจอร์สก็เปิดให้บริการในช่วงเวลานานเช่นกัน แต่เวลาทำการจะขึ้นอยู่กับแต่ละตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งบางสัญญาฟิวเจอร์สอาจมีการซื้อขายเกือบตลอดทั้งวัน ในขณะที่บางสัญญาจะมีเวลาการซื้อขายที่จำกัด


ความเสี่ยงและผลตอบแทนในการเทรดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์ส

เมื่อพูดถึงข้อดีของการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์ส ทั้งสองตลาดต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ จุดเด่นที่น่าสนใจคือความยืดหยุ่นสูง โดยตลาดเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกช่วงเวลาในการเทรดได้ตามต้องการ นอกจากนี้ สภาพคล่องที่สูงและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำ ยังทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเทรดอย่างต่อเนื่อง


อีกหนึ่งข้อดีของการเทรดฟอเร็กซ์คือการที่โบรกเกอร์มักจะเสนอเลเวอเรจสูง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมการเทรดในตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้เงินทุนน้อยลง การใช้เลเวอเรจนี้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่ก็ต้องระวัง เพราะมันสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้น นักลงทุนจึงควรใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่มากเกินไป


ในทางกลับกัน หนึ่งในข้อดีสำคัญของการเทรดฟิวเจอร์ส คือ ความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาในสินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ


ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเกษตรกรและคาดว่าราคาข้าวสาลีจะตก คุณสามารถทำสัญญาฟิวเจอร์สเพื่อล็อกราคาข้าวสาลีในปัจจุบัน ซึ่งลดความเสี่ยงที่ราคาจะลดลงเมื่อพืชผลของคุณเก็บเกี่ยวได้ สัญญาฟิวเจอร์สยังมีลักษณะเป็นมาตรฐาน เช่น ขนาดสัญญาที่กำหนดไว้และวันหมดอายุ ทำให้การซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สสะดวกและง่ายขึ้นสำหรับทั้งนักลงทุนและสถาบันต่าง ๆ


อย่างไรก็ตาม ข้อดีเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง การเทรดฟอเร็กซ์อาจมีความผันผวนอย่างมาก และการใช้เลเวอเรจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยสามารถทำให้เกิดกำไรหรือขาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนจึงต้องพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของสภาวะตลาด และวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น


ในทำนองเดียวกัน การเทรดฟิวเจอร์สก็มีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูง หากราคาตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับตำแหน่งของนักลงทุน นอกจากต้องพิจารณาความผันผวนของราคาตลาดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงวันหมดอายุของสัญญาฟิวเจอร์ส หากไม่ปิดตำแหน่งก่อนถึงวันหมดอายุก็อาจต้องเผชิญกับการบังคับชำระบัญชี


ทั้งสองตลาดได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ และภัยธรรมชาติ ซึ่งสามารถทำให้ราคาผันผวนอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องมีความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่ดีเพื่อปกป้องการลงทุนของตนเอง


วิธีเริ่มต้นการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์ส

หากคุณสนใจที่จะเริ่มต้นการเทรด ทั้งตลาดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์สต่างก็มีแนวทางที่ไม่เหมือนกัน สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นในตลาดฟอเร็กซ์ ขั้นตอนแรกคือการเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือซึ่งให้บริการการเข้าถึงคู่สกุลเงินที่คุณต้องการเทรดได้ โดยตลาดฟอเร็กซ์สามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หลายแห่ง ซึ่งส่วนมากจะมีบัญชีทดลองสำหรับนักลงทุนมือใหม่ให้ได้ฝึกฝนก่อนที่จะลงทุนจริง


เมื่อเข้าสู่การเทรดฟอเร็กซ์ สิ่งสำคัญคือการพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับลักษณะความผันผวนของตลาด เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เน้นการเคลื่อนไหวของราคาที่ผ่านมา หรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่พิจารณาจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและข่าวสารต่าง ๆ การฝึกฝนและการเรียนรู้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้


ในทางตรงกันข้าม การเทรดฟิวเจอร์สมีแนวทางที่แตกต่างออกไป หากคุณต้องการเริ่มต้นการเทรดฟิวเจอร์ส คุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่รองรับการเทรดสัญญาฟิวเจอร์ส ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าฟอเร็กซ์ ทำให้คุณต้องให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงมากขึ้น การเทรดฟิวเจอร์สยังต้องใช้ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่สิ่งที่ทำให้การเทรดฟิวเจอร์สแตกต่าง คือ การคำนึงถึงวันหมดอายุของสัญญาและกระบวนการต่อสัญญา ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนในการเทรดมากขึ้น


หนึ่งในความแตกต่างสำคัญระหว่างการเทรดฟอเร็กซ์และฟิวเจอร์ส คือ กลยุทธ์ที่ใช้ นักลงทุนฟอเร็กซ์มักมุ่งเน้นการเทรดระยะสั้น โดยใช้โอกาสจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อยในแต่ละวัน ในขณะที่นักลงทุนฟิวเจอร์สมักถือครองตำแหน่งทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์และกลยุทธ์ที่เลือกใช้ การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) มีบทบาทสำคัญในตลาดฟิวเจอร์ส เนื่องจากนักลงทุนมักใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อปกป้องพอร์ตการลงทุนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์


ในทั้งสองตลาด นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะเข้าใจถึงความสำคัญของการบริหารจัดการความเสี่ยง เช่น การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (stop-loss) การเลือกขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม และการควบคุมการใช้เลเวอเรจ นอกจากนี้ การรู้จักขีดจำกัดในการรับความเสี่ยงของตัวเอง และการมีวินัยในการเทรด ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวในทั้งสองตลาด


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

Slippage เกราะกันขาดทุน Forex ที่เทรดเดอร์ควรรู้

Slippage เกราะกันขาดทุน Forex ที่เทรดเดอร์ควรรู้

Slippage คืออะไรในตลาด Forex? รู้จักสาเหตุ วิธีป้องกัน และเทคนิคจัดการ Slippage เชิงบวก–ลบ เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสทำกำไรอย่างมืออาชีพ

2025-04-19
คำอธิบายกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น

คำอธิบายกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น

สำรวจแนวคิดสำคัญและกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณ

2025-04-18
เส้นการกระจายการสะสม: การวิเคราะห์การไหลของเงิน

เส้นการกระจายการสะสม: การวิเคราะห์การไหลของเงิน

Accumulation Distribution Line ติดตามแรงกดดันในการซื้อและการขายโดยการรวมราคาและปริมาณเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ซื้อขายยืนยันแนวโน้มและค้นหาจุดกลับตัว

2025-04-18