สเปรด Forex ส่งผลต่อการซื้อขายของคุณอย่างไร

2025-01-16
สรุป

การเข้าใจและจัดการค่าสเปรดเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด forex ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทำกำไร โดยสเปรดมีทั้งแบบคงที่และแปรผัน ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และสไตล์การเทรด

หากคุณเป็นมือใหม่ในการเทรด forex คุณอาจสงสัยว่า "ค่าสเปรด" คืออะไร? โดยพื้นฐานแล้ว ค่านี้คือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid Price) และราคาเสนอขาย (Ask Price) ของคู่เงินในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ต้นทุนที่ถูกรวมอยู่ในราคาซื้อและราคาขายของทุกการเทรด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อคู่เงิน EUR/USD โบรกเกอร์อาจเสนอราคาซื้อที่ 1.3089 และราคาขายที่ 1.3091 ส่วนต่าง 2 Pips นี้ก็คือค่าสเปรดนั่นเอง

สเปรด forex-ebc

ค่าสเปรดเป็นหนึ่งในต้นทุนที่สำคัญที่สุดในการเทรด forex เพราะมีผลต่อทั้งค่าใช้จ่ายในการเทรดและโอกาสในการทำกำไร การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากมันกำหนดว่าคุณต้องจ่ายเท่าไหร่ในการเปิดและปิดออเดอร์ ยิ่งสเปรดแคบ ต้นทุนในการเทรดก็จะยิ่งต่ำลง ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากการซื้อขายบ่อย ๆ แม้จะเป็นกำไรเพียงเล็กน้อยก็ตาม


ประเภทของสเปรด

เมื่อพูดถึงสเปรดในการเทรด forex มีสองประเภทหลักที่คุณควรรู้ ได้แก่ สเปรดคงที่ (Fixed Spreads) และสเปรดแปรผัน (Variable Spreads) ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกใช้สเปรดประเภทใดขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณและประเภทของโบรกเกอร์ที่คุณใช้


สเปรดคงที่ (Fixed Spreads): หมายถึง สเปรดที่มีค่าคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในสภาวะปกติหรือมีความผันผวนสูงก็ตาม โดยทั่วไป โบรกเกอร์ที่ใช้ระบบ Market Maker หรือ Dealing Desk จะเป็นผู้ให้บริการสเปรดประเภทนี้ ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่กำหนดราคาเองและให้สภาพคล่องแก่เทรดเดอร์ ทำให้สเปรดยังคงที่ตลอดเวลา ข้อดีอย่างหนึ่งของสเปรดคงที่คือช่วยให้คุณคำนวณต้นทุนการเทรดได้ล่วงหน้า ทำให้การวางแผนการซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่นและคาดการณ์ได้ง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่หรือผู้ที่มีทุนจำกัด เพราะโดยทั่วไปแล้ว สเปรดคงที่มักใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่าสเปรดแปรผัน


สเปรดแปรผัน (Variable Spreads): หมายถึง สเปรดที่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด โดยมักจะกว้างขึ้นเมื่อมีความผันผวนสูง และแคบลงเมื่อตลาดมีเสถียรภาพ โบรกเกอร์ที่ใช้ระบบ Non-Dealing Desk จะเป็นผู้ให้บริการสเปรดประเภทนี้ เพราะพวกเขารับราคาจากผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย ทำให้ราคามีความยืดหยุ่นมากขึ้น ข้อดีหลักของสเปรดแปรผันคือราคาที่โปร่งใสและมีโอกาสได้รับราคาที่ดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนต่ำ อย่างไรก็ตาม หากตลาดมีความผันผวนรุนแรงหรือสภาพคล่องลดลง สเปรดอาจขยายกว้างขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการเทรดเพิ่มขึ้นตามไปด้วย


ดังนั้น ประเภทของสเปรดที่คุณเลือกมีผลต่อกลยุทธ์การเทรดของคุณ หากคุณต้องการความโปร่งใสและอาจช่วยลดต้นทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนต่ำ สเปรดแปรผันจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการความแน่นอนในการเทรด สเปรดคงที่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า


การคำนวณค่าสเปรด

เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าสเปรดคืออะไรและมีประเภทใดบ้าง ต่อไปเราจะมาดูวิธีการคำนวณกัน การคำนวณนั้นค่อนข้างง่าย เพียงนำราคาซื้อมาลบกับราคาขายของคู่สกุลเงิน ก็จะได้ค่าของสเปรดออกมา


ตัวอย่างเช่น หากราคาซื้อของคู่เงิน EUR/USD อยู่ที่ 1.1010 และราคาขายอยู่ที่ 1.1012 ค่าสเปรดจะเท่ากับ 2 pips


ในการเทรด forex pip คือหน่วยที่เล็กที่สุดของการเคลื่อนไหวของราคาในคู่เงิน โดยสำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ 1 pip จะเท่ากับ 0.0001 ดังนั้น หากมีการพูดถึง "สเปรด3 pips" ซึ่งจะหมายถึงส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและขายเท่ากับ 3 pips อย่างไรก็ตาม การคำนวณต้นทุนที่แท้จริงของสเปรด forex ยังต้องพิจารณาขนาดของการเทรดด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับขนาดล็อต (Lot Size) ที่คุณใช้


ตัวอย่างเช่น หากคุณเทรด 1 ล็อตมาตรฐาน (Standard Lot) หรือ 100,000 หน่วยของสกุลเงิน และมีค่าสเปรด 3 pips ในคู่เงิน EUR/USD ต้นทุนของสเปรดจะอยู่ที่ $30 โดยคำนวณจากมูลค่าของ 1 pip ที่เท่ากับ $10 ต่อ 1 ล็อตมาตรฐาน หากคุณเทรดด้วยขนาดที่เล็กลง เช่น มินิล็อต (Mini Lot) หรือไมโครล็อต (Micro Lot) ต้นทุนก็จะลดลงตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน โอกาสในการทำกำไรก็จะลดลงเช่นกัน


การคำนวณจะช่วยให้คุณเข้าใจต้นทุนที่ต้องจ่ายในแต่ละครั้ง และผลกระทบที่อาจมีต่อกำไรของคุณ ยิ่งสเปรดแคบลง ต้นทุนการเข้าและออกจากออเดอร์ก็จะต่ำลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเทรด โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง


ค่าสเปรดส่งผลกระทบต่อการเทรดอย่างไร

ค่าสเปรดส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรจากการเทรด เพราะเมื่อคุณซื้อในราคาเสนอซื้อและขายในราคาเสนอขาย คุณจะเริ่มต้นการเทรดด้วยการขาดทุนเล็กน้อยทันที ดังนั้น ราคาจึงต้องเคลื่อนที่ไปไกลกว่าค่าสเปรดถึงจะเริ่มทำกำไรได้


ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดตำแหน่งในคู่เงิน EUR/USD โดยมีค่าสเปรด 3 pips ราคาต้องขยับไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับคุณอย่างน้อย 3 pips จึงจะเริ่มทำกำไรได้ แต่หากราคาขยับไปในทิศทางตรงข้าม คุณจะขาดทุนเท่ากับขนาดของสเปรด ดังนั้น การพิจารณาค่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณกำหนดจุดเข้าและออกจากการเทรด และต้องคำนึงถึงต้นทุนนี้ในกลยุทธ์การเทรดด้วย


นอกจากนี้ ขนาดของสเปรดยังส่งผลต่อการตัดสินใจในการเทรด โดยเฉพาะในการใช้กลยุทธ์ระยะสั้นอย่าง Scalping ซึ่งต้องอาศัยการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและแม่นยำ เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้มักจะเลือกสเปรดที่แคบเพื่อลดต้นทุนการเข้าออกตลาดและเพิ่มโอกาสทำกำไร ส่วนเทรดเดอร์ที่ถือครองตำแหน่งในระยะยาวมักสามารถรับมือกับสเปรดที่กว้างได้ เพราะการเคลื่อนไหวของราคาที่พวกเขาคาดหวังมักมากพอที่จะครอบคลุมต้นทุนจากสเปรดได้


การจัดการค่าสเปรด forex เพื่อการเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การจัดการค่าสเปรดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาผลการเทรด ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางประการที่จะช่วยลดผลกระทบของสเปรดในการเทรดของคุณ:


เลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดที่แข่งขันได้: หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดต้นทุนจากค่าสเปรดคือการเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดแคบและแข่งขันกันได้ ควรศึกษาข้อมูลโบรกเกอร์ที่มีสเปรดแปรผันสำหรับคู่เงินยอดนิยมอย่าง EUR/USD ซึ่งมักจะมีสเปรดที่แคบกว่าคู่เงินอื่น ๆ


เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง: สเปรด forex มักจะแคบลงในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง เช่น เมื่อตลาดการเงินหลัก ๆ (เช่น ลอนดอนหรือนิวยอร์ก) เปิดทำการ การเทรดในช่วงเวลานี้จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากค่าสเปรดที่ต่ำลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรมได้


พิจารณาคู่เงินที่เทรด: สเปรดของคู่เงินแต่ละคู่จะแตกต่างกันไปคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD, และ USD/JPY มักจะมีสเปรดที่แคบที่สุด ขณะที่คู่เงินที่มีความผันผวนสูงหรือสกุลเงินที่มีสภาพคล่องต่ำอาจมีสเปรดที่กว้างกว่า ดังนั้น หากคุณต้องการลดต้นทุนในการเทรด ควรเลือกเทรดคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงเพื่อจะได้สเปรดที่แคบกว่า


ใช้คำสั่ง Limit Orders: แทนที่จะเข้าเทรดทันทีตามราคาตลาด (ซึ่งรวมถึงค่าสเปรด) คุณสามารถใช้คำสั่ง Limit Orders เพื่อระบุราคาที่ต้องการซื้อหรือขาย กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าสเปรด หากราคาตลาดขยับไปในทิศทางที่คุณต้องการก่อนที่คำสั่งจะถูกดำเนินการ


รวมค่าสเปรดไว้ในการจัดการความเสี่ยง: อย่าลืมคำนึงถึงค่าสเปรดเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารความเสี่ยงในการเทรดของคุณ โดยเฉพาะเมื่อกำหนดจุด Stop-loss และ Take-profit ควรคำนึงถึงค่านี้ด้วย โดยเฉพาะหากคุณเทรดในกรอบเวลาสั้นหรือใช้คู่เงินที่มีความผันผวนสูง


สรุปแล้ว การเข้าใจและจัดการกับค่าสเปรดถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำกำไรจากการเทรด forex ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีประสบการณ์มาแล้วหลายปี การรู้จักวิธีการทำงานและการนำมาประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์ของคุณ จะสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

จับตาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปี 2025: ปัจจัยและผลกระทบ

จับตาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปี 2025: ปัจจัยและผลกระทบ

ติดตามแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2025 ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และปัจจัยที่สำคัญ

2025-03-25
หุ้นสหรัฐที่ให้ปันผลทุกเดือนมีอะไรบ้าง?ค้นหาคำตอบในปี 2025

หุ้นสหรัฐที่ให้ปันผลทุกเดือนมีอะไรบ้าง?ค้นหาคำตอบในปี 2025

ค้นพบหุ้นสหรัฐ ปันผลทุกเดือนดาวเด่นปี 2025 พร้อมข้อมูลการเติบโตทางธุรกิจและอัตราปันผลสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ

2025-03-25
มือเพชรสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในการซื้อขายระยะยาวได้อย่างไร

มือเพชรสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในการซื้อขายระยะยาวได้อย่างไร

ค้นพบว่าการใช้แนวคิด Diamond Hands จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการซื้อขายในระยะยาวได้อย่างไร เรียนรู้ว่าเหตุใดการยึดมั่นกับความผันผวนของตลาดจึงสามารถเพิ่มผลกำไรได้สูงสุด

2025-03-24