ค้นพบคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนมากที่สุดและเรียนรู้วิธีการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ รับข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่มีประโยชน์เพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มของตลาด
ความผันผวนเป็นคำสำคัญในการซื้อขายฟอเร็กซ์ที่อธิบายถึงระดับความผันผวนของราคาในคู่สกุลเงินในช่วงเวลาหนึ่ง ความผันผวนที่สูงขึ้นหมายความว่าราคาของสกุลเงินสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ ในขณะที่ความผันผวนที่ต่ำลงบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวที่น้อยลงและค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น แม้ว่าความผันผวนจะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อขายทำกำไรได้มาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ในโลกของฟอเร็กซ์ ความผันผวนมักเด่นชัดในคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่หรือประเทศที่เผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจที่มั่นคง เช่น เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยูโรโซน หรือญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความผันผวนน้อยกว่า เนื่องจากสกุลเงินของพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ในทางกลับกัน คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางการเมือง หรืออัตราเงินเฟ้อสูง อาจเผชิญกับความผันผวนของราคาที่คาดเดาไม่ได้และรุนแรงกว่า
ในขณะที่คู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY ขึ้นชื่อว่ามีความผันผวนต่ำ คู่สกุลเงินบางคู่ขึ้นชื่อเรื่องการเคลื่อนตัวของราคาที่มาก ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ที่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยง การทำความเข้าใจคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนมากที่สุดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์และใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาด
วิธีการวัดความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์
ในการซื้อขายคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนอย่างประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์มักจะพึ่งพาเครื่องมือที่ช่วยวัดและทำความเข้าใจความผันผวน ตัวบ่งชี้ที่ใช้มากที่สุดคือ Average True Range (ATR) และ Relative Strength Index (RSI)
ATR วัดช่วงราคาเฉลี่ยตลอดระยะเวลาที่กำหนด ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจระดับความผันผวนในแต่ละตลาดได้ ค่า ATR ที่สูงบ่งชี้ว่าราคามีการแกว่งตัวมาก ในขณะที่ค่า ATR ที่ต่ำกว่าบ่งชี้ว่าเงื่อนไขมีเสถียรภาพมากขึ้น เครื่องมือนี้มีความจำเป็นสำหรับการกำหนดระดับการหยุดขาดทุนและการกำหนดขนาดตำแหน่งเมื่อทำการซื้อขายคู่ที่มีความผันผวนสูง
RSI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ซื้อขายประเมินได้ว่าคู่สกุลเงินนั้นถูกซื้อมากเกินไปหรือถูกขายมากเกินไป ซึ่งอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนซึ่งราคามีแนวโน้มที่จะพลิกกลับอย่างกะทันหัน หากค่า RSI สูงกว่า 70 แสดงว่าสกุลเงินนั้นถูกซื้อมากเกินไปและกำลังจะปรับตัว ในขณะที่ค่า RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่าสกุลเงินนั้นถูกขายมากเกินไปซึ่งอาจส่งผลให้ราคาดีดตัวกลับ
ตัวบ่งชี้เหล่านี้ร่วมกันช่วยให้ผู้ซื้อขายประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายคู่สกุลเงินที่มีความผันผวน ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์
ปัจจัยหลายประการส่งผลต่อความผันผวนของคู่สกุลเงินบางคู่ โดยสภาวะเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมือง และนโยบายของธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญ ตลาดเกิดใหม่ซึ่งเศรษฐกิจมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะโลกหรือความไม่มั่นคงภายในประเทศมากกว่า มักประสบกับความเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงกว่า
อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่ส่งผลต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐเกิดความผันผวน ในทำนองเดียวกัน นโยบายของธนาคารกลางในประเทศต่างๆ เช่น บราซิลหรือตุรกี อาจทำให้คู่สกุลเงิน เช่น USD/BRL หรือ USD/TRY เกิดความผันผวนอย่างมาก
เหตุการณ์ทางการเมืองยังส่งผลต่อความผันผวนอีกด้วย การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล หรือแม้แต่เรื่องอื้อฉาวทางการเมืองอาจทำให้ค่าเงินผันผวนอย่างรุนแรง ตัวอย่างเช่น มูลค่าของเงินลีราตุรกี (TRY) ได้รับอิทธิพลจากความไม่มั่นคงทางการเมืองในตุรกีมาโดยตลอด ส่งผลให้คู่เงิน USD/TRY มีความผันผวนสูง
ในทำนองเดียวกัน ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อที่สูง การเติบโตของ GDP ที่อ่อนแอ หรือการหยุดชะงักทางการค้า สามารถสร้างเงื่อนไขตลาดที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ค่าเงินผันผวนอย่างมาก ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่พึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์สูง เช่น นิวซีแลนด์หรือแอฟริกาใต้ ค่าเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ในทรัพยากรของโลก
10 คู่สกุลเงินที่มีความผันผวนสูงสุด
ตอนนี้เรามาดูคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนมากที่สุดกันอย่างใกล้ชิด คู่สกุลเงินเหล่านี้ขึ้นชื่อในเรื่องราคาที่ผันผวนอย่างมาก ซึ่งอาจสร้างทั้งความเสี่ยงและโอกาสให้กับเทรดเดอร์
USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ / ลีร่าตุรกี)
คู่สกุลเงิน USD/TRY ขึ้นชื่อว่ามีความผันผวนสูง โดยสกุลเงินลีราของตุรกีมีแนวโน้มที่จะผันผวนอย่างรุนแรงเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ความท้าทายทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อที่ผันผวน ดังนั้น ผู้ค้าจึงคาดหวังได้ว่าราคาคู่สกุลเงินนี้จะเคลื่อนไหวบ่อยครั้งและสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ข่าวหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของตุรกี
USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐฯ / แรนด์แอฟริกาใต้)
แรนด์ของแอฟริกาใต้เป็นอีกสกุลเงินหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความผันผวน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากการที่แอฟริกาใต้พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ คู่ USD/ZAR จึงอาจเกิดการแกว่งตัวอย่างรุนแรงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก โดยเฉพาะทองคำและแพลตตินัม นอกจากนี้ ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางการเมืองในแอฟริกาใต้ยังส่งผลต่อความผันผวนของคู่สกุลเงินนี้ด้วย
USD/BRL (ดอลลาร์สหรัฐ / เรอัลบราซิล)
ภาวะเศรษฐกิจและภูมิทัศน์ทางการเมืองของบราซิลทำให้คู่เงิน USD/BRL มีความผันผวนสูง เรอัลของบราซิลมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (โดยเฉพาะน้ำมันและถั่วเหลือง) และความผันผวนของความเชื่อมั่นของนักลงทุน เรื่องอื้อฉาวทางการเมือง เช่น เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองของบราซิล อาจทำให้ความผันผวนของคู่เงินนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษ / เยนญี่ปุ่น)
คู่สกุลเงิน GBP/JPY มักมีลักษณะราคาที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเนื่องจากความแตกต่างในสภาพเศรษฐกิจระหว่างสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น ปอนด์อังกฤษอาจได้รับอิทธิพลจากรายงานเศรษฐกิจของประเทศ เช่น การเติบโตของ GDP และข้อมูลเงินเฟ้อ ในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากนโยบายการเงินของญี่ปุ่นและทัศนคติต่อความเสี่ยงระดับโลก ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้รวมกันทำให้เกิดความผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
GBP/AUD (ปอนด์อังกฤษ / ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
คู่ GBP/AUD ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของทั้งสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย รวมถึงความสัมพันธ์ทางการค้าโลกระหว่างทั้งสองประเทศ ดอลลาร์ออสเตรเลียยังอ่อนไหวต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่และเกษตรกรรม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงเมื่ออุปสงค์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไป
EUR/TRY (ยูโร / ลีราตุรกี)
คู่ EUR/TRY มีความผันผวนสูงเช่นเดียวกับคู่ USD/TRY เนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของตุรกี นอกจากนี้ เงินยูโรยังได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจอื่นๆ ในเขตยูโรโซน ทำให้มีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อมีข่าวสำคัญๆ เกิดขึ้นในภูมิภาค
USD/MXN (ดอลลาร์สหรัฐ / เปโซเม็กซิโก)
คู่สกุลเงิน USD/MXN มีแนวโน้มผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน เนื่องจากเปโซของเม็กซิโกเป็นสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ จึงมีแนวโน้มผันผวนได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหรือการเมือง
USD/INR (ดอลลาร์สหรัฐ / รูปีอินเดีย)
ค่าเงินรูปีอินเดีย (INR) มีแนวโน้มผันผวนเนื่องจากอินเดียต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและสินค้าอื่นๆ ซึ่งทำให้สกุลเงินนี้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดโลก ความไม่มั่นคงทางการเมือง อัตราเงินเฟ้อ และความไม่สมดุลทางการค้าในอินเดียอาจส่งผลต่อความผันผวนของคู่ USD/INR ได้เช่นกัน
NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์ / ดอลลาร์สหรัฐ)
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้รับผลกระทบอย่างมากจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรส่งออก เช่น ผลิตภัณฑ์นม ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเหล่านี้ในระดับโลกผันผวน ซึ่งอาจส่งผลให้คู่สกุลเงิน NZD/USD ผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
AUD/JPY (ดอลลาร์ออสเตรเลีย / เยนญี่ปุ่น)
คู่สกุลเงิน AUD/JPY มักเผชิญกับความผันผวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติต่อความเสี่ยงทั่วโลก ดอลลาร์ออสเตรเลียซึ่งได้รับอิทธิพลจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อาจผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ทั่วโลก ในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยซึ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของความเสี่ยงในตลาดโลก
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ