ช่วงเวลาเทรด forex ที่ดีที่สุด

ตลาด forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงคืนวันศุกร์ตามเวลาสากล (GMT) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้อย่างยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดจะเปิดตลอดเวลา แต่ช่วงเวลาก็มีสภาพคล่องและโอกาสในการทำกำไรที่แตกต่างกัน บางช่วงมีปริมาณการซื้อขายสูง อาจทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากกว่าช่วงอื่น ๆ การเข้าใจเวลาเทรด forex โดยเฉพาะ 4 ช่วงหลัก ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก จะช่วยให้คุณเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น

แต่ละช่วงเวลาเทรด forex สะท้อนถึงตลาดในภูมิภาคที่แตกต่างกันและมีช่วงเวลาเปิดทำการที่ไม่เหมือนกัน โดยช่วงโตเกียวเป็นศูนย์กลางของตลาดเอเชีย ลอนดอนเป็นตลาดหลักของยุโรป และนิวยอร์กเป็นตลาดสำคัญของอเมริกาเหนือ ในช่วงเวลาการเทรดเหล่านี้ ธนาคาร บริษัทธุรกิจ และนักลงทุนในแต่ละภูมิภาคจะมีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นและสภาพคล่องของตลาดสูงขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ราคามักมีการเคลื่อนไหวมากที่สุด และเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากความผันผวนของตลาดได้มากขึ้น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด forex

แม้ว่าตลาด forex จะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกช่วงเวลาจะเหมาะสมต่อการซื้อขายในระดับเดียวกัน โดยทั่วไป ช่วงเวลาที่ตลาดของแต่ละภูมิภาคเปิดทำการทับซ้อนกันมักเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและมีความเคลื่อนไหวของตลาดมากขึ้น

หนึ่งในช่วงเวลาที่นักลงทุนนิยมมากที่สุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุด โดยลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของยุโรป ขณะที่นิวยอร์กเป็นตลาดซื้อขาย forex ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ เมื่อตลาดทั้งสองเปิดพร้อมกัน ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้นสำหรับนักลงทุน

นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่มีการประกาศรายงานเศรษฐกิจยังสามารถทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงได้ รายงานสำคัญ เช่น ตัวเลข GDP อัตราเงินเฟ้อ หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย มักส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจึงมักจับตาดูช่วงเวลานี้เป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นโอกาสในการซื้อขายหรือปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น

สภาพคล่องและโอกาสในการเทรดจะสูงที่สุดในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหลักสองแห่งเปิดพร้อมกัน ช่วงนี้ราคามักจะขยับอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดมักจะเป็นช่วงที่ตลาดพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวเหล่านี้

ช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมในการเทรด forex

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาในตลาดจะเหมาะสำหรับการเทรด บางช่วงเวลาตลาดจะมีความเคลื่อนไหวน้อยและยากต่อการติดตาม โดยทั่วไปแล้ว ช่วงเวลาช่วงเย็นวันศุกร์และเช้าวันจันทร์มักจะถือว่าเป็นช่วงที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากสภาพคล่องมักจะต่ำและการเคลื่อนไหวของราคามักจะไม่คงที่

ช่วงบ่ายวันศุกร์ โดยเฉพาะหลัง 16:00 น. ตามเวลา GMT มักเป็นช่วงที่ตลาดเงียบลง นักลงทุนส่วนใหญ่จะปิดตำแหน่งก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้การซื้อขายในตลาดลดลง ส่งผลให้สเปรดขยายกว้างและราคาผันผวนมากขึ้น ช่วงเวลานี้อาจทำให้การเทรดคาดการณ์ได้ยากมากกว่าเดิม เพราะการเคลื่อนไหวของราคามักไม่เป็นไปตามที่คาด และความเสี่ยงในการขาดทุนจะสูงขึ้นจากการขาดสภาพคล่องในตลาด

ช่วงเช้าตรู่ของวันจันทร์ ตั้งแต่ประมาณ 22:00 น. ถึง 05:00 น. ตามเวลา GMT ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน เนื่องจากตลาดมักจะค่อนข้างเงียบในช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์ เพราะนักลงทุนยังรอข้อมูลหรือข่าวสารใหม่ ๆ ที่จะกำหนดทิศทางของตลาดสำหรับสัปดาห์นั้น การขาดเหตุการณ์เศรษฐกิจหรือข่าวสำคัญทำให้ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ การเคลื่อนไหวของราคาจึงมีความผันผวนและสเปรดกว้างขึ้น

ในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องต่ำ การเคลื่อนไหวของราคาสามารถคาดเดาได้ยาก และสเปรดอาจกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การเข้าออกจากตำแหน่งทำได้ยากขึ้น พร้อมทั้งอาจต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือเผชิญกับการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่คาดคิด

การปรับกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา

การเข้าใจว่าช่วงเวลาไหนในตลาดเหมาะกับกลยุทธ์ประเภทใดเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น ช่วงการเทรดของโตเกียวที่มักจะค่อนข้างเงียบสงบเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบการเทรดแบบมีระเบียบและเป็นระบบ ช่วงนี้มักจะมีความผันผวนต่ำ ทำให้เป็นช่วงที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวราคาที่รวดเร็วและไม่แน่นอน นักลงทุนในช่วงเวลานี้มักเลือกกลยุทธ์การเทรดในกรอบราคาหรือการเทรดแบบสวิง ซึ่งจะใช้การเคลื่อนไหวของราคาภายในขอบเขตที่กำหนดในการทำกำไร

ช่วงเวลาที่ตลาดเอเชียทับซ้อนกันระหว่างโตเกียวและซิดนีย์มักจะมีสภาวะการเทรดที่ค่อนข้างมั่นคง ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์โมเมนตัม (momentum-based strategies) กลยุทธ์เหล่านี้จะมุ่งเน้นที่การจับการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ช่วงเวลานี้มักให้การเคลื่อนไหวของราคาที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาขนาดเล็ก

ส่วนช่วงเวลาที่ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ทับซ้อนกันเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยการรวมตัวของการเทรดที่มีสภาพคล่องสูงจากลอนดอนและการเคลื่อนไหวที่คึกคักของตลาดนิวยอร์ก ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในคู่สกุลเงินอย่าง EUR/USD ช่วงเวลานี้เหมาะกับการใช้กลยุทธ์ตามแนวโน้ม (trend-following strategies) เพราะการเคลื่อนไหวของตลาดที่มีมากขึ้นมักทำให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจน การผันผวนในช่วงเวลานี้ยังเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย 

ยังมีอีกสิ่งที่ควรพิจารณาคือการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งมักจะส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลเหล่านั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การวางแผนการเทรดให้ตรงกับช่วงเวลาของการประกาศข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ หากคุณเทรดคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่กำลังจะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น GDP ของสหราชอาณาจักร หรือ Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯ การประกาศเหล่านี้อาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งสามารถใช้โอกาสนี้ทำกำไรระยะสั้นได้

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ