สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นการซื้อขายที่สามารถทำได้ทั้งการซื้อและขายชอร์ต โดยใช้เลเวอเรจและมีค่าธรรมเนียมสูง รองรับการเทรดแบบ T+0 ที่ซื้อขายได้ตลอดเวลา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือเรียกว่า “ฟิวเจอร์ส” เป็นวิธีการเทรดขั้นสูงที่พัฒนามาจากการซื้อขายสินค้าจริงและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในตลาด โดยใช้การซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และดำเนินการในรูปแบบการแข่งขันอย่างเสรี
ผู้เข้าร่วมในการซื้อขายฟิวเจอร์สประกอบด้วยนักลงทุน ตลาด โบรกเกอร์ และสำนักหักบัญชี นักลงทุนสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ผลิตหรือผู้บริโภคสินค้าจริง เช่น สินค้าเกษตร พลังงาน และโลหะ ซึ่งใช้ตลาดฟิวเจอร์สเพื่อกำหนดราคาล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยง และกลุ่มนักเก็งกำไรที่มุ่งหวังทำกำไรจากการซื้อขายฟิวเจอร์สผ่านการคาดการณ์แนวโน้มของตลาด
สินทรัพย์ที่เป็นพื้นฐานของฟิวเจอร์สสามารถรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ สินทรัพย์ทางการเงิน ดัชนีหุ้น เป็นต้น ตัวอย่างของสัญญาฟิวเจอร์สที่พบบ่อย ได้แก่ น้ำมันดิบ ทองคำ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และดัชนีหุ้น ในส่วนของหน่วยการซื้อขาย วันที่ส่งมอบ และวิธีการส่งมอบของสัญญาฟิวเจอร์สจะถูกระบุอย่างชัดเจนในสัญญา
ฟิวเจอร์สเป็นการซื้อขายแบบสองทิศทาง โดยสามารถทำการซื้อหรือขายชอร์ตได้ อีกทั้งยังมีการใช้เครื่องมือเลเวอเรจที่ช่วยขยายความเสี่ยงและผลตอบแทน นอกจากนี้ฟิวเจอร์สยังรองรับระบบ T+0 ซึ่งทำให้สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา
ราคาของสัญญาฟิวเจอร์สที่ทำการซื้อขายในปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งความแตกต่างของราคานี้สามารถสร้างโอกาสทำกำไรได้ ฟิวเจอร์สมีความแตกต่างจากการเทรดหุ้นในหลายประเด็นสำคัญตัวอย่างดังต่อไปนี้ :
1. ฟิวเจอร์สสามารถซื้อขายได้ทั้งสองทิศทาง
ตลาดหุ้น A-Share อนุญาตให้ซื้อขายได้เพียงทิศทางเดียว โดยนักลงทุนต้องซื้อหุ้นในราคาต่ำและขายในราคาสูงเพื่อทำกำไร แต่ในตลาดฟิวเจอร์สนักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งจากการทำ Long และ Short เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ ความสามารถในการเทรดสองทิศทางนี้อาจเพิ่มความซับซ้อนในการลงทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป
2. ฟิวเจอร์สใช้การซื้อขายแบบเลเวอเรจ
การซื้อขายด้วยเลเวอเรจหมายถึงการใช้เงินลงทุนส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมมูลค่าของสินทรัพย์ทั้งหมด ในตลาดฟิวเจอร์สนักลงทุนสามารถจ่ายเพียงแค่เงินมาร์จินบางส่วนเพื่อเข้าถึงการเทรดฟิวเจอร์สทั้งหมด ซึ่งจะขยายทั้งความเสี่ยงและผลตอบแทนหลายเท่า หากทำนายทิศทางราคาถูกต้องจะได้รับผลกำไรสูงขึ้น แต่หากทำนายผิด ความสูญเสียก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
3. ค่าธรรมเนียมการซื้อขายฟิวเจอร์สสูง
ค่าธรรมเนียมการเทรดของตลาดฟิวเจอร์สในตลาดฟิวเจอร์สของจีนทั้ง 3 แห่งอยู่ที่ประมาณ 2~3 ต่อ 10,000 แม้ว่าค่าธรรมเนียมจะดูไม่สูงนัก แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากการใช้การเทรดแบบเลเวอเรจ ปริมาณการซื้อขายในจำนวนมากทำให้ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นสูงตามไปด้วย
4. การซื้อขายฟิวเจอร์สแบบ T+0
การเทรดฟิวเจอร์สแบบ T+0 หมายถึงการซื้อขายที่สามารถทำได้ตลอดเวลาและปิดสถานะได้ทันที การใช้กลไกการเทรดแบบ T+0 มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีคือสามารถขายและรับกำไรได้ทันทีหลังจากทำกำไร ข้อเสียคืออาจทำให้เกิดการซื้อขายบ่อยครั้งซึ่งส่งผลให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูง
การซื้อขายฟิวเจอร์สจริง ๆ ถือเป็นการซื้อขายสัญญา ซึ่งฟิวเจอร์สสามารถทำการซื้อขายได้สองทาง ใช้กลยุทธ์เลเวอเรจเพื่อขยายผลกำไร แต่ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บค่อนข้างสูง และการเทรดแบบ T+0 สามารถซื้อขายได้ทุกเวลาและปิดสถานะได้ทันที
ข้อสงวนสิทธิ์: วัสดุนี้มีไว้สำหรับข้อมูลทั่วไปเท่านั้นไม่ใช่มีวัตถุประสงค์ (ไม่ควรถือว่าเป็น) การเงิน การลงทุน หรืออื่นๆคำแนะนำที่ควรพึ่ง ไม่มีความเห็นในเนื้อหาข้อเสนอที่ประกอบขึ้นเป็น EBC หรือผู้เขียนการลงทุนในหลักทรัพย์การซื้อขายหรือกลยุทธ์การลงทุนเหมาะสำหรับคนที่เป็นรูปธรรม