การเทรดมาร์จิ้นช่วยให้นักลงทุนยืมเงินจำนวนมากเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงสูง พร้อมทั้งเพิ่มสภาพคล่องและขยายโอกาสการลงทุนในตลาด
การเทรดมาร์จิ้นเป็นวิธีการซื้อขายทางการเงินที่เรียกอีกอย่างว่าสัญญามาร์จิ้นหรือการเทรดด้วยเลเวอเรจ ในการเทรดประเภทนี้ นักลงทุนสามารถทำการเทรดที่มีเลเวอเรจสูงโดยการชำระมาร์จิ้นในสัดส่วนที่กำหนด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้น การเทรดมาร์จิ้นมักจะเกิดขึ้นในตลาดการเงิน เช่น ตลาดหุ้น ตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดฟิวเจอร์ส
ในการเทรดมาร์จิ้น นักลงทุนเพียงแค่ชำระมูลค่าบางส่วนของสินทรัพย์ที่ทำการซื้อขาย (เช่น หุ้น ฟอเร็กซ์ หรือสินค้าโภคภัณฑ์) เป็นมาร์จิ้น โดยไม่จำเป็นต้องชำระมูลค่าทั้งหมด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมการซื้อขายที่มีมูลค่ามากขึ้นด้วยการลงทุนที่น้อยลง เพิ่มศักยภาพในการทำกำไร การใช้เลเวอเรจในการเทรดมาร์จิ้นมักจะถูกกำหนดโดยโบรกเกอร์หรือตลาด และจะขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่ทำการซื้อขาย
คุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของการเทรดมาร์จิ้นคือผลกระทบของเลเวอเรจ โดยผ่านเลเวอเรจนักลงทุนสามารถยืมเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อทำการซื้อขาย ทำให้สามารถขยายขนาดการลงทุนได้ ยกตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนต้องการซื้อหุ้นมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ เขาสามารถชำระเพียง 10% ของมูลค่าดังกล่าวเป็นมาร์จิ้นหรือ 100,000 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าเขาสามารถใช้เลเวอเรจ 10 เท่าในการทำการเทรด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นด้วยการลงทุนที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม การเทรดแบบเลเวอเรจก็มีความเสี่ยงสูง เพราะการขาดทุนของนักลงทุนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การเทรดมาร์จิ้นยังมีระบบการปิดสถานะ ซึ่งเมื่อยอดเงินในบัญชีของนักลงทุนไม่เพียงพอที่จะรักษาระดับมาร์จิ้นของสถานะปัจจุบัน โบรกเกอร์หรือตลาดจะออกการแจ้งเตือนให้ปิดสถานะ หรือเพิ่มมาร์จิ้นเพื่อรักษาสถานะบางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อช่วยลดความเสี่ยง ทั้งนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนและโบรกเกอร์ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพของตลาด
การเทรดมาร์จิ้นยังช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดทุน โดยผ่านการเทรดด้วยเลเวอเรจ นักลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้อย่างยืดหยุ่น ส่งผลให้สภาพคล่องของตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเทรดมาร์จิ้นยังเปิดโอกาสในการลงทุนมากขึ้น ไม่เพียงแต่จำกัดแค่การซื้อขายด้วยเงินสด แต่ยังสามารถยืมเงินเพื่อใช้กลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายได้อีกด้วย
พูดง่าย ๆ การเทรดมาร์จิ้นก็คือการเทรดที่มีเลเวอเรจ โดยมาร์จิ้น 10% สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเลเวอเรจ 10 เท่าในระบบการเทรดเลเวอเรจนี้ ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย นักลงทุนสามารถขยายมูลค่าการลงทุนได้มากขึ้น และใช้ประโยชน์จากเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
การลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นที่ต้องใช้ระบบการเทรดมาร์จิ้นคือกการซื้อขายล่วงหน้า ส่วนผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่น ๆ เช่น หุ้น กองทุน และผลิตภัณฑ์การเงินต่าง ๆ จะเป็นการซื้อขายเต็มจำนวน ไม่มีการใช้ระบบการเทรดมาร์จิ้น
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาในบทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ