การเทรด Forex ต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากการถูกบังคับปิดบัญชี โดยควรตั้งจุด Stop Loss ควบคุมขนาดตำแหน่ งวางแผนการเทรด และติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
ในฐานะนักเทรด Forex สิ่งที่เราหวังมากที่สุดคือการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ แต่ในการเทรด Forex เรามักจะกังวลหรือแม้แต่เผชิญกับสถานการณ์ที่อาจถูกบังคับปิดบัญชี ดังนั้นการควบคุมความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำกำไรมีความเสถียร ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุของการถูกบังคับปิดบัญชีในForexและวิธีการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันการถูกบังคับปิดบัญชีในระหว่างการเก็งกำไร
1. สาเหตุของการถูกบังคับปิดบัญชีในการเทรด Forex
ในกระบวนการเทรด Forex นักลงทุนมักเผชิญกับหลายปัจจัยที่อาจนำไปสู่การถูกบังคับปิดบัญชี แม้ว่าบางปัจจัยอาจไม่ได้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการถูกบังคับปิดบัญชีมักมาจากพฤติกรรมการเทรดของนักลงทุน พฤติกรรมการเทรดถือเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการเทรด หากนักเทรดมีพฤติกรรมที่ถูกต้อง จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีและมีเสถียรภาพ แต่หากมีพฤติกรรมที่ผิดพลาด ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
สาเหตุที่หนึ่ง : การประมาทโดยไม่ตั้งจุด Stop Loss
สถานการณ์นี้มักเกิดขึ้นกับนักลงทุนมือใหม่ นักเทรดที่มีประสบการณ์มักเข้าใจถึงความสำคัญของการตั้งจุด Stop Loss สาเหตุหลักมาจากปัญหาด้านจิตวิทยาการเทรดและพฤติกรรมการเทรด จิตวิทยาการเทรดมักแสดงออกในรูปแบบของความหวังว่าจะโชคดี โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนไปในทิศทางที่ตัวเองคาดการณ์หลังจากเปิดตำแหน่ง ส่วนพฤติกรรมการเทรดเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน การตั้งจุด Stop Loss ใน Forex จึงถือเป็นการปกป้องตัวเองจากการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
สาเหตุที่สอง : การเปิดตำแหน่งที่ใหญ่และการเทรดบ่อยเกินไป
นักเทรดบางคนที่หวังผลกำไรเร็วและต้องการรวยภายในข้ามคืน มักใช้เลเวอเรจสูงและเปิดตำแหน่งใหญ่ ซึ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากและความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงลดลง นี่คือสาเหตุหลักที่อาจนำไปสู่การถูกบังคับปิดบัญชี วิธีหลีกเลี่ยงคือการเปิดตำแหน่งขนาดเล็กและเทรดอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มั่นคง การทำกำไรจากการเทรดควรมุ่งเน้นการใช้ดอกเบี้ยทบต้นแทนที่จะหวังผลกำไรอย่างรวดเร็ว
นักเทรดอีกกลุ่มหนึ่งที่เปิดตำแหน่งขนาดเล็กและเทรดอย่างระมัดระวัง แต่กลับถูกบังคับปิดบัญชีจากการเข้าออกตลาดบ่อยเกินไป นักเทรดกลุ่มนี้มักขาดแผนการเทรดที่ชัดเจน และตัดสินใจเทรดตามอารมณ์ โดยไม่พิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดทุนสะสมจนค่อย ๆ นำไปสู่การถูกบังคับปิดบัญชี การเทรด Forex ไม่ควรให้ความรู้สึกหรืออารมณ์มามีอิทธิพล ควรทำตามทิศทางของตลาดและเทรดตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น
สาเหตุที่สาม : การเทรดสวนทางกับแนวโน้มและการขาดการสรุปประสบการณ์
การเทรดตามแนวโน้มหมายถึงการเข้าเทรดตามทิศทางของตลาด โดยไม่เพียงแค่ติดตามราคาที่เคลื่อนไหว แต่ต้องเข้าใจถึงแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังราคา การคาดการณ์และการทำความเข้าใจถึงปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเทรดตามแนวโน้มที่ถูกต้อง การเทรดที่มีประสิทธิภาพควรยึดตามทิศทางตลาดโดยรวม ไม่ใช่เพียงแค่ตามการเคลื่อนไหวของราคาแบบไม่มีเงื่อนไข
หากตลาดอยู่ในช่วงทิศทางที่ดีและทำกำไรได้การเพิ่มตำแหน่งในขนาดเล็ก (0.5ล็อต) อย่างระมัดระวังอาจทำได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ตำแหน่งเกิน 2 ล็อต โดยเฉพาะหากตำแหน่งขาดทุน การเพิ่มตำแหน่งสวนทางกับทิศทางตลาดถือเป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง
นักลงทุนหลายคนมักไม่สามารถตัดสินใจได้ทันทีเมื่อพบว่าการเทรดผิดทาง และมักไม่สรุปบทเรียนจากความผิดพลาดเหล่านั้นส่งผลให้พวกเขายังคงทำผิดซ้ำ ๆ ในครั้งถัดไป
2. วิธีการหลีกเลี่ยงการถูกบังคับปิดบัญชีในการเทรด Forex
สรุปจากประเด็นข้างต้น หากเราต้องการทำกำไรจากการเทรดและมีผลกำไรที่มั่นคงจะต้องใส่ใจในประเด็นต่อไปนี้
1. การตั้งจุด stop loss อย่างเหมาะสม
ในการเทรดควรกำหนดจุด stop loss ที่เหมาะสมก่อนการเทรด จุด stop loss คือเงื่อนไขที่คุณตั้งไว้ล่วงหน้า เมื่อราคาตลาดถึงจุดนั้น ระบบจะทำการปิดตำแหน่งอัตโนมัติ การตั้งจุด stop loss อย่างเหมาะสม ช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการถูกบังคับปิดบัญชี
2. ควบคุมขนาดตำแหน่ง
ในการเทรด Forex ควรควบคุมขนาดตำแหน่งให้เหมาะสม ไม่ควรใช้เลเวอเรจมากเกินไป เพราะการใช้เลเวอเรจสูงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเทรด หากตลาดมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่การถูกบังคับปิดบัญชี ควรเลือกขนาดตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงและเงินทุนของตัวเอง
3. การวางแผนการเทรดที่มีความรัดกุม
การมีแผนการเทรดที่รัดกุมก่อนการลงทุนใน Forex ถือเป็นปัจจัยสำคัญ แผนการนี้ควรรวมถึงการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด การกำหนดจุดเข้าตลาด การตั้งจุด Stop Loss และการกำหนดเป้าหมายกำไร การปฏิบัติตามแผนการอย่างเคร่งครัดโดยไม่เพิ่มตำแหน่งหรือปรับจุด Stop Loss โดยไม่จำเป็นจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกบังคับปิดบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. บริหารความเสี่ยงให้ดี
ควรมีการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบเสมอ หลีกเลี่ยงการลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว ควรแบ่งเงินลงทุนให้กระจายเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตำแหน่งเดียว นอกจากนี้ ควรควบคุมความถี่ในการเทรดและขนาดของการลงทุนอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงการเทรดที่บ่อยเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุน
5. การติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด
การเข้าใจและจับตามองการวิเคราะห์ทั้งด้านพื้นฐานและเทคนิคของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ควรให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อปรับกลยุทธ์การเทรดให้ทันเวลา ควรกำหนดจุด Stop Loss และจุดทำกำไรอย่างเหมาะสม อย่าหลงใหลในกำไรหรือทนกับการขาดทุน ควรหลีกเลี่ยงการตัดสินใจเทรดที่เกิดจากอารมณ์
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาในบทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ