การเทรดหุ้นให้ประสบความสำเร็จนั้น นักเทรดไม่ควรตั้งเป้าหมายไปที่กำไรเพียงอย่างเดียว เพราะการลงทุนนั้นไม่มีความแน่นอน จึงควรมีการวางแผนด้านการเงินไว้อย่างรอบด้านด้วย
การเทรดหุ้นหากมองผิวเผินอาจจะมีความคล้ายกับการเสี่ยงโชค แต่ที่จริงนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง เพราะการเทรดไม่ใช่การเดิมพัน แต่เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ใช้ความรู้และกำลังทรัพย์ของตัวนักเทรดเอง และทุกครั้งที่มีการซื้อขายจะมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะได้กำไรหรือขาดทุนกลับมา ดังนั้นนักเทรดจึงไม่ควรประมาท ต้องมีความพร้อมในการตั้งรับความเสี่ยงไปพร้อมกับการบริหารความเสี่ยงตามแนวคิดของ Money Management ที่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการบริหารเงินลงทุนอย่างเป็นระบบ เพื่อลดผลกระทบต่อความเสียหายของพอร์ตลงทุนของนักเทรดให้น้อยที่สุด
การเทรดหุ้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป แต่หากยังเป็นนักเทรดที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก จะเทรดให้ได้กำไรแบบทบต้นทบดอกทุกครั้งคงไม่สามารถทำได้ทุกคน เพราะความผันผวนของตลาดมีอยู่ตลอดเวลา นักเทรดบางท่านอาจจะมีการตัดสินใจเทรดผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากเทรดแล้วขาดทุนบ่อยจนไม่เหลือเงินทุน นั่นเป็นเรื่องที่ผิดปกติเกินไป และเพื่อป้องกันไม่ให้นักเทรดล้างพอร์ตตัวเองเร็วเกินไป ลองมาวางแผนบริหารเงินลงทุนเพื่อให้เทรดหุ้นอย่างถูกต้อง และเหมาะสมกัน
1. วางแผนเงินลงทุนให้เป็นสัดส่วน
นักเทรดควรจำกัดเงินลงทุนเทรดให้มีความเหมาะสมกับศักยภาพของตัวเอง โดยที่ไม่ให้กระทบกับเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากมีทุนน้อยก็วางแผนตามขนาดพอร์ตการลงทุน และควรคำนึงถึงการขาดทุนด้วยทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เทรดแล้วจะได้กำไรทุกครั้ง แต่ควรวางแผนแบ่งไม้เทรดเป็นรอบ ๆ ตามจำนวนเงินที่มี และมีจุด Stop Loss ที่จะหยุดเทรดในวันนั้นทันที เพื่อให้มีเงินเหลือเทรดในวันต่อไป และไม่ควรปล่อยให้ขาดทุนเกิน 10% ของการเทรดแต่ละครั้ง
2. มองเห็นความเสี่ยงอยู่เสมอ
การมุ่งมั่นทำสถิติการเทรดบ่อยเกินไปโดยไม่คาดการณ์ถึงความเสี่ยง ไม่ใช่เป็นการเทรดที่ดี อย่างน้อยควรคิดล่วงหน้าถึงความเสี่ยงที่พอเป็นไปได้ว่า หากคาดการณ์ผิดพลาด เทรดแล้วขาดทุนผลจะเป็นอย่างไร จะเหลือทุนให้ต่อยอดได้อีกกี่ไม้ เพื่อที่จะกำหนดความเสี่ยงที่พอจะรับได้ และพร้อมแก้มือได้ทันทุกสถานการณ์
3. ไม่ประมาทเทรดเกินตัว
แม้ว่าในขณะนั้นจะมองเห็นช่องทางทำกำไรจากหุ้นที่ถือครองอยู่ และคาดหวังกำไรก้อนใหญ่ แต่ด้วยเงินทุนที่จำกัด การจะขยายเงินลงทุนโดยไม่ใช้เงินเย็น อาจมีความเสี่ยงมากเกินไป และอาจทำให้ขาดทุนจนล้มเหลวได้ ดังนั้นควรมีการลงทุนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่เทรดไปตามอารมณ์จนลืมนึกถึงความเคลื่อนไหวของตลาดที่อาจเกิดขึ้นฉับพลัน
4. ใช้จุดตัดขาดทุนเสมอ
คุณควรใช้เครื่องมือในการเทรดให้เป็นประโยชน์ อย่างฟังก์ชัน Stop Loss หรือจุดตัดขาดทุน จะเป็นตัวช่วยที่จะไม่ทำให้กำไรลดลง หรือขาดทุนไปมากกว่าที่ควรจะเป็น และนักเทรดจะเจ็บน้อยที่สุด ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่นักเทรดสามารถกำหนดเปอร์เซ็นต์ได้เอง
5. มองการณ์ไกล วางแผนระยะยาว
แม้ว่านักเทรดบางท่านอาจตั้งใจลงทุนระยะสั้น แต่ก็ควรมองการลงทุนแบบมุมกว้างยาวไปถึงอนาคต ในเรื่องของการบริหารจัดการการเงินกับผลกำไรที่จะได้ว่า เมื่อได้กำไรแล้วจะบริหารต่อยอดอย่างไรให้มีเงินทุนเหลืออยู่ เพื่อซับพอร์ตการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องหาเงินมาลงทุนเพิ่มหากมีการขาดทุน
ข้อดีของการเทรดที่มีการบริหารจัดการเงินทุน จะช่วยให้นักเทรดสามารถรักษาเงินทุนของตัวเองได้ และยังสามารถหลีกเลี่ยงการขาดทุนแบบล้างพอร์ต โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เพิ่งลงสนามจริง หากมีการวางแผนการเงินที่ดีแล้ว แม้จะเกิดความสูญเสียไปบ้าง แต่ก็จะเกิดน้อยมาก และยังสามารถพลิกสถานการณ์ให้กลับมาเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างกำไรในไม้ต่อไปได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังช่วยให้นักเทรดบรรลุเป้าหมายการลงทุน และทำให้พอร์ตการลงทุนเติบโตขึ้นในระยะยาว
การเทรดหุ้นเราไม่สามารถคาดการณ์ตลาดได้แม่นยำ 100% ก็จริง แต่หากมีการวางแผน และบริหารเงินทุนก่อนการเทรดอย่างชาญฉลาดด้วย Money Management แล้ว ก็จะทำให้รู้จังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม และสามารถเทรดต่อเนื่องในระยะยาวด้วยเงินเย็นได้ และอย่าลืมเรื่องสำคัญ “อย่ากู้เงินมาเทรดโดยเด็ดขาด”