Imbalance Forex คืออะไร? พร้อมเทคนิคเทรด

ในการเทรดฟอเร็กซ์ ราคามักไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างราบรื่นและสมดุลเสมอไป บางครั้งตลาดเกิดความไม่สมดุล ซึ่งเป็นช่วงที่แรงซื้อหรือแรงขายมีอิทธิพลเหนือกว่า ส่งผลให้เกิด “คำสั่งที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม”

ซึ่งความไม่สมดุลนี้เราเรียกว่า Imbalance Forex คือเกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงโดยมีการปรับกลับเพียงเล็กน้อย สร้างเป็นโซนที่เทรดเดอร์สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงสำหรับการเทรดในอนาคต หากคุณเคยเห็นกราฟแท่งเทียนที่ราคาพุ่งขึ้นในแนวดิ่งหรือร่วงลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหยุดพัก แสดงว่าคุณได้พบกับความไม่สมดุลแล้ว

บทความนี้ จะอธิบายความหมายของ Imbalance Forex คืออะไร? พร้อมยกตัวอย่าง และแนะนำกลยุทธ์การเทรดเพื่อใช้ประโยชน์จากมันอย่างมีประสิทธิภาพ

Imbalance Forex คืออะไร?

Imbalance ในตลาด Forex เกิดขึ้นเมื่อมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างคำสั่งซื้อและการขาย

• หากผู้ซื้อมีน้ำหนักมากกว่าผู้ขายอย่างมาก ราคาจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความไม่สมดุลในขาขึ้น

• หากผู้ขายมีอำนาจเหนือผู้ซื้อ ราคาจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลในทางลบ

การเคลื่อนไหวเหล่านี้มักเชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อของสถาบันขนาดใหญ่ซึ่งล้นสภาพคล่องที่มีอยู่และทิ้ง "ช่องว่าง" ไว้ในสมุดคำสั่งซื้อ

ผู้ค้าปลีกที่สามารถระบุโซนเหล่านี้ได้จะสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาอาจกลับมาที่ใดในอนาคตเพื่อ "ปรับสมดุลใหม่"

ทำไม Imbalance Forex จึงเกิดขึ้น?

ปัจจัยหลายประการทำให้เกิดความไม่สมดุลในตลาดฟอเร็กซ์:

1. คำสั่งสถาบันขนาดใหญ่: ธนาคารหรือกองทุนทำคำสั่งซื้อ/ขายจำนวนมาก ทำให้ราคาขยับอย่างรุนแรง

2. เหตุการณ์ข่าวสำคัญ: เช่น ข้อมูล NFP, CPI หรือการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ก่อให้เกิดแรงดันราคาทันทีในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

3. ช่องว่างสภาพคล่อง: ในช่วงที่สภาพคล่องต่ำ คำสั่งขนาดปานกลางก็สามารถทำให้ราคาผันผวนอย่างมาก

4. การล่าจุด Stop-Loss: ผู้เล่นรายใหญ่ดันราคาเพื่อกวาดสภาพคล่อง ทำให้เกิดโซนความไม่สมดุลตามมา

ปัจจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างนั้นเกิดจากการดำเนินงานของสถาบันเป็นหลัก มากกว่าจะเกิดจากพฤติกรรมที่ขับเคลื่อนโดยการขายปลีก

วิธีระบุ Imbalance Forex บนกราฟแท่งเทียน

โดยปกติแล้วผู้ค้าจะมองหาโซนที่ไม่สมดุล ซึ่งจะปรากฏดังนี้:

• รูปแบบแท่งเทียน 3 แท่ง: แท่งเทียนยาวและแข็งแรงอยู่ระหว่างแท่งเทียนสั้นสองแท่ง

• Fair Value Gaps (FVGs): แนวคิดที่เป็นที่นิยมโดย ICT (Inner Circle Trader) คือบริเวณที่ราคาข้ามไปโดยไม่ได้มีการซื้อขายปริมาณมาก

• การเคลื่อนไหวแบบแรงฉับพลัน (Large Impulsive Moves): การเคลื่อนไหวที่รุนแรงและยาวต่อเนื่องโดยมีการดีดตัวกลับเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลย

ตัวอย่างเช่น บนกราฟแท่งเทียน หากคุณสังเกตเห็นแท่งเทียนขาขึ้นที่มีขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนโดยรอบอย่างมีนัยสำคัญ และราคาไม่ย้อนกลับเข้าสู่ตัวแท่งเทียน พื้นที่ดังกล่าวบ่งชี้ถึงความไม่สมดุล

ประเภทของ Imbalance Forex

1. Bullish Imbalance (ความไม่สมดุลขาขึ้น)

เกิดขึ้นเมื่อการซื้อแบบก้าวร้าวแซงหน้าการขาย มองว่าเป็นการเคลื่อนไหวขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการย่อตัว

2. Bearish Imbalance (ความไม่สมดุลขาลง)

เกิดขึ้นเมื่อมีแรงขายที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว

3. Liquidity Void (ช่องว่างสภาพคล่อง)

โซนที่ราคาเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ทำให้มีปริมาณการซื้อขายน้อยมาก

4. Fair Value Gap (FVG) (ช่องว่างมูลค่ายุติธรรม)

ช่องว่างระหว่างแท่งเทียนสามแท่งที่อยู่ติดกัน โดยที่แท่งเทียนตรงกลางไม่ทับไส้เทียนแท่งแรกและแท่งที่สาม

5. Order Block Imbalance (ความไม่สมดุลจากบล็อกคำสั่ง)

เชื่อมโยงกับบล็อกคำสั่งของสถาบัน โดยที่แท่งเทียนที่แข็งแกร่งหนึ่งแท่งแสดงถึงคำสั่งจำนวนมากที่ทำให้เกิดการแทนที่

วิธีการเทรด Imbalance ในตลาด Forex

เทรด Imbalance Forex คือการรอให้ราคากลับเข้าสู่โซนเหล่านั้น นี่คือแนวทางที่มีโครงสร้าง:

ขั้นตอนที่ 1: ระบุโซน Imbalance

มองหาแท่งเทียนแรง ๆ ที่ทิ้งช่องว่างหรือบริเวณ Fair Value และทำเครื่องหมายบนกราฟของคุณ

ขั้นตอนที่ 2: รอการย่อตัวกลับ (Retracement)

อย่าไล่ราคาตอนที่เกิด imbalance ขึ้นครั้งแรก รอให้ราคาย่อตัวกลับเข้ามาในโซนก่อน

ขั้นตอนที่ 3: เข้าซื้อขายตามทิศทางของการเคลื่อนไหวเดิม

เมื่อราคากลับมาที่โซน imbalance ให้หาสัญญาณยืนยัน เช่น รูปแบบแท่งเทียน, การเข้าออเดอร์ในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า หรือวิเคราะห์ Order Flow เพื่อเปิดออเดอร์ตามทิศทางของ imbalance

ขั้นตอนที่ 4: ตั้ง Stop Loss เหนือ/ใต้โซน

เพื่อจัดการความเสี่ยง ให้ตั้ง Stop Loss เล็กน้อยนอกบริเวณ imbalance

ขั้นตอนที่ 5: ตั้งเป้าหมายที่จุดสูง/ต่ำก่อนหน้า หรือระดับสภาพคล่องสำคัญ

ปิดออเดอร์ที่ระดับที่เป็นเหตุผล ซึ่งราคามีแนวโน้มจะกลับตัวอีกครั้ง

การจัดการความเสี่ยงในการเทรด Imbalance

การเทรด imbalance อาจให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

ความเสี่ยง :

• Imbalance ที่เป็น ปลอม และราคาย่อตัวกลับเต็มที่

• Slippage สูงในช่วงเหตุการณ์ตลาดผันผวน

• การเข้าออเดอร์ผิดพลาดเมื่อโซนไม่ถูกต้อง

เคล็ดลับการจัดการความเสี่ยง :

• อย่าเสี่ยงเกิน 1–2% ของเงินทุนต่อการเทรดแต่ละครั้ง

• ใช้ Stop Loss นอกโซน imbalance

• รอสัญญาณยืนยันก่อนเข้าออเดอร์

คำถามที่พบบ่อย

1. Imbalance ในการเทรด Forex หมายถึงอะไร?

Imbalance ในตลาดฟอเร็กซ์หมายถึงสถานการณ์ที่แรงซื้อหรือแรงขายมีอิทธิพลเหนือกว่าตลาด ทำให้ราคาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว

2. สามารถใช้การเทรด Imbalance ร่วมกับกลยุทธ์ฟอเร็กซ์อื่น ๆ ได้หรือไม่?

ได้ การเทรด imbalance มักถูกใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่น เช่น แนวรับ-แนวต้าน, Fibonacci retracement, และการเทรด order block เพื่อเพิ่มความแม่นยำและกรองสัญญาณปลอม

3. การเทรด Forex ด้วย Imbalance มีความเสี่ยงหรือไม่?

มี การเทรด imbalance อาจมีความเสี่ยงสูงหากจัดการไม่ดี เพื่อลดความเสี่ยงควรรอสัญญาณยืนยัน ใช้ stop loss และหลีกเลี่ยงการใช้ leverage สูงเกินไป

บทสรุป

สรุปแล้ว การเกิด Imbalance Forex คือสัญญาณชัดเจนของกิจกรรมสถาบัน โดยการระบุโซนเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถจับจังหวะกับเงินสถาบัน คาดการณ์การย้อนกลับของราคา และเข้าเทรดในจังหวะที่มีโอกาสทำกำไรสูงได้

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ