เคล็ดลับเทรด AUDUSD ช่วงเวลาที่ดีที่สุดและกลยุทธ์ทำกำไร

การเทรดคู่สกุลเงิน AUDUSD คือการแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่เงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ เนื่องจากความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งทั้งด้านการเมืองและด้านเศรษฐกิจของทั้งสองชาติ อีกทั้งเป็นสองชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้คู่เงิน AUDUSD กลายเป็นหนึ่งในคู่เงินหลักที่เทรดมากที่สุดทั่วโลก และมีความผันผวนและสภาพคล่องที่สูงในช่วงเวลาที่กำหนดในแต่ละวัน 

AUDUSD ยังเป็นคู่สกุลเงินที่ 6คู่สกุลเงินที่ซื้อขายมากที่สุดตามข้อมูลของ Investopedia และครองส่วนแบ่งการตลาด Forex 5.1% เมื่อปี 2023 ออสเตรเลียมี เศรษฐกิจใหญ่เป็น อันดับ 14 ในปี 2023 ตามข้อมูลของ Forbes และเป็นผู้ส่งออกถ่านหิน แร่เหล็ก และโลหะและแร่ธาตุอื่นๆ รายใหญ่ สถานะของออสเตรเลียในฐานะผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ และความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิดกับประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐเป็นคู่เงินที่แข็งแกร่ง 

นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งดึงดูดผู้ค้าแบบ Carry Trader ที่แสวงหากำไรจากอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันระหว่างประเทศ AUD ยังเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับ 5 ของโลก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 7% ของมูลค่าการซื้อขาย FX ทั่วโลกตามรายงาน Bank of International Settlement 

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด AUDUSD การวิเคราะห์ช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง และข้อดีของการเทรดคู่เงินนี้ 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด AUDUSD 

การเทรดคู่เงิน AUDUSD นั้นสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับโซนเวลาและตำแหน่งที่ตั้งของผู้เทรด) แต่จะมีช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเทรดมากที่สุด โดยการเลือกเวลาที่มีความผันผวนสูงจะทำให้ผู้เทรดสามารถใช้ประโยชน์จากสภาพคล่องที่สูงและสเปรดต่ำ ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น 

ช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงใน AUDUSD ตามเวลา GMT 

1. ช่วงกลางของการเทรดในเซสชันลอนดอน (12:00 PM - 4:00 PM GMT)

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ลอนดอนและนิวยอร์คมีการเทรดร่วมกัน ซึ่งทำให้เกิดการผสมผสานของตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ความผันผวนสูง และมักมีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญจากทั้งออสเตรเลียและสหรัฐฯ ในช่วงนี้ 

2. ช่วงเวลาของการทับซ้อนระหว่างเซสชันซิดนีย์และโตเกียว (1:00 AM - 3:00 AM GMT) 

ในช่วงนี้จะมีความผันผวนสูงในคู่เงิน AUDUSD เนื่องจากเป็นช่วงที่การเทรดในตลาดออสเตรเลียและญี่ปุ่นทับซ้อนกัน อีกทั้งยังมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจจากออสเตรเลียในช่วงนี้ ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนที่มากขึ้น 

3. ช่วงปิดของเซสชันนิวยอร์ค (6:00 PM - 9:00 PM GMT)  

เมื่อเซสชันนิวยอร์คใกล้ปิด ตลาดจะมีการประกาศข่าวเศรษฐกิจหรือข้อมูลทางการเงินที่ส่งผลกระทบต่อคู่เงิน USD ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนใน AUDUSD ในช่วงนี้ 

ช่วงเวลาที่มีความผันผวนต่ำ ความผันผวนของ AUDUSD ในวันจันทร์มักจะต่ำที่สุด เนื่องจากผู้เทรดต้องปรับตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ในวันพฤหัสบดีจะเป็นวันที่ความผันผวนสูงที่สุดของสัปดาห์ ซึ่งสำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่แล้ว ความผันผวนจะสูงสุดในวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม สำหรับ AUDUSD ความผันผวนจะสูงสุดในวันพฤหัสบดี และต่ำสุดในวันจันทร์ 

เทรด AUDUSD อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 

การเทรดคู่เงิน AUDUSD ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐฯ การตัดสินใจของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ AUD/USD โดยเฉพาะในสินค้าที่ออสเตรเลียเป็นผู้ส่งออกหลัก เช่น ถ่านหิน ทองแดง และเหล็ก 

1. ความสัมพันธ์กับสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) 

สกุลดอลลาร์ออสเตรเลียมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะโลหะและแร่ธาตุตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาแร่เหล็กและทองคำ เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อราคาคู่ AUDUSD ได้ 

2. แนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Trend Following) 

มองหาแนวโน้มของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และความสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ AUDUSDการติดตามแนวโน้มสามารถใช้กลยุทธ์ต่างๆ ได้โดยอิงตามความสัมพันธ์เหล่านี้ เช่น การติดตามแนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์-สกุลเงิน 

3. การพิจารณาข้อมูลจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) 

การตัดสินใจของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย แถลงการณ์ และการประเมินทางเศรษฐกิจช่วยให้ทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจออสเตรเลีย แนวโน้มในเชิงบวกอาจสนับสนุน AUD ในขณะที่แนวโน้มที่ระมัดระวังหรือเชิงลบอาจนำไปสู่การลดค่าเงิน RBA กำหนดเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและออกแนวทางนโยบายการเงินในวันอังคารแรกของทุกเดือน 

4. การเทรดแบบ Carry Trade ที่มีอัตราดอกเบี้ย 

 ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา อาจทำให้ผู้ซื้อขายเข้าร่วมการซื้อขายแบบ Carry Trade โดยการถือครองสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า (AUD) และถือครองสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า (USD) 

5. ติดตามตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ  

ตรวจสอบตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ เช่น ข้อมูลการจ้างงาน การเติบโตของ GDP และอัตราเงินเฟ้อจากทั้งออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาเป็นประจำ ตัวบ่งชี้เศรษฐกิจของออสเตรเลียสามารถพบได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานสถิติออสเตรเลีย 

การเทรดคู่เงิน AUDUSD มีข้อดีหลายประการที่ทำให้มันได้รับความนิยมในหมู่เทรดเดอร์ทั่วโลก ได้แก่ 

1. สภาพคล่องสูง   

เนื่องจาก AUDUSD เป็นหนึ่งในคู่เงินที่มีการเทรดมากที่สุดในโลก จึงมีสภาพคล่องที่สูง ทำให้การเทรดเป็นไปอย่างราบรื่น ลดการลื่นไหลของราคา และมีต้นทุนการเทรดที่ต่ำ 

2. สเปรดต่ำ

เนื่องจาก AUDUSD คือคู่เงินที่มีการเทรดอย่างกว้างขวาง สเปรดระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายจึงแคบกว่าคู่เงินที่ไม่ได้รับความนิยมเท่า เช่น คู่เงินอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยมีการเทรดมาก 

3. โอกาสในการทำกำไรจากอัตราดอกเบี้ย (Carry Trading) 

ด้วยความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐฯ ทำให้เกิดโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดที่เรียกว่า Carry Trade ซึ่งผู้เทรดจะยืมหรือขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ (USD) และซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง (AUD) 

4. ความหลากหลายของเซสชันการเทรด  

การเทรด AUDUSD สามารถทำได้ในหลายช่วงเวลา โดยมีการทับซ้อนของการเทรดในเซสชันต่าง ๆ เช่น เซสชันเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และความสะดวกของตนได้ 

ทั้งนี้ การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเทรด AUDUSD ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และเป้าหมายทางการเงินของเทรดเดอร์ โดยการเทรดในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร เนื่องจากมีสภาพคล่องที่สูงและค่าสเปรดที่แคบขึ้น แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การวางแผนการเทรดและการใช้กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเทรดคู่เงิน AUD/USD 

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ