กลยุทธ์การเทรด CFD ในสภาวะตลาดผันผวนสูง

2024-07-30
สรุป

ในโลกการลงทุน การเทรด CFD (Contract for Difference) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะเวลาสั้น อย่างไรก็ตาม การเทรด CFD ในสภาวะตลาดที่ผันผวนสูงนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในโลกของการลงทุน การเทรด CFD(Contract for Difference) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจได้ในระยะเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม การเทรด CFD ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงนั้นมีความท้าทายและมีความเสี่ยงสูงขึ้นไปอีก ความผันผวนของตลาดนี้จะหมายถึงความไม่แน่นอนที่สูง และมักเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็ว ส่งผลให้การคาดการณ์ราคาสินทรัพย์เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น นักลงทุนจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและวางแผนการเทรดอย่างละเอียด เพื่อรับมือกับความผันผวนนี้จนสามารถเก็บกำไรออกมาได้ตามเดิม

 

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการเทรด CFD ในช่วงที่สภาวะตลาดผันผวนสูง


1. ความผันผวนของราคา

ทันทีที่เกิดความผันผวนขึ้น ราคาของสินทรัพย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทันที อาจทำให้เกิดการขาดทุนอย่างรวดเร็วแบบตั้งตัวไม่ทัน โดยเฉพาะหากนักลงทุนไม่ได้กำหนดจุด Stop Loss เอาไว้ อาจเกิดการขาดทุนขึ้นทันทีในเวลาที่สั้นมาก จนไม่สามารถเปลี่ยนแผนหรือแก้ไขได้ทัน

2. การขาดสภาพคล่อง

ในสภาวะที่ตลาดมีผันผวนสูง สภาพคล่องในตลาดก็มักจะลดลงไปด้วย ซึ่งหมายความว่าจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายมีแนวโน้มที่จะน้อยลง เนื่องจากทุกคนต่างมีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะที่คาดเดาได้ยากนี้ การขาดสภาพคล่องจะทำให้นักลงทุนไม่สามารถปิดตำแหน่งการเทรดได้ตามราคาที่ต้องการ ส่งผลให้ความเสี่ยงในการขาดทุนเพิ่มสูงขึ้น

3. การตั้งค่าเลเวอเรจ (Leverage) สูง

แม้เลเวอเรจสามารถช่วยเพิ่มกำไรได้มาก แต่ในสภาวะตลาดผันผวนสูงก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้มากเช่นกัน การใช้เลเวอเรจสูงเกินไปในช่วงที่ตลาดผันผวน นักลงทุนจะต้องรับมือกับความผันผวนที่มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้การขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย

4. จิตวิทยาการเทรด

ความผันผวนของตลาดสามารถสร้างความกดดันทางจิตใจให้นักลงทุน โดยเฉพาะหากเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็ว นักลงทุนหลายคนจึงตัดสินใจผิดพลาดและไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้ เมื่อออกนอกแผนก็อาจนำไปสู่การขาดทุนและส่งผลให้สภาพจิตใจแย่ลง ดังนั้นหากเริ่มรู้สึกว่าใจเต้นแรง ควรหยุดการเทรดและพักสักครู่ เมื่อสามารถตั้งสติได้แล้ว จึงค่อยกลับเข้าสู่ตลาดและทำตามแผนการเทรดที่ได้วางไว้

 

3.jpg


7 กลยุทธ์สำหรับการเทรด CFD ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง


1. วางแผนการเทรดและการบริหารความเสี่ยง ต่อให้เป็นสภาวะปกติ การบริหารจัดการพอร์ตด้วยการตั้งค่าจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit) ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ และหากมีสภาวะผันผวนเกิดขึ้น นักลงทุนอาจจำเป็นต้องลดการตั้งค่าทุกจุดลง เหลือเพียง 5-10% ของสภาวะปกติ จะช่วยป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไป และช่วยล็อกกำไรไว้ได้

2. ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้าช่วย เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างการใช้เครื่องมือเช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), โบลินเจอร์แบนด์ (Bollinger Bands) และดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index: RSI) สามารถช่วยให้นักลงทุนเห็นสัญญาณการซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าการใช้อารมณ์ตัดสินใจได้ รวมไปถึงการตีเส้นแนวโน้ม ทั้งแนวรับและแนวต้าน จะยิ่งช่วยให้ซื้อขายได้แม่นยำขึ้น

3. ใช้กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น การเทรดรายวัน (Day Trading) ด้วยการใช้กรอบเวลาที่สั้นลง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้น ๆ และช่วยลดความเสี่ยงในการถือครองตำแหน่งนานเกินไป ในสภาวะที่ตลาดผันผวนได้ดี

4. ใช้ข้อมูลและข่าวสารตลาดร่วมกับการเทรด การติดตามข่าวสารและข้อมูลเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการเทรดได้ดียิ่งขึ้น หากคุณยังเป็นมือใหม่ขอแนะนำว่าให้หยุดเทรดในช่วงที่เกิดข่าว เพื่อเช็กความผันผวนของสภาวะตลาดก่อน ส่วนหากเป็นมือเก๋าเทรดมานานแล้ว ให้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบของข่าวสารต่อราคาสินทรัพย์ ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนการเทรดตามข้อมูลที่มีได้ดีขึ้น

5. ควบคุมอารมณ์และวินัยในการเทรดให้ได้ การควบคุมอารมณ์ และใช้การตัดสินใจด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น จะทำให้นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรอบคอบมากขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากอารมณ์ร่วมได้ หากฝึกฝนแบบนี้ได้จนเป็นวินัย จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว

6. เปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์การเทรดแบบปรับตัว (Adaptive Trading Strategies) ทันที เมื่อเกิดสภาวะผันผวน แผนการเทรดแบบเดิมอาจจะใช้ไม่ได้ในขณะนั้น ให้นักลงทุนออกแบบแผนสำรองเพื่อรับมือขึ้นมา อย่างการเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following) ที่จะสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มชัดเจนได้ หรือใช้การเทรดแบบสวิงเทรด (Swing Trading) เพื่อเทรดในช่วงที่ราคามีการแกว่งตัวภายในแนวโน้มหลัก ก็จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวระยะสั้น ๆ นี้ได้

7. การปรับปรุงและทบทวนกลยุทธ์การเทรดอย่างต่อเนื่อง หลังจากหยุดเทรดแล้ว ไม่ว่าผลการเทรดจะออกมาแบบไหน การวิเคราะห์ผลการเทรดที่เกิดขึ้นจะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสและความผิดพลาดได้ดีขึ้น เพราะหลังเทรดอารมณ์ของนักลงทุนมักจะหยุดนิ่ง จึงสามารถใช้จังหวะนี้ช่วยปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้

 

แม้ว่าการเทรด CFD ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงจะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติแต่ก็ยังถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจ หากนักลงทุนได้มีการเตรียมตัวและวางกลยุทธ์อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงและการตัดสินใจที่อิงข้อมูลอย่างรอบคอบจึงไม่อาจมองข้ามได้ ในบางครั้งอาจจำเป็นต้องนำวิธีการอื่นๆมาใช้ร่วมกับแผนการเทรดที่เคยดำเนินการอยู่ เพื่อให้นักลงทุนสามารถสร้างผลกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในสภาวะตลาดที่แตกต่างกันถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลกำไรในระยะยาว ดังนั้น ความรู้และการเตรียมตัวที่ดีจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการเผชิญกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

Bollinger Bands คืออะไร และจะเชี่ยวชาญมันได้อย่างไร?

Bollinger Bands คืออะไร และจะเชี่ยวชาญมันได้อย่างไร?

เรียนรู้วิธีใช้กลยุทธ์ Bollinger Band อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มความสม่ำเสมอในการซื้อขายของคุณ ค้นหาเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์บางประการเพื่อยกระดับความสำเร็จในการซื้อขายของคุณ

2024-11-20
ทำความเข้าใจสกุลเงินของญี่ปุ่นและมูลค่าของมัน

ทำความเข้าใจสกุลเงินของญี่ปุ่นและมูลค่าของมัน

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงินเยนของญี่ปุ่นและความสำคัญในตลาดโลก รวมถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อมูลค่า อ่านต่อไปเพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับสกุลเงินของญี่ปุ่น

2024-11-13
การซื้อขายออปชั่น: กลยุทธ์ ความเสี่ยง และประโยชน์ที่อธิบายไว้

การซื้อขายออปชั่น: กลยุทธ์ ความเสี่ยง และประโยชน์ที่อธิบายไว้

ทำความเข้าใจกลยุทธ์การซื้อขายตัวเลือกที่สำคัญ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นจนถึงเคล็ดลับการจัดการความเสี่ยงในคู่มือปฏิบัตินี้สำหรับผู้ซื้อขายทุกระดับ

2024-11-12