มาเริ่มเรียนรู้ว่า Forex คืออะไร ตั้งแต่ประวัติและวิวัฒนาการของ Forex พร้อมวิธีเริ่มต้นเทรดและสิ่งที่ต้องระวังที่เข้าใจได้ง่าย ๆ เพียงใช้เวลา 5 นาที
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำและเศรษฐกิจทั่วโลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น ตลาดการเงินและการลงทุนก็กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คน ซึ่ง Forex (Foreign Exchange) เองก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ หากคุณยังไม่เคยลงไปในสนามการลงทุนนี้ ต้องไปทำความเข้าใจก่อนว่า Forex คืออะไร มีประวัติและวิวัฒนาการอย่างไร และอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นเทรด
Forex หรือ Foreign Exchange คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศผ่านคู่สกุลเงินต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น EUR/USD, EUR/GBP หรือ GBP/USD เป็นต้น ซึ่งตัวย่อนี้จะหมายถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างคู่สกุลเงินกัน เช่น EUR/USD จะหมายถึง ยูโรกับดอลลาร์สหรัฐ การเทรด Forex จึงมุ่งหวังผลกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนนั่นเอง ตลาด Forex มีลักษณะเป็น Over-the-Counter (OTC) หรือไม่ใช่ตลาดกลาง แต่เป็นการซื้อขายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างธนาคาร แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ และนักลงทุนทั่วโลก โดยเปิดทำการวันจันทร์-วันศุกร์ตลอด 24 ชั่วโมง การซื้อขายในตลาด Forex ประกอบด้วยคู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs) เช่น EUR/USD, GBP/USD และคู่สกุลเงินรอง (Minor Pairs) รวมถึงคู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic Pairs) ด้วย
ตลาด Forex มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มต้นตั้งแต่ยุคที่มนุษย์เริ่มแลกเปลี่ยนสินค้ากัน แต่รูปแบบที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อตลาดเงินสากลต้องการเสถียรภาพ จึงเกิดการกำหนดค่าเงินตราที่อ้างอิงตามทองคำ (Bretton Woods Agreement) ซึ่งต่อมาในปี 1971 ระบบนี้ได้ล่มสลายไป และเปลี่ยนเป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว จึงส่งผลให้ตลาด Forex เติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถแยกออกเป็นช่วงอย่างง่าย ๆ ดังนี้
1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คือยุคก่อนที่เงินตราจะถือกำเนิดขึ้น มนุษย์ได้ใช้ระบบแลกเปลี่ยนสินค้าหรือ Barter System ในการค้าขาย ด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการระหว่างกัน
2. การใช้เงินตรา เป็นยุคที่มนุษย์เริ่มใช้โลหะมีค่า เช่น ทองคำและเงิน เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน และต่อมาได้มีการสร้างเหรียญและธนบัตรขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการค้าขาย
3. การเกิดขึ้นของธนาคาร เมื่อการค้าขยายตัวมากขึ้น ธนาคารก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเก็บรักษาเงินตรา และทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วย
4. ระบบ Bretton Woods หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบบการเงินทั่วโลกต้องการเสถียรภาพ จึงเกิดการประชุม Bretton Woods Conference ในปี 1944 และกำหนดให้เงินตราต่างประเทศตรึงค่ากับทองคำ แต่ในปี 1971 ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกการตรึงค่าเงินดอลลาร์กับทองคำ ซึ่งนำไปสู่ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว
5. การเติบโตของตลาด Forex หลังจากที่ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวเข้ามามีบทบาท ตลาด Forex ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว การเทรดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และอินเทอร์เน็ตทำให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงตลาดนี้ง่ายขึ้น จึงสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ทำให้การเทรด Forex ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
1. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ก่อนเริ่มต้นควรทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Forex รวมถึงกลยุทธ์และเทคนิคการเทรด เพราะการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ การทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับตลาด Forex รวมถึงวิธีการทำงานของตลาด การอ่านกราฟ และการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและพื้นฐาน จะช่วยให้คุณมีพื้นฐานที่แข็งแรงในการเริ่มต้นเทรด
2. เลือกโบรกเกอร์ เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีการควบคุมจากองค์กรกำกับดูแล เช่น FCA, ASIC, หรือ CySEC และควรมีระบบการเงินที่มั่นคง และมีบริการลูกค้าที่ดี
3. เปิดบัญชีเทรด เปิดบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนการเทรด สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ โดยมักจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวและส่งเอกสารยืนยันตัวตน การเปิดบัญชีทดลองก่อนเพื่อฝึกฝนการเทรดเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้น และฝึกฝนกลยุทธ์การเทรด และเมื่อมั่นใจแล้วก็สามารถเริ่มใช้บัญชีจริงเทรดได้
4. เรียนรู้การวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิคเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเทรด แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ การวิเคราะห์พื้นฐาน ซึ่งจะใช้ข้อมูลเศรษฐกิจ การเมือง และปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อตลาดมาใช้ในการวิเคราะห์ และการวิเคราะห์เทคนิค ซึ่งจะเลือกใช้กราฟและตัวชี้วัดทางเทคนิคในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
5. การจัดการเงิน การจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการเทรด Forex ให้ได้อย่างยั่งยืน ควรจัดการระบบการเงินอย่างรอบคอบ ไม่ลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว และใช้การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจำกัดการสูญเสีย การบริหารเงินที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถอยู่ในตลาดได้นาน ช่วยลดความเสี่ยง และสร้างผลกำไรได้
1. ความเสี่ยงสูง การเทรด Forex มีความเสี่ยงสูง และอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูงและสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยังมีการใช้เลเวอเรจสูงที่จะเพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียเงิน ควรเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงก่อนการลงทุนให้ได้เสมอ
2. การเลือกโบรกเกอร์ การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือและการควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแล การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีการควบคุมนี้ อาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น การโกง หรือการไม่สามารถถอนเงินได้
3. การบริหารเงิน การบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการลงทุนให้ยั่งยืน และเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรด Forex คุณควรกำหนดการลงทุนในแต่ละไม้ และตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจำกัดการสูญเสีย และต้องไม่ลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนทั้งหมดไป
4. ความรู้และประสบการณ์ ควรศึกษาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทักษะและความเข้าใจในตลาด เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด Forex ความรู้และประสบการณ์จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
5. จิตวิทยาการเทรด การควบคุมอารมณ์และมีวินัยในการเทรดเป็นสิ่งสำคัญ หากปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวเข้ามามีอิทธิพล อาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดและสูญเสียเงินไป คุณจึงควรต้องมีแผนการเทรดที่ชัดเจน และยึดมั่นในกลยุทธ์ของคุณอย่างตรงไปตรงมา
Forex เป็นตลาดการเงินที่น่าสนใจและมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การเริ่มต้นเทรดควรทำด้วยความรู้และการวางแผนที่ดี เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีความรู้และประสบการณ์มากพอ การเทรด Forex จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างรายได้ที่ดี