Swing Trade เป็นกลยุทธ์ระยะสั้นที่ใช้ความผันผวนของตลาดทำกำไร โดยใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, RSI, Stochastic ร่วมกับการวิเคราะห์พื้นฐานและอารมณ์ตลาด
Swing Trade เป็นกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งเน้นการใช้ความผันผวนของตลาดในระยะสั้นเพื่อทำกำไร เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้มักจะถือสถานะการเทรดเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน แทนที่จะถือสถานะการเทรดในระยะยาว พวกเขาจะมองหากระแสของตลาดในระยะสั้นและใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคในการช่วยในการตัดสินใจการเทรด เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะยาว Swing Trade จะให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของราคาและการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มระยะสั้นของตลาดเพื่อทำกำไรระยะสั้น
ตัวชี้วัดทางเทคนิคเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ราคาตลาดและปริมาณการซื้อขาย โดยอาศัยข้อมูลในอดีต เพื่อช่วยนักเทรดในการระบุแนวโน้มของตลาดและโอกาสในการเปลี่ยนแปลงของราคาผ่านการคำนวณและกราฟ ตัวชี้วัดทางเทคนิคสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ ตัวชี้วัดแนวโน้มและตัวชี้วัดโมเมนตัม
ในกลยุทธ์แบบ Swing Trade ตัวชี้วัดทางเทคนิคมีบทบาทสำคัญมาก ตัวชี้วัดทางเทคนิคเป็นสูตรคณิตศาสตร์หรือดัชนีทางสถิติที่คำนวณจากข้อมูลราคาหรือปริมาณการซื้อขายในอดีต ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ยืนยันจุดกลับตัวของราคา และหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อและขาย ต่อไปนี้จะเป็นการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์แบบ Swing Trade และตัวชี้วัดทางเทคนิค
ประการแรก เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Swing Trade นั้นใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด แนวโน้มเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเทรดนี้ เนื่องจากมีโอกาสทำกำไรได้เฉพาะในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้ม ตัวชี้วัดทางเทคนิคช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุได้ว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ขาลง หรือช่วงพักตัว การวิเคราะห์แนวโน้มจะช่วยให้เทรดเดอร์เลือกทิศทางการเทรดที่เหมาะสมกับ Swing Trade นั่นคือ การซื้อหรือการขาย
ประการที่สอง ตัวชี้วัดทางเทคนิคยังสามารถช่วยให้เทรดเดอร์กำหนดเวลาที่เหมาะสมในการซื้อและขาย ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งช่วยปรับความผันผวนของราคาโดยการคำนวณราคาเฉลี่ยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อราคาข้ามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการซื้อ ในขณะที่เมื่อราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการขาย ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้งานทั่วไปยังรวมถึงดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index: RSI) และดัชนี Stochastic ซึ่งช่วยให้สัญญาณเกี่ยวกับการซื้อหรือขายมากเกินไป โดยช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้ว่าราคาปัจจุบันอาจสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปก่อนที่จะทำการซื้อหรือขาย
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดทางเทคนิคยังสามารถใช้ในการยืนยันจุดกลับตัวของราคา เทรดเดอร์หวังที่จะทำการซื้อขายใกล้กับจุดกลับตัวของราคาเพื่อทำกำไร ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้มและตัวชี้วัดการแกว่งตัว สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุความเป็นไปได้ของการกลับตัวของราคา ตัวอย่างเช่น เมื่อเส้นแนวโน้มถูกทำลายหรือตัวชี้วัดการแกว่งตัวแสดงสัญญาณการซื้อขายมากเกินไป อาจหมายความว่าราคากำลังจะกลับตัว และเทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมในขณะนั้นได้
Swing Trade มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับตัวชี้วัดทางเทคนิค ซึ่งตัวชี้วัดทางเทคนิคนั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเทรดแบบกลยุทธ์นี้ โดยช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาด กำหนดโอกาสในการซื้อขายและยืนยันจุดกลับตัวของราคา เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตัดสินใจเทรด แต่ตัวชี้วัดทางเทคนิคก็ไม่สมบูรณ์แบบ และไม่สามารถใช้เพียงแค่ตัวชี้วัดในการตัดสินใจการเทรดได้ เทรดเดอร์ยังคงต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อารมณ์ของตลาด การวิเคราะห์พื้นฐาน เป็นต้น นอกจากนี้ กลยุทธ์นี้ยังต้องการทักษะวิเคราะห์ทางเทคนิคและความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วจากเทรดเดอร์ด้วย
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้มีไว้สำหรับข้อมูลทั่วไปเท่านั้นและไม่ใช่ (และไม่ควรถือว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงินการลงทุนหรืออื่น ๆ ที่ควรพึ่งพา ความคิดเห็นใด ๆ ที่ให้ไว้ในเนื้อหาไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุนหลักทรัพย์การซื้อขายหรือกลยุทธ์การลงทุนใด ๆ ที่เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง