การลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจแนวโน้มตลาด เช่น ในฟอเร็กซ์ การตัดสินใจต้องพิจารณากรอบระยะเวลา ความคาดหวังในปัจจัยต่าง ๆ และการวิเคราะห์เทคนิค เช่น RSI, MACD, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
ไม่ว่าจะลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจแนวโน้มของตลาด เพราะการที่เรารู้ทันตลาดจะช่วยให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้องและได้รับผลกำไร ดังนั้น แล้วเราจะวิเคราะห์แนวโน้มตลาดได้อย่างไร? ในบทความ นี้เราจะยกตัวอย่างการวิเคราะห์และการดูแนวโน้มของตลาดฟอเร็กซ์เพื่ออธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียด
การวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดฟอเร็กซ์ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของนักลงทุนต่อสภาวะตลาดฟอเร็กซ์เป็นหลั กซึ่งสามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดฟอเร็กซ์ได้จาก 4 ด้านหลักดังนี้
1. กรอบระยะเวลา
กรอบระยะเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่พบได้ในทุกตลาด ตัวอย่างเช่น กรอบระยะเวลาของอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางกำหนด มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดสินทรัพย์ หากสามารถเข้าใจกรอบระยะเวลาเหล่านี้ได้ โอกาสในการทำกำไรในตลาดสินทรัพย์ก็จะเพิ่มขึ้น ตลาดฟอเร็กซ์เองก็มีกลไกที่เกี่ยวข้องกับกรอบระยะเวลาเช่นกัน โดยปัจจัยสำคัญที่กำหนดกรอบระยะเวลาของเงินดอลลาร์สหรัฐคือการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในระยะสั้นตลาดยังคงมีกรอบระยะเวลาเช่นกัน แต่ปัจจัยที่ส่งผลต่อกรอบระยะเวลาระยะสั้นนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง
ตลาดเองก็เป็นเครื่องมือที่สะท้อนความคาดการณ์ของผู้ลงทุน เช่น เมื่อกรอบระยะเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐฯ สิ้นสุดลง ตลาดก็จะเข้าสู่กรอบระยะเวลาใหม่ ซึ่งทิศทางของตลาดในช่วงเวลานั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นสำหรับกรอบระยะเวลาสั้น ๆ มักได้รับอิทธิพลจากข่าวสารที่ส่งผลกระทบ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกรอบระยะเวลาที่เกี่ยวข้องกับการเก็งกำไรจากข่าว แต่ละกรอบระยะเวลา ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ต่างก็มีจุดสำคัญและปัจจัยหลักของตัวเองที่ต้องติดตาม
ในฐานะนักลงทุน เราต้องแก้ไขปัญหาว่าจะค้นหาการเปลี่ยนแปลงของกรอบระยะเวลา จุดสำคัญ และปัจจัยหลักได้อย่างไร รวมถึงการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในกรอบระยะเวลานั้น ๆ เนื่องจากในแต่ละกรอบระยะเวลาสกุลเงินแต่ละตัวจะมีความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์จากสถานการณ์จริงในระดับหนึ่ง
2. ตลาดเองเป็นเครื่องมือในการสะท้อนความคาดหวัง
ตัวอย่างเช่น ตลาดคาดการณ์ว่าหลังจากกรอบระยะเวลาการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ สิ้นสุดลง ตลาดก็จะเข้าสู่กรอบระยะเวลาใหม่ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาของตลาดในช่วงเวลานั้นจะทราบได้ก็ต่อเมื่อถึงช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว ในตลาดฟอเร็กซ์ นักลงทุนมักมองเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันว่าเป็นกรอบระยะเวลาที่เน้นข่าวสาร ดังนั้น สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับนักลงทุน คือการค้นหาการเปลี่ยนแปลงของกรอบระยะเวลา และกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมภายในกรอบระยะเวลานั้น
3. ปัจจัยที่ทำให้เกิดแนวโน้มในตลาด Forex
จริง ๆ แล้วปัจจัยที่สร้างแนวโน้มในตลาดฟอเร็กซ์มีความเหมือนกัน เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างกันคือการควบคุมความเสี่ยงและช่วงเวลาที่เข้าออกตลาด หากนักลงทุนใช้สัดส่วนมาร์จินและเลเวอเรจที่สูง เมื่อเริ่มเข้าตลาดจะต้องมีความแม่นยำอย่างสูง ในขณะที่ทำกำไรได้ก็ต้องสามารถแยกแยะแนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาวได้อย่างรวดเร็ว
4. วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิค
วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีบทบาทสำคัญในการทำนายแนวโน้มของตลาดฟอเร็กซ์ในระยะสั้นหรือระยะสั้นมาก ๆ มีตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายประเภทที่ใช้ในการวิเคราะห์ เช่น RSI, MACD, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นต้น นักลงทุนสามารถใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้ในการวิเคราะห์และตัดสินแนวโน้มของตลาดฟอเร็กซ์
การต่อสู้ในตลาดฟอเร็กซ์ระยะสั้นเปรียบสเหมือนกับกองทัพในสนามรบที่ต้องให้ความสำคัญกับระเบียบวินัย ทุกขั้นตอนที่ตอบสนองตามแผนต้องเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การวางแผนโดยรวมและไม่ควรเปลี่ยนแปลงทันที การปรับเปลี่ยนทั้งหมดต้องวางแผนล่วงหน้าและดำเนินการเมื่อจำเป็น
ก่อนการเปิดตลาดในแต่ละวัน นักลงทุนควรศึกษาการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนระยะสั้นและประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดฟอเร็กซ์ในตอนเย็นต่อการเคลื่อนไหวของตลาดฟอเร็กซ์ในตอนเช้า แนวโน้มตลาดในกราฟรายวันแสดงถึงแนวโน้มหลักที่ต้องระมัดระวังเมื่อเข้าสู่ตลาด เมื่อแนวโน้มเข้าสู่ตลาด คุณสามารถเข้าเทรดได้อย่างมั่นใจ โดยเปิดสถานะทีละขั้นตอนและออกจากตลาดตามเป้าหมาย เมื่อทิศทางสวนทางเข้าสู่ตลาดควรระมัดระวังในการเปิดสถานะ ความเสี่ยงในการขายชอร์ตในตลาดมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนทุกคนควรตระหนักถึงเรื่องนี้
แนวโน้มเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน บางครั้งแค่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยก็อาจทำให้สูญเสียทั้งหมดได้ ดังนั้นนักลงทุนฟอเร็กซ์ควรมีความละเอียดรอบคอบและอดทนเมื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวโน้ม และควรรักษาความสงบของจิตใจเอาไว้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาในบทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ