การประกาศขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปี 2566 ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนอย่างมาก คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มทยอยขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นปี และขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องภายในสิ้นปีนี้
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หมายถึง การดำเนินนโยบายการเงินโดย Federal Reserve System ผ่านปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น พูดง่ายๆ ก็คือ การขึ้นดอกเบี้ยหมายความว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อธนาคาร บัตรเครดิต และสินเชื่อระยะสั้นอื่นๆวิธีการกู้เงิน ดังนั้นขอให้มองอย่างใกล้ชิดว่า สหพันธ์ฯเงินสำรองจะขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566
กำหนดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปี 2566
เวลาที่แน่นอนยังต้องมีการตรวจสอบจากตลาด
ผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อเงินทุนตลาดนัด
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาด: การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร บัตรเครดิต และเงินกู้ระยะสั้นอื่นๆวิธีการเพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้นยานพาหนะ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวสูงขึ้นโดยทั่วไป,นักลงทุนยังอาจต้องการถือครองตราสารหนี้มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินทรัพย์ที่มิใช่อัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ย
การชะลอตัวของเศรษฐกิจ: การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจกดดันการบริโภคและความต้องการลงทุน ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง นอกจากนี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลเสียผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและธุรกิจ
ค่าเงินที่แข็งแกร่ง: การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมักจะส่งผลให้ประเทศอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯสกุลเงินสำรองทั่วโลก,การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)เพื่อดึงดูดความสนใจจากตลาดโลก หากปรับขึ้นดอกเบี้ยเกินกว่าตลาดคาดว่าอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และส่งผลต่อการค้านำเข้าและส่งออกในประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาในบทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ