มาร์จิ้นแบบลอยตัวปรับตามความผันผวนของตลาดและเลเวอเรจ ทำให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ส่วนมาร์จิ้นแบบคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามภาวะตลาด แต่เสี่ยงขาดทุนหากตลาดผันผวนมาก
ในการเทรด Forex มาร์จิ้น (Margin) หมายถึงเงินส่วนหนึ่งที่นักลงทุนต้องชำระเมื่อทำการเทรดแบบเลเวอเรจ (Leverage) เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงจากการขาดทุน จุดประสงค์ของมาร์จิ้นคือการเพิ่มอัตราส่วนการเลเวอเรจทำให้นักลงทุนสามารถเข้าร่วมการเทรดในขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง
มาร์จิ้นแบบลอยตัวและมาร์จิ้นแบบคงที่เป็นวิธีการคำนวณมาร์จิ้นที่แตกต่างกัน มาร์จิ้นแบบลอยตัวจะคำนวณตามอัตราส่วนเลเวอเรจและความผันผวนของสินทรัพย์ที่เทรด ในขณะที่มาร์จิ้นแบบคงที่จะคำนวณจากอัตราส่วนที่กำหนดสำหรับสินทรัพย์นั้น ๆ
โดยเฉพาะ มาร์จิ้นแบบลอยตัวจะคำนวณจากความผันผวนของสินทรัพย์ที่เทรด สินทรัพย์แต่ละประเภทมีความผันผวนที่แตกต่างกัน ดังนั้น อัตราส่วนของมาร์จิ้นแบบลอยตัวก็จะต่างกันไป โดยทั่วไปแล้วสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงจะต้องใช้มาร์จิ้นในอัตราที่สูงกว่า ในขณะที่สินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำจะต้องใช้มาร์จิ้นในอัตราที่ต่ำกว่า ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะต้องใช้มาร์จิ้นมากขึ้นเมื่อทำการเทรดสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
ในทางตรงกันข้าม มาร์จิ้นแบบคงที่จะคำนวณจากอัตราส่วนคงที่ของสินทรัพย์ที่เทรด โดยไม่คำนึงถึงความผันผวนของสินทรัพย์ นักลงทุนจะต้องจ่ายมาร์จิ้นตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือต่ำ นักลงทุนก็ยังต้องจ่ายมาร์จิ้นในอัตราส่วนเดียวกัน
ความแตกต่างระหว่างมาร์จิ้นแบบลอยตัวและมาร์จิ้นแบบคงที่อยู่ที่วิธีการคำนวณ มาร์จิ้นแบบลอยตัวจะคำนวณตามความผันผวนของสินทรัพย์ที่เทรด ซึ่งมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตามสภาพตลาดได้ ขณะที่มาร์จิ้นแบบคงที่คำนวณจากอัตราส่วนคงที่ที่ไม่ถูกกระทบจากความผันผวนของตลาด
เมื่อทำการเทรด 1 ล็อตของคู่เงิน EUR/GBP การคำนวณมาร์จิ้นจะเป็นการนำจำนวนหน่วยของสกุลเงินฐาน (ยูโร) 100,000 หน่วย มาหารด้วยเลเวอเรจ 200 ซึ่งจะได้มาร์จิ้นที่ใช้ 500 ยูโร หากสมมติว่าอัตราแลกเปลี่ยน EUR/GBP อยู่ที่ 1.1 มาร์จิ้นที่ต้องใช้ในสกุลเงินปอนด์อังกฤษจะเท่ากับ 500 ยูโร คูณกับ 1.1 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็น 550 ปอนด์
อีกจุดที่แตกต่างคือ มาร์จิ้นแบบลอยตัวจะใช้ในกรณีที่มีการเทรดด้วยเลเวอเรจ ซึ่งนักลงทุนสามารถยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดการเทรดได้ ขณะที่มาร์จิ้นแบบคงที่มักใช้กับการเทรดที่ไม่มีเลเวอเรจหรือมีเลเวอเรจน้อย นักลงทุนจึงต้องใช้เงินทุนของตัวเองในการวางมาร์จิ้นมากกว่า
มาร์จิ้นแบบลอยตัวมีความยืดหยุ่นสูง เพราะสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ตลาด แต่ก็ต้องการนักลงทุนที่มีความสามารถในการจัดการความเสี่ยงได้ดี ขณะที่มาร์จิ้นแบบคงที่จะค่อนข้างคงที่และเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ไม่ว่าจะเลือกใช้มาร์จิ้นแบบไหน นักลงทุนก็ควรจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจเกินตัวและการขาดทุน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาในบทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ
สำรวจหุ้นราคาถูกชั้นนำ การคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจ และกลยุทธ์การลงทุนที่ชาญฉลาด ค้นพบโอกาสที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อนำทางตลาดอย่างชาญฉลาด
2025-02-21ค้นพบว่าการแยกหุ้นของ Tesla ส่งผลต่อราคาหุ้นและกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร เรียนรู้ว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้นและมีความสำคัญอย่างไรต่อพอร์ตการลงทุนของคุณ
2025-02-21เรียนรู้รูปแบบกราฟการซื้อขาย 11 รูปแบบที่จะช่วยให้คุณระบุแนวโน้มตลาด จุดกลับตัว และการทะลุแนวรับ ปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของคุณด้วยรูปแบบสำคัญเหล่านี้
2025-02-21