6 เหตุผล ที่นักเทรดมือใหม่ ควรเริ่มต้นที่ CFDs

2024-03-05
สรุป

เปิดเหตุผลสำคัญ ที่นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นที่ CFDs ที่ไม่ได้มีดีแค่ความยืดหยุ่นอย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์ต่อผลตอบแทนด้านอื่นด้วย

วิธีการเทรดแบบ CFDs เกิดขึ้นในปี 1970 และมาสร้างกระแสความนิยมจริง ๆ ในช่วงปี 2000 ที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นการลงทุนหลักในยุคนั้นเลยทีเดียว ด้วยความโดดเด่นที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเทรดในตลาดหุ้นได้ทั้งขาขึ้น และขาลง เป็นความได้เปรียบที่ดึงดูดให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ ทั้งที่เคยศึกษาด้านการลงทุนมาบ้าง และนักลงทุนที่เตรียมความพร้อมก่อนการลงทุนมาแล้ว ส่วนนักลงทุนที่กำลังคิดจะเริ่มต้นการเทรดด้วยวิธีนี้ ลองศึกษาเหตุผลสำคัญในบทความนี้ดูก่อนว่า ใช่รูปแบบการลงทุนที่ต้องการหรือไม่


นักลงทุนมือใหม่ต้องอ่าน CFDs คือการลงทุนแบบไหน

Contracts for Difference (CFDs) คือสัญญาซื้อขายราคาส่วนต่าง ที่มีระบบมาร์จิ้น หรือบัญชีที่นักลงทุนสามารถขอกู้จากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มอำนาจในการซื้อ-ขาย ช่วยเพิ่มเงินลงทุนให้มากขึ้น เป็นระบบที่ช่วยให้นักลงทุนใช้เงินลงทุนจริงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการเทรดแบบ CFDs จะช่วยให้นักลงทุนได้ลงทุนในสินทรัพย์ราคาสูงได้ทั่วโลก โดยที่นักลงทุนไม่ต้องซื้อสินทรัพย์นั้น ๆ มาครอบครองจริง

              

นอกจากนี้ CFDs ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถตั้งจุดเก็บกำไร (Take Profit) หรือจุดสิ้นสุดการขาดทุน (Stop Loss) ได้ดั่งใจ ช่วยให้คำสั่งซื้อขายของนักลงทุนจะถูกปิดลงโดยอัตโนมัติเมื่อราคาวิ่งไปถึงจุดที่กำหนดไว้ และยิ่งไปกว่านั้น CFDs ยังมีเลเวอเรจ ระบบที่จะช่วยเพิ่มเงินทุนแบบทวีคูณ ช่วยให้นักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนที่มีเงินทุนน้อยได้เข้าไปสู่สนามการลงทุนระดับโลกได้ด้วยเงินจริงเพียงนิดเดียว


แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ย่อมมีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณา ตั้งแต่การเลือกโบรกเกอร์ การกำหนดมาร์จิ้น และการใช้เลเวอเรจ เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับการทำธุรกรรมการเงิน


เทรด CFDs

6 เหตุผลสำคัญ ที่ CFDs เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่

เหตุผลที่นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นที่ CFDs ไม่ใช่เพียงความยืดหยุ่นที่การลงทุนรูปแบบนี้มีให้เท่านั้น แต่ยังมีเหตุผลสำคัญอื่น ๆ ที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนมือใหม่ได้ คือ

1. ใช้เงินน้อยเพื่อเข้าสู่ตลาดใหญ่ได้

ดังที่ได้กล่าวไปว่า CFDs มีทั้งระบบมาร์จิ้น และระบบเลเวอเรจ ที่จะช่วยเพิ่มเงินทุนให้แบบทวีคูณ โดยที่นักลงทุนใช้เงินจริงเพียงนิดเดียว จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ แต่ได้สัมผัสกับประสบการณ์การเทรดในตลาดระดับโลก เปิดโอกาสให้สร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น

2. CFDs มีค่าธรรมเนียมต่ำ

หากเปรียบเทียบกับการลงทุนชนิดอื่น การลงทุนแบบ CFDs ถือว่ามีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะในบางแพลตฟอร์ม การเทรด CFDs นั้น ไม่มีค่าคอมมิชชันเลย นั่นเท่ากับว่าเมื่อไม่มีค่าคอมมิชชัน การทำธุรกรรมซื้อ-ขายก็จะมีค่าใช้จ่ายถูกลง เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่ยังขาดประสบการณ์ในการลงทุน

3. สามารถซื้อขายออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การลงทุนแบบ CFDs ในปัจจุบัน นักลงทุนมือใหม่ไม่ต้องวุ่นวานกับกระดาษบันทึกข้อมูลการซื้อ-ขาย เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเปิดคำสั่งซื้อ-ขายแบบออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง

4. นักลงทุนมือใหม่ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น-ขาลง

นักลงทุนมือใหม่บางคนอาจไม่ทราบว่า การลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อนักลงทุนซื้อหุ้นในราคาที่ประกาศขายแล้ว จะต้องถือหุ้นไว้อย่างนั้นจนกว่าราคาจะวิ่งสู่ขาขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนแบบ CFDs ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนมือใหม่สามารถเปิดคำสั่งซื้อ-ขายได้ทั้งตลาดขาขึ้น และตลาดขาลง

5. มีการป้องกันความเสี่ยง

การลงทุนแบบ CFDs ช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับนักลงทุนมือใหม่ และนักลงทุนที่มีเงินทุนน้อยได้ เพราะรูปแบบการลงทุนเป็นเพียงการถือสัญญาเท่านั้น นักลงทุนไม่ได้เข้าไปครอบครองสินทรัพย์นั้น ๆ จริง ดังนั้นเมื่อตลาดเกิดความผันผวนนักลงทุนจึงไม่ต้องขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง

6. มีความหลากหลายให้เลือกในการลงทุน

นักลงทุนมือใหม่สามารถลงทุนแบบ CFDs ในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย ทั้งตลาดเงิน, ดัชนี, หุ้น, ทองคำ, สกุลเงินดิจิทัล และสินทรัพย์โภคภัณฑ์อื่น ๆ ได้ด้วย ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน นักลงทุนมือใหม่สามารถเข้าสร้างผลตอบแทนกับสินทรัพย์ที่หลากหลาย โดยผ่านการใช้งานเพียงแพลตฟอร์มเดียว

              

จะเห็นได้ว่าการเทรดแบบ CFDs มีประโยชน์และเหมาะสมกับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก ขอเพียงนักลงทุนค้นหาโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือเท่านั้น ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนแบบ CFDs ได้ทันที และสิ่งสำคัญอย่าลืมศึกษาข้อมูล และข่าวคราวเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่สนใจให้ละเอียด เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเปิดคำสั่งซื้อ-ขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


ความหมายและนัยของช่องว่างกรรไกร M1 M2

ความหมายและนัยของช่องว่างกรรไกร M1 M2

ช่องว่างกรรไกร M1 M2 วัดความแตกต่างในอัตราการเติบโตระหว่างอุปทานเงิน M1 และ M2 โดยเน้นย้ำถึงความแตกต่างในสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ

2024-12-20
วิธีการซื้อขาย Dinapoli และการประยุกต์ใช้

วิธีการซื้อขาย Dinapoli และการประยุกต์ใช้

วิธีการซื้อขาย Dinapoli เป็นกลยุทธ์ที่รวมตัวบ่งชี้ชั้นนำและตามหลังเพื่อระบุแนวโน้มและระดับสำคัญ

2024-12-19
พื้นฐานและรูปแบบของสมมติฐานทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

พื้นฐานและรูปแบบของสมมติฐานทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

สมมติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพระบุว่าตลาดการเงินจะรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในราคาสินทรัพย์ ดังนั้นการทำผลงานดีกว่าตลาดจึงไม่น่าจะเกิดขึ้น

2024-12-19