หุ้น UNH หุ้นเด็ดสุดท้ายของบัฟเฟตต์ ควรตามไหม?

UnitedHealth (UNH) เป็นหนึ่งในหุ้นที่ Berkshire Hathaway เปิดเผยในการยื่นรายงานไตรมาส 2 โดยถือหุ้นจำนวน 5 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 1.4–1.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณความเชื่อมั่นที่ชัดเจนจากบัฟเฟตต์

อย่างไรก็ตาม การถือหุ้นของ Berkshire ไม่ได้หมายความว่าคุณควรเลียนแบบการลงทุนทันที การถือหุ้นนี้สะท้อนว่าผู้ลงทุนแนวเน้นคุณค่าและมองระยะยาวมองเห็นโอกาสผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับความเสี่ยง หลังจากการขายลดลงอย่างหนักในปี 2025 แต่การตัดสินใจตามรอยควรพิจารณาตามระยะเวลาการลงทุน ความสามารถในการรับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการดำเนินงาน รวมถึงการจัดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตการลงทุนของคุณ

บทความนี้จะช่วยสรุปข้อเท็จจริงล่าสุดเกี่ยวกับการลงทุนของ Berkshire วิเคราะห์เหตุผลเบื้องหลังการถือหุ้น ชี้ความเสี่ยงสำคัญ และแนะนำแนวทางว่าคุณควรเข้าลงทุนในหุ้น UNH ด้วยตัวเองหรือไม่

เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น UNH? ภาพรวมสั้น ๆ

ตามรายงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมา Berkshire Hathaway เปิดเผยว่ามีการเข้าซื้อหุ้น UNH ใหม่ประมาณ 5 ล้านหุ้น มูลค่าราว 1.4–1.6 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในวันนั้น หลังข่าวนี้เผยแพร่ หุ้น UNH ก็ปรับตัวขึ้นทันที

ราคาหุ้น UNH ล่าสุดในช่วงวันที่ 13–14 สิงหาคม 2025 อยู่ราว 270–272 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่มูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ในช่วงประมาณ 200 พันล้านดอลลาร์

การซื้อหุ้นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ UNH ต้องเผชิญความท้าทายหลายด้านตลอดปี 2025 ทั้งค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เพิ่มสูง การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ ปัญหาด้านไซเบอร์และการดำเนินงาน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหาร ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นลดลงอย่างมาก

ปัจจัยลบเหล่านี้กลับสร้างโอกาสสำหรับนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า เพราะทำให้มูลค่าหุ้น UNH ถูกกดดันจนเกิดความไม่สมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน

ทำไมวอร์เรน บัฟเฟตต์ถึงลงทุนในหุ้น UNH? 4 เหตุผลสำคัญ

1) ธุรกิจแข็งแกร่งและข้อได้เปรียบด้านขนาด

UNH เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมธุรกิจประกันภัยที่ครอบคลุม (UnitedHealthcare) เข้ากับธุรกิจบริการและเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโต (Optum)

ขนาดของบริษัทช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับผู้ให้บริการ เพิ่มความสามารถด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ รวมถึงกระจายความเสี่ยงในหลายสายผลิตภัณฑ์ (เชิงพาณิชย์, Medicare Advantage ฯลฯ)

สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองว่าความต้องการด้านสุขภาพคงที่และคาดว่าบริษัทเล็กจะควบรวม UNH จึงเป็นผู้ชนะเชิงพื้นฐาน

2) การสร้างกระแสเงินสดและความยืดหยุ่นในการจัดสรรทุน

UNH มีประวัติการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถใช้สำหรับการลงทุน ซื้อหุ้นคืน หรือจ่ายปันผล

หลังจากราคาหุ้นลดลงหนักตลอดปี การลงทุนเพียงบางส่วนของ Berkshire ก็สามารถสร้างผลตอบแทนไม่สมมาตร (asymmetric returns) หากกระแสเงินสดกลับสู่ภาวะปกติและอัตราส่วนมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น

ข้อมูลตลาดสาธารณะช่วงกลางสิงหาคม 2025 แสดงให้เห็นอัตราส่วนมูลค่าหุ้นถูกบีบลง ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณที่นักลงทุนเน้นคุณค่าติดตาม

3) ความคุ้นเคยกับอุตสาหกรรมลดความไม่แน่นอน

Berkshire เข้าใจเศรษฐศาสตร์ประกันอย่างลึกซึ้งผ่านการลงทุนใน GEICO และบริษัทประกัน/ประกันภัยอื่นๆ

ประสบการณ์นี้ช่วยลดปัจจัยไม่รู้จักสำหรับการลงทุนในบริษัทประกันขนาดใหญ่ ทำให้การเข้าลงทุนใน UNH น่าเชื่อถือกว่าการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีแบบสุ่ม

4) ราคาหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ

แนวทางของบัฟเฟตต์ให้ความสำคัญทั้งคุณภาพและราคาราคา หุ้น UNH ลดลงอย่างหนักในปี 2025 จากปัจจัยด้านการดำเนินงาน ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ และการปรับพอร์ตของนักลงทุน ซึ่งสร้าง “margin of safety” ที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อระยะยาว

การเปิดเผย 13F ชี้ให้เห็นว่า Berkshire มองว่าความเสี่ยงและผลตอบแทน ณ ราคาตลาดตอนนั้นน่าดึงดูด

ความเสี่ยงสำคัญที่คุณควรพิจารณาก่อนตามรอย

1. ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและกฎหมาย

UNH เปิดเผยว่ากำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานอื่น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ Medicare การสอบสวนนี้มีผลต่อเศรษฐกิจระยะยาวของบริษัท

การตรวจสอบด้านกฎระเบียบอาจนำไปสู่ค่าปรับ ข้อจำกัด หรือการปรับโมเดลธุรกิจ ซึ่งลดความสามารถในการทำกำไรอย่างถาวร บริษัทเองก็ยอมรับว่ากำลังให้ความร่วมมือกับคำขออย่างเป็นทางการ

2. ภาวะเงินเฟ้อและการใช้ประโยชน์จากต้นทุนทางการแพทย์

ต้นทุนทางการแพทย์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการใช้บริการ การรักษาแบบใหม่ที่มีราคาแพง หรือการกำหนดราคาของผู้ให้บริการ จะทำให้กำไรลดลงและท้าทายสมมติฐานการฟื้นตัวของรายได้

รายได้ของบริษัทประกันมีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มต้นทุนทางการแพทย์เป็นอย่างมาก หากแนวโน้มดังกล่าวยังคงสูง การฟื้นตัวของมูลค่าอาจล่าช้าหรือจำกัดได้

3. ผลกระทบด้านปฏิบัติการและชื่อเสียง (รวมถึงไซเบอร์)

UNH ประสบปัญหาด้านการดำเนินงานและเหตุการณ์ไซเบอร์ในปี 2025 ซึ่งไม่ใช่แค่ข่าวพาดหัว แต่ส่งผลกระทบทางการเงินโดยตรงและอาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้า

การฟื้นฟูผลการดำเนินงานต้องใช้เวลาและการลงทุน ในช่วงเวลานั้น รายได้และอัตรากำไรอาจยังคงต่ำ

วิธีตีความการเคลื่อนไหวของ Berkshire ในฐานะนักลงทุนรายย่อย

แนวทางปฏิบัติสำหรับนักลงทุนรายย่อย:

1) มองเป็นข้อมูลคุณภาพสูง ไม่ใช่คำสั่งซื้อ

Berkshire ลงทุนตามเป้าหมายของตัวเอง สถานการณ์ของคุณอาจแตกต่างออกไป

2) ดำเนินการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วยตัวเอง

อ่านเอกสารบริษัท ข่าวสารด้านกฎระเบียบ และข้อมูลเฉพาะของ Optum ข้อความของบริษัทเกี่ยวกับการให้ความร่วมมือกับ DOJ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรอ่าน

3) ลงทุนอย่างระมัดระวังหากตัดสินใจตาม

หากคุณต้องการลงทุนให้เริ่มด้วยสัดส่วนไม่มาก เว้นแต่คุณมีระยะเวลาลงทุนยาวและสามารถรับความผันผวนได้ การลงทุนของบัฟเฟตต์ในบริษัทมูลค่า 240 พันล้านดอลลาร์ถือว่าสำคัญ แต่ไม่ใช่หุ้นที่ครอบงำตลาดดังนั้นให้ปรับตามความเหมาะสม

4) พิจารณาการป้องกันความเสี่ยงหรือซื้อและปรับขนาด

ใช้วิธีทยอยซื้อ (dollar-cost averaging) หรือป้องกันความเสี่ยงหากกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์จากกฎระเบียบ

5) ติดตาม 6 ตัวชี้วัดสำคัญด้านล่างนี้

• Guidance (แนวทาง/ประมาณการ)

• อัปเดตจาก DOJ

• อัตรากำไรของ Optum

• กระแสเงินสด

• สัญญาณจากผู้บริหาร/บอร์ด

• แนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

6 ตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องจับตามองรายสัปดาห์และรายเดือน

1) การอัปเดตด้านกฎระเบียบ / เอกสาร DOJ

คำขอใหม่ การบังคับใช้กฎหมาย หรือข้อตกลงใด ๆ อาจเปลี่ยนภาพรวมของหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ข่าวสารอย่างเป็นทางการของ UNH เรื่องความร่วมมือเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม 2025 ควรติดตามข่าวต่อเนื่อง

2) การเปิดเผยแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลรายไตรมาส

ตรวจสอบว่าการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายทางการแพทย์เริ่มชะลอตัวหรือไม่

3) ตัวชี้วัดของส่วนธุรกิจ Optum

การเติบโตของรายได้ การรักษาอัตรากำไร และการรักษาลูกค้าของ Optum ถือเป็นสัญญาณภายในที่สำคัญที่สุดสำหรับการเติบโต

4) กระแสเงินสดอิสระและการจัดสรรเงินทุน

กระแสเงินสดอิสระที่เพิ่มขึ้นและการซื้อหุ้นคืน/เงินปันผลอย่างมีวินัย บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของฝ่ายบริหาร ข้อมูลตลาดล่าสุดแสดงให้เห็นว่า UNH สามารถสร้างกระแสเงินสดได้มากในอดีต

5) การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร/บอร์ด

การปรับปรุงด้านการกำกับดูแล หรือการจ้างงานคุณภาพสูงเพื่อแก้ไขปัญหา เป็นสัญญาณเชิงบวก

6) คู่แข่งในอุตสาหกรรมและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค

หากคู่แข่งรายงานการชะลอตัวของค่าใช้จ่าย จะช่วยเสริมเรื่องราวของ UNH ข้อมูลเงินเฟ้อมหภาคช่วยประเมินการใช้บริการเทียบกับผลกระทบด้านราคา

คำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับพอร์ตการลงทุน

1) ระยะเวลาเป็นเรื่องสำคัญ

หากคุณมีแผนการลงทุนระยะยาว 5-10 ปี และสามารถรับมือกับการขาดทุนได้ UNH อาจเป็นแนวคิดที่น่าสนใจเมื่อราคาหุ้นตกต่ำ แต่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของพอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงเท่านั้น Berkshire กำลังเล่นเกมระยะยาว ดังนั้นหากคุณจะตามรอย ควรปรับมุมมองให้เหมาะสม

2) กฎการจัดสัดส่วนการลงทุน

สำหรับนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่การเริ่มลงทุนเพียง 1–3% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด (และสามารถเพิ่มสัดส่วนเมื่อมีสัญญาณพื้นฐานบวก) ถือว่ารอบคอบ

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงและมีระยะยาว สามารถพิจารณา 3–5% ได้ แต่ไม่ควรเกินสัดส่วนที่คุณสามารถยอมเห็นมูลค่าลดลงอย่างมากในสถานการณ์ไม่ดี

3) หลีกเลี่ยงการเลเวอเรจ

เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและแรงกดดันด้านค่าใช้จ่ายที่ยังต่อเนื่อง จึงไม่ควรลงทุนด้วยมาร์จิ้นหรือเลเวอเรจจนกว่าการฟื้นตัวจะชัดเจน

4) พิจารณาทางเลือกอื่น

หากต้องการรับความเสี่ยงในภาคสุขภาพโดยลดความเสี่ยงของหุ้นรายตัว ให้พิจารณา ETF ที่กระจายการลงทุนในภาคสุขภาพ หรือกลุ่มบริษัทประกันและบริการสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบเฉพาะบริษัท

คำถามที่พบบ่อย

1. เหตุใดวอร์เรนบัฟเฟตต์จึงเลือกลงทุนในหุ้น UNH ในปี 2025?

การซื้อหุ้น UNH ของ Berkshire Hathaway ในปี 2025 สะท้อนความชอบของบัฟเฟตต์ที่ลงทุนในบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง มีตำแหน่งตลาดโดดเด่น และมีศักยภาพเติบโตระยะยาว

2. หุ้นอื่น ๆ ในตัวเลือกสุดท้ายของบัฟเฟตต์มีอะไรบ้าง?

นอกเหนือจาก UNH แล้ว การปรับพอร์ตของ Berkshire ในช่วงปลายปี 2025 ยังรวมถึง Apple (AAPL), Occidental Petroleum (OXY), Coca-Cola (KO), American Express (AXP), Chevron (CVX) และหุ้นธนาคารบางตัว เช่น Bank of America (BAC)

3. หุ้น UNH มีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับหุ้นที่บัฟเฟตต์เลือกไว้ตัวอื่นในปี 2025?

ณ เดือนสิงหาคม 2025 หุ้น UNH ฟื้นตัวประมาณ 8% จากจุดต่ำสุดประจำปีหลังการเข้าซื้อของ Berkshire ขณะที่ Apple แทบไม่เปลี่ยนราคา Occidental ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง และ Coca-Cola ให้ผลตอบแทนปันผลสม่ำเสมอ

สรุป

โดยรวมแล้ว การตามรอยบัฟเฟตต์ไปลงทุนในหุ้น UNH อาจเป็นทางเลือกหนึ่งได้ แต่เฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

แม้การเข้าซื้อของ Berkshire จะสะท้อนว่าหนึ่งในนักลงทุนเน้นคุณค่าที่มีประสบการณ์สูง มองว่าความเสี่ยงและผลตอบแทน ณ ราคากลางเดือนสิงหาคมน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ ค่าใช้จ่าย และการดำเนินงานจะหมดไป ความเสี่ยงเหล่านี้ยังอาจชะลอหรือจำกัดการฟื้นตัวของหุ้นได้

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ