เปิดเหตุผลที่ SCHB ETF คือหุ้นรวมตลาดน่าลงทุนปี 2025

2025-07-30
สรุป

SCHB ETF คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนตลาดรวมในปี 2025 หรือไม่? สำรวจผลการดำเนินงาน หลักทรัพย์ในพอร์ต และเหตุผลที่นักลงทุนจับตามอง

สำหรับนักลงทุนแบบพาสซีฟที่ต้องการสร้างพอร์ตหุ้นหลักในปี 2025 กองทุน ETF ตลาดรวมยังคงเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ระยะยาว กองทุน Schwab U.S.Broad Market ETF (SCHB) ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำมากและครอบคลุมตลาดอย่างกว้างขวาง


แต่ SCHB เมื่อเทียบกับกองทุนขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าอย่าง VTI, ITOT หรือ SPTM จะเป็นอย่างไร? และมันคือกองทุนตลาดรวมที่ดีที่สุดที่ควรถือในปีนี้หรือไม่? บทความนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุด ผลการดำเนินงาน และประเด็นเชิงกลยุทธ์ของ SCHB ETF เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ


SCHB ETF คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?

SCHB ETF คืออะไร

SCHB ติดตามดัชนี Dow Jones U.S.Broad Stock Market ซึ่งครอบคลุมบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ประมาณ 2,380–2,500 แห่ง รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2025)


กองทุนนี้ครอบคลุมตลาดสหรัฐฯ อย่างกว้างขวาง โดยกระจายการลงทุนกว่า 90% ตามดัชนีอย่างเต็มรูปแบบ และอนุญาตให้ลงทุนในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดได้สูงสุด 10%


ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่:

  • อัตราค่าธรรมเนียมต่ำสุดเพียง 0.03% ถือเป็นหนึ่งในค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดในกลุ่ม

  • เข้าถึงหุ้นมากกว่า 2,300 ตัว ครอบคลุมทุกกลุ่มหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • ประสิทธิภาพด้านภาษีสูง มีการแจกจ่ายกำไรจากเงินทุนต่ำมาก

  • สภาพคล่องดีและส่วนต่างราคาซื้อขาย (bid-ask spread) แคบ ช่วยให้การซื้อขายง่ายขึ้น


ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ SCHB จึงมักถูกแนะนำให้เป็นกองทุนหลักสำหรับการลงทุนแบบพาสซีฟ


ภาพรวมผลการดำเนินงานของ SCHB ETF

ภาพรวมผลการดำเนินงานของ SCHB ETF


ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) และผลตอบแทนล่าสุด

ณ เดือนกรกฎาคม 2025 SCHB ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีได้ +5.74% โดยในเดือนที่ผ่านมาได้ +4.65% และในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา +9.94%


ผลตอบแทนระยะยาว

SCHB มีผลตอบแทนระยะยาวที่น่าประทับใจ ในรอบ 1 ปี ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 17.88% ขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีใน 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 15.9% และผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปีอยู่ที่เกือบ 12.9%


ผลตอบแทนเหล่านี้สูงกว่ากองทุนดัชนีหลักอื่น ๆ และมากกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่ม Large Blend ซึ่งมีผลตอบแทนเฉลี่ยราว 13.3% ต่อปีและ 15.1% ใน 5 ปี


ตัวชี้วัดความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ปรับตามความผันผวน

ความผันผวนเฉลี่ยต่อปีอยู่ในระดับปานกลางประมาณ 15% ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนในหุ้นกว้างๆ


ตั้งแต่เดือนมกราคม 2010 ถึงมิถุนายน 2025 SCHB มีอัตราการเติบโตแบบทบต้น (CAGR) ประมาณ 13.52% โดยสามารถฟื้นตัวจากการลดลงสูงสุดถึง –24.9% ในช่วงวิกฤต COVID-19 ได้ภายในระยะเวลาราว2ปี


SCHB กับคู่แข่งหลัก: VTI, ITOT และอื่น ๆ

SCHB vs VTI vs  ITOT

จากการรีวิวกองทุน ETF ตลาดหุ้นรวม SCHB อยู่ในกลุ่มตัวเลือกชั้นนำคู่กับ VTI (Vanguard Total Stock Market ETF) และ ITOT (iShares Core S&P Total U.S.Stock Market ETF) โดยทั้งสามกองทุนมีผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปี ใกล้เคียงกันที่ประมาณ 14% และมีอัตราค่าธรรมเนียมต่ำเท่ากันที่ 0.03%


จุดแตกต่าง :

  • SCHB โดดเด่นด้วยการเป็นกองทุนแบรนด์ Schwab ที่ได้รับความนิยมในผู้ใช้แพลตฟอร์ม Schwab และเปิดให้ซื้อขายแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับลูกค้าหลายกลุ่ม

  • เมื่อเทียบกับ VTI และ ITOT SCHB มีจำนวนหลักทรัพย์ในพอร์ตน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ยังคงครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมและการติดตามดัชนีได้แม่นยำ

  • มีเสียงวิจารณ์ว่าความผันผวนและปริมาณการซื้อขายของ SCHB ต่ำกว่าเล็กน้อย ทำให้การกระจุกตัวในบางกลุ่มอุตสาหกรรมสูงขึ้น แต่ผลลัพธ์โดยรวมยังใกล้เคียงกัน


จุดแข็งของ SCHB ในปี 2025


1) ต้นทุนต่ำที่ไม่มีใครเทียบได้

ด้วยอัตราค่าธรรมเนียม 0.03% ช่วยให้ต้นทุนไม่กินผลตอบแทนมาก เมื่อสะสมในระยะยาวมีผลชัดเจนเมื่อเทียบกับทางเลือกที่มีค่าธรรมเนียมสูงกว่า


2) การเปิดรับตลาดอย่างกว้างขวาง

ลงทุนในหุ้นกว่า 2,300 ตัว ตั้งแต่หุ้นขนาดใหญ่มาจนถึงขนาดเล็ก โดย 10 อันดับหลักทรัพย์ใหญ่สุดคิดเป็นเพียง ~32.8% ของพอร์ต ในขณะที่กลุ่มเฉลี่ยมีสัดส่วนประมาณ 42% แสดงถึงการกระจายความเสี่ยงและลดความเข้มข้นของการลงทุน


3) ประสิทธิภาพการแข่งขัน

ใน 5 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 16.1% ใกล้เคียงกับ VTI (~16.1%) และต่ำกว่า ITOT เล็กน้อย (~16.2%)


4) ประสิทธิภาพทางภาษี

โครงสร้างกองทุนและการทำดัชนีอย่างสม่ำเสมอช่วยให้การแจกจ่ายกำไรจากเงินทุนต่ำ เหมาะกับบัญชีที่ต้องเสียภาษี


ความเสี่ยงและข้อจำกัดที่ควรพิจารณา


1) สภาพคล่องและขนาด

สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของ SCHB ประมาณ 35 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่ากองทุนอย่าง VTI หรือ SPY และปริมาณการซื้อขายบางครั้งต่ำกว่า อาจทำให้ผู้ลงทุนรายใหญ่กังวล แต่ไม่ส่งผลกระทบกับนักลงทุนทั่วไป


2) ความผันผวนของหุ้นขนาดกลางและเล็ก

การลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กให้โอกาสเติบโตระยะยาว แต่มีความผันผวนสูงขึ้นโดยเฉพาะช่วงตลาดปรับตัวลง


3) การเปิดรับความเป็นผู้นำทางการตลาด

ด้วยหุ้นเทคโนโลยีคิดเป็นประมาณ 30% ของพอร์ต ทำให้ผลการดำเนินงานอาจขึ้นกับความแข็งแกร่งของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่นี้ ซึ่งมีความเสี่ยงการกระจุกตัวมากกว่าการลงทุนในกลยุทธ์หุ้นโลกที่กว้างกว่า


4) ไม่มีฟีเจอร์เสริม

ต่างจากกองทุน เช่น SCHG ที่เน้นการเติบโต หรือกองทุนที่เน้นจ่ายเงินปันผล SCHB เป็นเพียงการสะท้อนน้ำหนักตามมูลค่าตลาดอย่างเดียว


SCHB ETF เหมาะกับคุณหรือไม่?

SCHB ETF

สถานการณ์ที่เหมาะสม

  • เป็นหุ้นหลักสำหรับการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ระยะยาว ด้วยต้นทุนต่ำ

  • เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้โบรกเกอร์และต้องการความเรียบง่าย

  • เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการการกระจายการลงทุนกว้าง ๆ โดยไม่ต้องดูแลมาก


สถานการณ์ที่ไม่เหมาะนัก

  • หากคุณต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรง หรือเน้นปัจจัย ESG หรือเน้นหมวดอุตสาหกรรมเฉพาะ

  • หากคุณต้องการรายได้ปันผลสูงกว่า ซึ่งกองทุนอย่าง VYM หรือ SCHD อาจเหมาะกว่า

  • สำหรับพอร์ตขนาดใหญ่มาก ที่สภาพคล่องของกองทุนมีผลต่อการซื้อขาย


ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและบทวิเคราะห์ตลาด


การประเมินผลในระยะกลางถึงยาวยังคงยกให้ SCHB เป็นกองทุนหลักที่น่าสนใจ U.S.News ได้จัดอันดับ SCHB เป็นหนึ่งใน “กองทุน Schwab ที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2025” โดยเน้นจุดเด่นเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำและผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ


ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องว่า SCHB เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับการลงทุนแบบพาสซีฟในตลาดรวม โดยโดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าด้านต้นทุนและความเรียบง่ายเมื่อเทียบกับ VTI หรือ ITOT


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนเห็นว่า SCHB ยังไม่เทียบเท่าขนาดและปริมาณการซื้อขายของ VTI หรือ SPY อาจทำให้ผลการดำเนินงานตามหลังในช่วงที่หุ้นขนาดใหญ่วิ่งแรงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการกระจายการลงทุนที่กว้างกว่า


การจัดพอร์ตกับ SCHB


  • หุ้นหลักในพอร์ต: ใช้ SCHB เป็นตำแหน่งหลักในหุ้นสหรัฐฯ ร่วมกับกองทุนพันธบัตรหรือ ETF ต่างประเทศ

  • กลยุทธ์ประหยัดภาษี: ถือ SCHB ในบัญชีที่ต้องเสียภาษีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านภาษีกำไรจากเงินทุน

  • สร้างพอร์ตเน้นต้นทุนต่ำ: ค่าธรรมเนียมเพียง 0.03% เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นลดต้นทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนระยะยาว

  • การกระจายความเสี่ยง: ผสมผสานกับ ETF ประเภทอื่น ๆ เช่น หุ้นต่างประเทศหรือกองทุนปันผลสูง เพื่อสร้างความสมดุลในพอร์ต


สรุป


โดยรวมแล้ว SCHB ETF เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก ด้วยการให้การเปิดรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ แบบกว้าง ๆ ในต้นทุนที่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่ง ผลการดำเนินงานในปี 2025 ยังคงแข็งแกร่ง เทียบเท่าหรือแค่ตามหลัง VTI และ ITOT เล็กน้อย ในขณะที่อัตราค่าธรรมเนียมเพียง 0.03% ยังคงเป็นจุดเด่นที่น่าดึงดูด


สำหรับนักลงทุนแบบซื้อถือระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในระบบของ Schwab SCHB ถือเป็นกองทุนหลักที่ยอดเยี่ยมที่รวมความหลากหลาย ต้นทุนต่ำ และผลการดำเนินงานเข้าด้วยกัน


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

ตัดเสียงรบกวนด้วยกลยุทธ์การเทรด Forex ที่พิสูจน์แล้ว ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค อินดิเคเตอร์ที่สำคัญ รวมถึงการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของ EBC คลาสเรียนออนไลน์ และสัญญาณเตือนเทรดที่แม่นยำ

2025-08-07
รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

เปิดข้อมูลแนวรับ แนวต้าน คืออะไร เจาะลึกหัวใจของการวิเคราะห์กราฟ พร้อมกลยุทธ์ใช้เทรดจริงที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ย ด้วยเทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดทุกตลาด

2025-08-07
ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ติดตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI แบบเรียลไทม์ พร้อมปัจจัยขับเคลื่อนตลาด การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ และความเคลื่อนไหววันนี้มีความหมายอย่างไรต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโลก

2025-08-07