ราคาทองคำพุ่งทะลุ 3,400 ดอลลาร์: แนวโน้มขาขึ้นจะยั่งยืนหรือไม่?

2025-07-23
สรุป

ทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 60 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 3,400 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความกังวลเรื่องภาษีและภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่แนวโน้มขาขึ้นอาจเปราะบางเนื่องจากความเสี่ยงเชิงนโยบายยังคงอยู่

ราคาทองคำแสดงพลังการปรับตัวอย่างรุนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ โดยพุ่งขึ้นเกือบ 60 ดอลลาร์จากระดับต่ำสุดช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 3,338 ดอลลาร์ ไปแตะจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 3,401 ดอลลาร์ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม การทะยานเพียงครั้งเดียวดังกล่าวทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 3,360 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่กดดันราคามาตลอดตั้งแต่ต้นเดือน แสดงถึงแรงเชื่อมั่นฝั่งขาขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ภายในช่วงบ่ายของวันที่ 23 กรกฎาคม ราคาทองคำสปอตยังคงซื้อขายเหนือระดับ 3,430 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือเป็นโซนปิดการซื้อขายที่สูงที่สุดของปีจนถึงขณะนี้


กระแสเงินไหลเข้าที่ปลอดภัย ทำให้ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

Gold Price Today

มีสองปัจจัยหลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ราคาทองคำพุ่งแรงในรอบนี้ ประการแรก ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยกลับมาอีกครั้ง แม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะแข็งแกร่ง แต่เทรดเดอร์เริ่มมองลึกไปกว่านั้น โดยให้ความสำคัญกับการชะลอตัวของ "ค่าแรงที่แท้จริง" และดัชนีภาคบริการ (PMI) ที่อ่อนตัวลง ซึ่งสะท้อนสัญญาณชะลอตัวของภาคเศรษฐกิจจริง ขณะเดียวกัน เส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมสำหรับชุดมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐต่อสินค้านำเข้าจากยุโรปและญี่ปุ่น ก็กระตุ้นความทรงจำเกี่ยวกับช็อกด้านซัพพลายเชนในปี 2022 ให้กลับมาอีกครั้ง เมื่อความกังวลทวีความรุนแรงขึ้น นักลงทุนเริ่มขายดอลลาร์ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น (Front-end Treasury yields) และน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งผลให้ทองคำกลับมาได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง


บริบทเชิงนโยบาย: มาตรการภาษี, เพดานหนี้ และความเห็นที่แตกแยกในเฟด


การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางนโยบายการเงินที่เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น หากมาตรการเก็บภาษีรอบใหม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเข้าใกล้เส้นตาย “X-date” ของเพดานหนี้ในต้นเดือนกันยายน ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจถูกบีบให้ลดดอกเบี้ยเชิงรุกล่วงหน้า แม้ว่าดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานอย่าง Core PCE จะยังคงอยู่ในระดับสูง รายงานจาก Bank of America ช่วงปลายเดือนมีนาคมสะท้อนมุมมองนี้อย่างชัดเจน โดยสถาบันได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำเฉลี่ยในปี 2025 ขึ้นเป็น 3,063 ดอลลาร์ และเตือนว่าหากมีความต้องการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นเพียง 10% ราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 3,500 ดอลลาร์ได้ภายในเวลา 2 ปี


ความตึงเครียดทางการค้าข้ามแอตแลนติกจุดชนวนเพิ่ม


ทางฝั่งยุโรป กรุงบรัสเซลส์ได้นำ “เครื่องมือป้องกันการบีบบังคับทางเศรษฐกิจ” (Anti-Coercion Instrument) กลับมาใช้อีกครั้ง โดยขู่ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีย้อนกลับต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสหรัฐ หากวอชิงตันเดินหน้าบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีครอบคลุมในอัตรา 15% หรือมากกว่า แม้เยอรมนีในอดีตจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการค้าอย่างเปิดเผย แต่คราวนี้กลับแสดงท่าทีสนับสนุนแผนดังกล่าวอย่างเงียบ ๆ นอกจากนี้ เมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปยังส่งสัญญาณว่า หากการเจรจาล้มเหลว อาจมีการจำกัดการลงทุนจากสหรัฐแบบเฉพาะกลุ่ม รวมถึงแบนบริษัทอเมริกันจากการประมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การข่มขู่ตอบโต้เช่นนี้ ช่วยอธิบายได้ว่าเหตุใดราคาทองคำจึงตอบสนองอย่างรุนแรงกว่าทั้งดัชนี S&P 500 และค่าเงินยูโร เพราะทองคำทำหน้าที่เสมือน “สัญญาประกันความผิดพลาดเชิงนโยบาย” ที่นักลงทุนหันมาใช้เมื่อตลาดหวั่นไหวจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบาย


ขาขึ้นที่ไร้เสถียรภาพ?


แม้ตลาดจะตื่นตัวกับการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ แต่ปัจจัยพื้นฐานที่รองรับแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวยังไม่ชัดเจนนัก มาตรการเก็บภาษีมีแนวโน้มจะเร่งเงินเฟ้อ ในขณะที่ส่งผลลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ระหว่างการรักษาเสถียรภาพด้านราคา กับการสนับสนุนการจ้างงาน ส่งผลให้การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนกรกฎาคมกลายเป็นทางเลือกเริ่มต้น (default scenario)

ในขณะเดียวกัน สัญญาณบวกเริ่มปรากฏว่า สหรัฐและจีนอาจมีการประชุมระดับผู้นำนอกรอบการประชุม APEC ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็อาจลดแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนราคาทองคำหลัก หากวาทกรรมสงครามการค้าลดความร้อนแรงลงในช่วงเดือนสิงหาคม ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก็อาจจางหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน


มุมมองทางเทคนิค – สามเหลี่ยมถูกทำลาย แต่ยังต้องรอยืนยัน


บนกราฟราคาทองคำในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าราคาได้สร้างรูปแบบสามเหลี่ยมบีบตัว (contracting triangle) โดยมีจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จุดสูงสุดแทบไม่เปลี่ยนแปลง การพุ่งทะลุแนวต้านบนในวันจันทร์เป็นสัญญาณบวกครั้งแรก แต่ปริมาณการซื้อขายยังอยู่ในระดับปานกลาง และแท่งเทียนรายวันแสดง “ไส้เทียนยาวบน” อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสัญญาณของแรงขายกลับ ฝั่งกระทิงจึงจำเป็นต้องรอการปิดราคาปริมาณ 2 วันติดต่อกันเหนือโซนแนวต้านเดิมที่ 3,360-3,380 ดอลลาร์ เพื่อยืนยันว่าแนวต้านกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง หากไม่ผ่าน อาจส่งผลให้การขึ้นราคาครั้งนี้กลายเป็น “กับดักกระทิง” (bull trap) คลาสสิก ที่หลอกให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่าตลาดกำลังจะขึ้นต่อ


บทสรุป – จับตานโยบาย และติดตามการเคลื่อนไหวราคาอย่างใกล้ชิด


โดยสรุป การพุ่งขึ้นล่าสุดของราคาทองคำเกิดจากปัจจัยที่เปราะบาง ประกอบด้วยความตึงเครียดเรื่องภาษี ความกังวลภาวะถดถอย และความหวังในการลดดอกเบี้ย หากทั้งสามปัจจัยนี้ไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน ราคาทองคำในระดับสูงใหม่นี้อาจเป็นเพียงช่วงเวลาชั่วคราว นักเทรดที่ไล่ตามโมเมนตัมควรจับตาวันที่ 1 สิงหาคม และการประชุม FOMC ในวันที่ 18–19 กันยายน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ความเสี่ยงแบบไบนารีที่น่าจะเป็นตัวกำหนดว่า ราคาทองคำจะทะยานไปสู่เป้าหมายสูงที่ 3,500 ดอลลาร์ตามที่ Bank of America คาดการณ์ หรือร่วงกลับสู่ช่วงราคาเดิมระหว่าง 3,200-3,350 ดอลลาร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตลาดก็ได้ส่งสัญญาณชัดเจนในสัปดาห์นี้แล้วว่า: อย่ามองข้ามทองคำโดยประมาท


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

ข้อตกลง Nvidia AMD ในจีนจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้หรือไม่?

ข้อตกลง Nvidia AMD ในจีนจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้หรือไม่?

ข้อตกลงชิปจีนของ Nvidia และ AMD เพิ่มความเสี่ยงด้านภาษีและกำไร แต่กลับคืนสู่การเข้าถึงตลาดสำคัญ ข้อตกลงนี้อาจเปลี่ยนความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าหรือไม่?

2025-08-11
ราคาหุ้น SoftBank พุ่ง 13% หลังรายงานกำไรที่น่าทึ่ง

ราคาหุ้น SoftBank พุ่ง 13% หลังรายงานกำไรที่น่าทึ่ง

ราคาหุ้นของ SoftBank พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการลงทุนใน AI การฟื้นตัวของ Vision Fund และแผน IPO ขนาดใหญ่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปี 2024

2025-08-08
ปอนด์ไม่เห็นด้วยกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ BOE

ปอนด์ไม่เห็นด้วยกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ BOE

ค่าเงินปอนด์ทรงตัวในวันศุกร์ หลังจากที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่งประธานธนาคารกลางจากทีมของทรัมป์

2025-08-08