ตลาดน้ำมันดิบลดลง ขณะที่เบรนต์ร่วงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์

2025-07-15
สรุป

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงกว่า 2% อยู่ที่ 69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางกระแสตอบรับนโยบายรัสเซียของทรัมป์และความไม่แน่นอนของ OPEC+ ตามมาด้วยราคาน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายใกล้ระดับ 66.40 ดอลลาร์

ตลาดน้ำมันดิบอ่อนตัวลงอย่างหนักในวันที่ 15 กรกฎาคม 2025 โดยราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) ร่วงลงต่ำกว่าระดับสำคัญที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


การปรับตัวลงรอบใหม่นี้เกิดจากสัญญาณนโยบายจากสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานในอนาคต ซึ่งกดดันราคาพลังงานทั่วโลกอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มต่อไป ความกังวลเกี่ยวกับกลยุทธ์ของกลุ่ม OPEC+ การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ


ตลาดน้ำมันดิบร่วง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์


Brent Crude Price Chart

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงจากนโยบายรัสเซียที่ผ่อนคลายลง

สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ร่วงลงมากกว่า 2% ในการซื้อขายวันจันทร์ โดยราคาปรับตัวลงมาอยู่ที่ 68.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงบ่าย ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะยังไม่ออกมาตรการคว่ำบาตรหรือจำกัดการส่งออกพลังงานของรัสเซียในขณะนี้ ซึ่งเป็นท่าทีที่สวนทางกับคำพูดก่อนหน้านี้ที่เคยกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านอุปทาน


การยกเลิกความเสี่ยงด้านอุปทานในทันที ทำให้นักลงทุนแห่เทขายสถานะ Long และเก็งกำไรที่เคยคาดการณ์ว่าตลาดจะตึงตัว ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงขึ้น และคำสั่งหยุดขาดทุน (stop-loss) หลายรายการถูกเรียกใช้งาน นำไปสู่แรงขายต่อเนื่องที่ฉุดให้ราคาน้ำมันเบรนต์ร่วงลงมากถึง 1.57 ดอลลาร์ในวันเดียว


WTI ปรับตัวตามทิศทางของเบรนต์

WTI Oil Price Chart

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ของสหรัฐปรับตัวลดลงตามเบรนต์ โดยราคาลงมาอยู่ที่ 66.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงบ่ายของการซื้อขาย ความเชื่อมั่นในตลาดอ่อนแอลงเพิ่มเติม หลังกลุ่ม OPEC+ ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ตัดสินใจปรับเพิ่มหรือลดกำลังการผลิตในขณะนี้ โดยเลือกใช้แนวทาง "รอดูท่าที" ซึ่งทำให้ตลาดยังคงอยู่ในภาวะไม่แน่นอนก่อนการประชุมครั้งถัดไปของกลุ่ม


ราคาน้ำมันขณะนี้ได้ลบล้างกำไรทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากแรงพุ่งขึ้นในเดือนมิถุนายน โดย WTI ซื้อขายอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน


ปัจจัยขับเคลื่อนตลาดหลัก


นโยบายสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ตลาดน้ำมันได้กำหนดราคาข้อจำกัดด้านอุปทานที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง


  • ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในวงกว้างยังคงเป็นประเด็นสำคัญ รวมถึงการคุกคามด้านภาษีของสหรัฐฯ ต่อยุโรปและเอเชีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและความต้องการพลังงาน


OPEC+ และแนวโน้มการผลิต

  • OPEC+ คงเพิ่มปริมาณการผลิตในเดือนกรกฎาคมที่ 411,000 บาร์เรลต่อวัน โดยไม่มีสัญญาณใหม่ใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินการด้านอุปทานในอนาคต


  • สัญญาณของท่าทีที่ระมัดระวังและความแตกแยกภายในเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นอีกได้เพิ่มความไม่สบายใจให้กับตลาด โดยนักลงทุนระมัดระวังต่อการประกาศที่น่าตกใจในการประชุมกลุ่มธุรกิจตามกำหนดการครั้งต่อไป


แนวโน้มอุปสงค์และข้อมูลมหภาค

  • ข้อมูลการผลิตและกิจกรรมอุตสาหกรรมที่อ่อนแอลงจากจีนและยุโรปทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลก


  • ตลาดกำลังรอรายละเอียดดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ฉบับใหม่และตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ของจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นเบาะแสเกี่ยวกับแนวโน้มการบริโภคและอัตราเงินเฟ้อ


ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์


ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงสู่ระดับ 97.97 หลังจากแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันไม่ร่วงลงแรงนัก ขณะที่ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ $3,317 ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนหันมาถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน


ปฏิกิริยาของตลาดและการเคลื่อนไหวของภาคส่วน


  • หุ้นพลังงาน: ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น Shell และ ExxonMobil ปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานทั่วโลกลดลง 0.8% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงอีกครั้ง


  • การขนส่งและโลจิสติกส์: บริษัทขนส่งสินค้าและเรือบรรทุกน้ำมันเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดปรับตัวตามแนวโน้มราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลง


  • สกุลเงิน: สกุลเงินที่เชื่อมโยงกับน้ำมัน เช่น ดอลลาร์แคนาดาและโครนนอร์เวย์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินของประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอย่างเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย


มุมมองของนักวิเคราะห์


นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าการร่วงลงล่าสุดของราคาน้ำมันเป็นการ “ปรับความเสี่ยง” มากกว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดขาลงที่ลึกขึ้น โดยตลาดน้ำมันกำลังประมวลผลระหว่างความโล่งใจจากการไม่มีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม กับความกังวลต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะนี้สายตาทั้งหมดจึงจับจ้องไปที่ OPEC+ และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชุดถัดไป เพื่อหาทิศทางในระยะต่อไป


บริษัทลงทุนหลายแห่งมองว่าระดับราคา Brent ระหว่าง 67–70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจะทำหน้าที่เป็นแนวรับทางเทคนิคในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลฝั่งอุปสงค์ออกมาอ่อนแอกว่าคาด ก็อาจมีแรงกดดันด้านลบเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน ปัจจัยบวกที่อาจผลักดันราคาขึ้น ได้แก่ สัญญาณการลดอุปทานจาก OPEC+ หรือข้อมูลคลังน้ำมันโลกที่ลดลงเกินคาด


มองไปข้างหน้า

OPEC+ Uncertainty

ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์กำลังจับตามอง:


  • แถลงการณ์จาก OPEC+ และนโยบายการผลิตที่จะประกาศในอนาคต


  • ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยเฉพาะดัชนี CPI และ GDP


  • ความเป็นไปได้ที่จะเกิดความตึงเครียดด้านการค้า หรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบห่วงโซ่อุปทาน


  • รายงานปริมาณน้ำมันดิบในสต็อกจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) และข้อมูลการนำเข้า/ส่งออกของจีน


ตลาดน้ำมันดิบยังคงตอบสนองอย่างไวต่อข่าวการเมืองและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในช่วงฤดูร้อนนี้


บทสรุป


ตลาดน้ำมันดิบร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันที่ 15 กรกฎาคม 2025 โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ WTI ร่วงลงต่ำกว่า 66.50 ดอลลาร์ การปรับตัวลงครั้งนี้เกิดจากจุดยืนที่อ่อนลงกว่าคาดเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ความไม่แน่นอนจากฝั่ง OPEC+ และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์จากเศรษฐกิจหลักขณะที่ตลาดรอปัจจัยกระตุ้นลูกใหม่ นักลงทุนจึงเลือกที่จะวางตำแหน่งอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและความผันผวนที่ยังดำเนินต่อเนื่อง


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

การเมืองปั่นป่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลือทรัมป์เตรียมเด้ง พาวเวลล์ ประธาน Fed

การเมืองปั่นป่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลือทรัมป์เตรียมเด้ง พาวเวลล์ ประธาน Fed

เศรษฐกิจผันผวนหนัก หลังลือสนั่น "ทรัมป์" จ่อเด้ง จอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed สุดท้ายเจ้าตัวปัดทันควัน ไม่เป็นความจริง เว้นแต่มีเรื่องทุจริต

2025-07-17
หุ้น Netflix น่าจับตามอง พร้อมผลประกอบการไตรมาส 2

หุ้น Netflix น่าจับตามอง พร้อมผลประกอบการไตรมาส 2

ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ Netflix กำลังจะประกาศ คาดว่าจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย แต่ราคาหุ้นจะสามารถสอดคล้องกับมูลค่าและยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปได้หรือไม่?

2025-07-16
ตลาดหุ้นสหรัฐวันนี้: Dow Jones ร่วง 423 จุด ขณะที่ Nasdaq ทำ ATH

ตลาดหุ้นสหรัฐวันนี้: Dow Jones ร่วง 423 จุด ขณะที่ Nasdaq ทำ ATH

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 423 จุด S&P 500 ลดลง 0.4% แต่ Nasdaq สร้างสถิติใหม่ ขณะที่ Nvidia พุ่งขึ้น นักลงทุนจับตาภาษีศุลกากร อัตราเงินเฟ้อ และผลประกอบการเป็นปัจจัยสำคัญ

2025-07-16