Gold Market Cap กับภาพรวมความมั่งคั่งโลกในปี 2025

2025-06-18
สรุป

สงสัยไหมว่า Gold Market Cap 23.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2025 คำนวณอย่างไร? มาทำความเข้าใจปัจจัยที่ขับเคลื่อนมูลค่า และเหตุผลที่นักลงทุนควรใส่ใจ

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บมูลค่า การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หรือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งในหลายวัฒนธรรม ปัจจุบัน Gold Market Cap หรือมูลค่าตลาดทองคำ จึงกลายเป็นตัวชี้วัดที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยแนวคิดนี้มาจากตลาดหุ้น แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้วัดมูลค่าของสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำด้วย แล้ว Gold Market Cap คืออะไร คำนวณอย่างไร และมีความสำคัญแค่ไหนต่อนักลงทุนและเศรษฐกิจโลก?


วิธีการคำนวณ: ปริมาณทองคำที่มีอยู่บนพื้นโลก × ราคาทองคำณปัจจุบัน (Spot Price)

ราคาทองคำต่อออนซ์วันนี้ ในการประมาณมูลค่าตลาดทองคำ จะต้องคูณสองส่วนสำคัญดังนี้:


  • ปริมาณทองคำที่มีอยู่บนพื้นโลกทั้งหมด: คือทองคำที่ถูกขุดขึ้นมาตลอดประวัติศาสตร์และยังคงอยู่ในรูปแบบที่ใช้งานได้ ตามข้อมูลของ World Gold Council ปริมาณนี้อยู่ที่ประมาณ 216,265 ตัน ณ ปี 2024

  • ราคาทองคำณปัจจุบัน (ราคาตลาด): ราคาทองคำต่อออนซ์ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามอุปสงค์และอุปทาน ในช่วงต้นปี 2025 ราคาทองคำอยู่ที่ประมาณ 3,387 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์


สูตรการคำนวณ:


Gold Market Cap = ปริมาณทองคำที่มีอยู่บนพื้นโลก (หน่วยออนซ์) × ราคาทองคำต่อออนซ์


โดย:

216,265 ตัน = ประมาณ 6.95 พันล้านออนซ์

ราคาทองคำ = 3,387 ดอลลาร์/ออนซ์


6.95 พันล้านออนซ์ × 3,387 ดอลลาร์ = ประมาณ 23.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


ดังนั้น มูลค่าตลาดทองคำโดยรวมจึงอยู่ที่ราว 23.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ตัวเลขนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามราคาทองคำ ณ ขณะนั้นและสมมติฐานเกี่ยวกับปริมาณทองคำทั้งหมด


การประมาณการและการเปลี่ยนแปลงทั่วโลก


แม้วิธีการคำนวณจะดูเรียบง่าย แต่แหล่งข้อมูลต่าง ๆ อาจให้ตัวเลขที่แตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น:

  • สมมติฐานเกี่ยวกับปริมาณทองคำทั้งหมด: บางแหล่งใช้ตัวเลขที่ระมัดระวังมากขึ้น หรือบางแหล่งใช้ตัวเลขที่สูงกว่าปกติ

  • ราคาทองคำที่นำมาใช้: ราคาที่ใช้คำนวณจะแตกต่างกันตามช่วงเวลาที่ประเมินและสกุลเงินที่ใช้

  • หน่วยวัด: บางรายงานใช้ตัน บางรายงานใช้หน่วยออนซ์ หรือกรัม ซึ่งอาจทำให้มูลค่าที่ได้แตกต่างกันหากไม่ได้มาตรฐานเดียวกัน


นอกจากนี้ บางแหล่งอาจรวมทองคำในรูปแบบโทเคนดิจิทัล (Tokenised Gold), ผลิตภัณฑ์ซื้อขายทองคำในตลาด (Exchange-Traded Products) หรือทองคำที่ยังไม่ได้จัดสรร (Unallocated Gold Holdings) ในการคำนวณด้วย ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดที่ประมาณสูงขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้ ตัวเลขประมาณการมูลค่าตลาดทองคำทั้งหมดจึงอยู่ในช่วงประมาณ 20 ล้านล้านดอลลาร์ถึงกว่า 25 ล้านล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับวิธีการและช่วงเวลาที่ใช้ในการประเมิน


แนวโน้มมูลค่ารวมในอดีต

แนวโน้มมูลค่ารวมในอดีต

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Gold Market Cap เติบโตอย่างก้าวกระโดด ตั้งแต่ต้นยุค 2000 ที่ราคาทองคำยังต่ำกว่า 400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มูลค่าตลาดทองคำรวมทั่วโลกยังไม่ถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงต้นยุค 2020 มูลค่าตลาดทองคำพุ่งสูงเกิน 10 ล้านล้านดอลลาร์ และด้วยราคาทองคำที่ขยับขึ้นใกล้ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปัจจุบัน จึงทำให้มูลค่าตลาดทองคำทั่วโลกพุ่งทำสถิติใหม่สูงสุด


ทองคำแตกต่างจากหุ้นหรือสกุลเงินอื่น ๆ ที่มีการเพิ่มปริมาณได้อย่างรวดเร็ว ทองคำเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เพียงปีละประมาณ 1.5–2% เท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของมูลค่าตลาดทองคำคือราคาทองคำ ณ ปัจจุบัน (spot price) ที่สูงขึ้น ไม่ใช่ปริมาณทองคำที่เพิ่มขึ้น ความหายากและความต้องการที่มั่นคงในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่าทำให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ข้อจำกัดของการใช้มูลค่าตลาดสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์


แม้ว่าจะมีประโยชน์เป็นเกณฑ์อ้างอิงทั่วไป แต่ Gold Market Cap ก็มีข้อจำกัดหลายประการเมื่อใช้เปรียบเทียบทางการเงิน:

  1. ไม่ใช่ทองคำทั้งหมดสามารถซื้อขายได้: ส่วนใหญ่ถูกถือครองในรูปแบบเครื่องประดับ ตู้นิรภัยของธนาคารกลาง หรือการถือครองส่วนตัวระยะยาว ซึ่งมีโอกาสน้อยที่จะถูกนำกลับเข้าสู่ตลาดจริง ส่งผลให้มูลค่าตลาดอาจสูงกว่าปริมาณทองคำที่พร้อมซื้อขายจริง

  2. ไม่มีหน่วยงานออกสินทรัพย์: ต่างจากหุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัลที่ทองคำไม่มีผู้ควบคุมหรือออกโดยหน่วยงานใด ๆ มูลค่าตลาดทองคำจึงไม่สะท้อนศักยภาพรายได้ เงินปันผล หรือการพัฒนา นวัตกรรม ที่มีผลต่อตลาดหุ้น

  3. อาจทำให้เกิดความสับสน: นักลงทุนที่ไม่คุ้นเคยกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อาจเข้าใจผิดคิดว่ามูลค่าตลาดเป็นสัญญาณของความผันผวนหรือปริมาณการซื้อขายจริง ในขณะที่แท้จริงแล้ว Gold Market Cap เป็นเพียงตัวชี้วัดมูลค่าระดับมหภาค ไม่ใช่สัญญาณซื้อขาย

  4. ความเสี่ยงในการนับซ้ำ: บางวิธีการอาจนับรวมทองคำทั้งในรูปแบบกายภาพและทองคำในรูปแบบกระดาษ (เช่น ETF หรือตราสารอนุพันธ์) ทำให้ขนาดตลาดดูใหญ่เกินจริง

  5. ผลกระทบจากสกุลเงิน: เนื่องจากทองคำถูกตีราคาด้วยดอลลาร์สหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสามารถทำให้มูลค่าที่มองเห็นในสกุลเงินอื่น เช่น ปอนด์ ยูโร หรือเยน บิดเบือนได้


แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ Gold Market Cap ยังคงเป็นตัวเลขที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายทั้งในสื่อการเงินและงานวิจัยทางเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin ที่มักถูกเรียกว่า “ทองคำดิจิทัล”


สรุป


Gold Market Cap ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของบทบาททางการเงินของทองคำได้อย่างชัดเจน แต่ต้องเข้าใจในบริบทที่เหมาะสม เพราะต่างจากหุ้นของบริษัททองคำไม่ได้ถูกออกหรือซื้อขายในตลาดกลางอย่างเป็นระบบ และส่วนใหญ่ยังถูกเก็บรักษาไว้ในห้องนิรภัยหรือถูกใช้งานในรูปแบบเครื่องประดับ


อย่างไรก็ตาม การเข้าใจที่มาของมูลค่าทองคำ และการเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ระดับโลกอื่น ๆ ช่วยให้นักลงทุนเห็นความสำคัญของทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงและสินทรัพย์ทางการเงินเชิงกลยุทธ์ ตราบใดที่ทองคำยังคงสถานะเป็นทุนสำรองโลกและเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ การติดตามมูลค่าตลาด ทองคำจะยังคงเป็นมุมมองสำคัญที่ช่วยวัดความเชื่อมั่นในระบบเงินตราและโครงสร้างความมั่งคั่งของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

USD/CAD กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน: ระดับ 1.3820 จะเป็นระดับการทะลุแนวรับหรือไม่?

USD/CAD กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน: ระดับ 1.3820 จะเป็นระดับการทะลุแนวรับหรือไม่?

USD/CAD พุ่งขึ้นใกล้เส้น EMA 20 วัน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการเจรจาการค้าส่งผลต่อความรู้สึกของตลาด

2025-06-19
วิธีการเทรดตามกลยุทธ์ Break และ Retest เหมือนมืออาชีพ

วิธีการเทรดตามกลยุทธ์ Break และ Retest เหมือนมืออาชีพ

ต้องการซื้อขายแบบ breakout ให้ประสบความสำเร็จหรือไม่ เรียนรู้วิธีการ breakout และทดสอบซ้ำที่มืออาชีพใช้เพื่อรับการซื้อขายที่มีความน่าจะเป็นสูงพร้อมความเสี่ยงที่ลดลง

2025-06-19
ตัวบ่งชี้ปริมาณตัวใดดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อขาย?

ตัวบ่งชี้ปริมาณตัวใดดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อขาย?

สำรวจตัวบ่งชี้ปริมาณอันทรงพลัง 5 ตัว ได้แก่ OBV, VWAP, A/D Line, CMF และ Volume Profile เพื่อปรับปรุงการยืนยันแนวโน้มและจังหวะเวลาการซื้อขาย

2025-06-19