เทคนิค Sell Put สร้างรายได้จากออปชันแบบนักเทรดมือโปร

2025-06-18
สรุป

เรียนรู้วิธีสร้างรายได้อย่างมั่นคงด้วย Sell Put ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ บทความนี้อธิบายทุกอย่างที่ผู้เริ่มต้นควรรู้ในปี 2025

Sell Put เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมจากนักเทรด เพราะช่วยสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดอยู่ในแนวข้างหรือตลาดขาขึ้น


ต่างจากการซื้อออปชันที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่ความเสี่ยงจำกัด การขาย Sell Put เน้นเก็บค่าเบี้ยประกัน (Premium) เป็นรายได้ โดยมีภาระผูกพันในการซื้อหุ้นในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า


ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่า Sell Put คืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับนักลงทุนที่ชอบรายได้สม่ำเสมอ และวิธีใช้งานกลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2025 และปีต่อ ๆ ไป


Put Option คืออะไร?

Put Option คืออะไร

ก่อนจะพูดถึงกลยุทธ์ เราควรเข้าใจก่อนว่า Sell Put คืออะไร Sell Put คือการขายสิทธิให้คนอื่นได้ขายหุ้นในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาสิทธิ) ภายในเวลาที่กำหนด ผู้ซื้อสิทธิจะมีสิทธิ แต่ไม่จำเป็นต้องขายหุ้นในราคานั้น


ในทางกลับกัน คนที่ขาย Sell Put จะต้องรับซื้อหุ้นในราคาสิทธิ ถ้าผู้ซื้อสิทธิใช้สิทธิ


เพื่อแลกกับภาระนี้ ผู้ขาย Sell Put จะได้รับค่าเบี้ยประกัน (Premium) ล่วงหน้าเป็นกำไรทันที และถ้าราคาหุ้นยังคงสูงกว่าราคาสิทธิตอนหมดอายุ สัญญานี้ก็จะหมดค่า ผู้ขายก็ไม่ต้องซื้อหุ้น แต่ก็ยังได้ค่าเบี้ยประกันเก็บไว้เป็นกำไร


การขาย Sell Put หมายความว่าอย่างไร?

การขาย Sell Put หมายความว่าอย่างไร?

เวลาคุณขาย Sell Put ก็คือการบอกว่า "เราพร้อมจะซื้อหุ้นตัวนี้ในราคาที่กำหนดไว้ และขอรับค่าตอบแทนล่วงหน้าสำหรับความรับผิดชอบนี้"


ถ้าราคาหุ้นยังอยู่สูงกว่าราคาสิทธิตอนหมดอายุ คุณจะได้กำไรจากค่าเบี้ยประกัน (Premium) ที่ได้รับ และไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้น


แต่ถ้าราคาหุ้นตกต่ำกว่าราคาสิทธิ คุณก็จะต้องซื้อหุ้นตามราคาที่ตกลงไว้ ไม่ว่าจะลดลงมากแค่ไหนก็ตาม


นักเทรดและนักลงทุนหลายคนใช้วิธีขาย Sell Put เพื่อสร้างรายได้ประจำจากค่าเบี้ยประกัน โดยกลยุทธ์นี้เรียกว่า "Cash-Secured" คือมีเงินพร้อมพอที่จะซื้อหุ้นถ้าราคาต่ำกว่าราคาสิทธิจริง ๆ


สำหรับนักลงทุนระยะยาว การขาย Sell Put เป็นวิธีที่ดีในการซื้อหุ้นในราคาถูกกว่าปกติ เพราะถ้าคุณตั้งใจจะซื้อหุ้นตัวนั้นอยู่แล้ว Sell Put จะช่วยให้คุณได้หุ้นในราคาที่ต่ำกว่า แถมยังได้รายได้ระหว่างรออีกด้วย


กลไกการขาย Sell Put

กลไกการขาย Sell Put


ขั้นตอนที่ 1: เลือกหุ้น

เลือกหุ้นที่คุณพร้อมจะถือไว้ในพอร์ตของคุณ หุ้นนั้นควรเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และคุณยินดีถือไว้แม้ว่าราคาจะปรับตัวลดลงชั่วคราว


ขั้นตอนที่ 2: กำหนดราคาสิทธิและวันหมดอายุ

ราคาสิทธิ คือ ราคาที่คุณตกลงจะซื้อหุ้น โดยส่วนใหญ่นักเทรดจะเลือกราคาสิทธิที่ต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับการลงทุน


ออปชันมีวันหมดอายุตั้งแต่ไม่กี่วันจนถึงหลายเดือน ออปชันที่หมดอายุเร็ว เช่น ออปชันรายสัปดาห์ จะให้ผลตอบแทนเร็วกว่า ขณะที่ออปชันที่หมดอายุช้ากว่า เช่น รายเดือน หรือ LEAPS (Long-Term Equity Anticipation Securities) มักให้ค่าเบี้ยประกันสูงกว่า


ขั้นตอนที่ 3: ขาย Sell Putและรับค่าเบี้ยประกัน

เมื่อคุณขาย Sell Put คุณจะได้รับค่าเบี้ยประกันทันที ซึ่งเงินนี้เป็นของคุณไม่ว่าจะถูกใช้สิทธิหรือไม่ก็ตาม


ขั้นตอนที่ 4: รอจนถึงวันหมดอายุหรือต้องรับหุ้น

เมื่อถึงวันหมดอายุ จะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี:

  • หากราคาหุ้นยังคงสูงกว่าราคาสิทธิ ออปชันจะหมดอายุโดยไม่มีค่าใด ๆ คุณจะยังได้รับเบี้ยประกันเป็นกำไรอยู่

  • หากราคาหุ้นลดต่ำกว่าราคาสิทธิ คุณจะถูกบังคับให้ซื้อหุ้นในราคาสิทธินั้น


ตัวอย่างในสถานการณ์จริง

สมมติว่าหุ้น Apple (AAPL) กำลังซื้อขายที่ราคา 180 ดอลลาร์ คุณขาย Sell Put ที่ราคาสิทธิ 170 ดอลลาร์ หมดอายุใน 30 วัน ได้รับค่าเบี้ยประกัน 3 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือ 300 ดอลลาร์ต่อสัญญา (แต่ละสัญญาครอบคลุม 100 หุ้น)


สถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น 2 กรณี ได้แก่:

  • หุ้นยังคงสูงกว่า 170 ดอลลาร์: ออปชันหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า คุณยังคงได้รับเงินส่วนต่าง 300 ดอลลาร์เป็นกำไร

  • หุ้นลดลงเหลือ 165 ดอลลาร์: คุณต้องซื้อหุ้นในราคา 170 ดอลลาร์ แต่เมื่อรวมกับค่าเบี้ยประกัน 3 ดอลลาร์แล้ว ต้นทุนที่แท้จริงของคุณคือ 167 ดอลลาร์ ซึ่งยังต่ำกว่าราคาตลาด ช่วยลดการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นได้


3 วิธีเลือก Sell Put ที่ดีที่สุด

1) สภาพคล่อง

เลือกหุ้นหรือ ETF ที่มีสภาพคล่องสูง และมีสเปรดแคบ เพื่อช่วยลดต้นทุนจากการเปลี่ยนแปลงราคาโดยไม่ตั้งใจ (slippage) สถานะคงค้าง (open interest) และปริมาณซื้อขายสูงจะช่วยให้การซื้อขายราบรื่นมากขึ้น


2) ค่าเบี้ยประกัน (Premium) กับความเสี่ยง

ตั้งเป้าเลือก Sell Put ที่มีอัตราค่าเบี้ยประกันต่อความเสี่ยงที่ดี โดยปกติแล้ว Sell Put ที่ราคาสิทธิต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน (out-of-the-money) จะให้สมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เหมาะสม


3) ความผันผวน (Volatility)

ความผันผวนที่สูงขึ้นจะทำให้ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นด้วย ช่วงประกาศผลประกอบการหรือช่วงที่ตลาดไม่แน่นอน มักจะทำให้ความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็หมายถึงความเสี่ยงที่จะถูกบังคับให้รับหุ้นก็เพิ่มตามไปด้วย


4) ระยะเวลา (Time Frame)

Sell Put ระยะสั้น (7–30 วัน) สามารถสร้างผลตอบแทนได้เร็ว ในขณะที่ Sell Put ระยะยาวจะให้ค่าเบี้ยประกันสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงจากการถูกบังคับรับหุ้นมากขึ้น


5) จุดแนวรับทางเทคนิค (Technical Support)

ขาย Sell Put ใกล้ระดับแนวรับที่หุ้นเคยเด้งตัวขึ้นมาในอดีต เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการถูกบังคับให้รับหุ้น


ผลการดำเนินงานในอดีตและการใช้งานโดยนักเทรดมืออาชีพ

ดัชนี CBOE S&P 500 PutWrite

นักเทรดมือโปรและกองทุนเฮดจ์ฟันด์หลายแห่งใช้กลยุทธ์ขาย Sell Put มานาน เพราะเป็นวิธีสร้างรายได้แบบปลอดภัย บางเจ้าถึงขั้นสร้างพอร์ตลงทุนทั้งพอร์ตโดยเน้นขาย Sell Put อย่างเป็นระบบ


ดัชนี CBOE S&P 500 PutWrite Index (PUT) ซึ่งติดตามกลยุทธ์ขาย Sell Put แสดงให้เห็นว่ามีความผันผวนต่ำกว่าดัชนี S&P 500 และให้ผลตอบแทนระยะยาวที่น่าพอใจ


สิ่งนี้ยืนยันว่า หากใช้ Sell Put อย่างถูกวิธี ไม่ใช่แค่การเก็งกำไร แต่เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ที่มั่นคงและได้รับการพิสูจน์ด้วยผลตอบแทนหลายสิบปี


ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

สำหรับมือใหม่ หลายคนมักขาย Sell Put กับหุ้นที่ตัวเองไม่ได้อยากถือจริง ๆ ซึ่งเป็นความผิดพลาดสำคัญ ดังนั้น ควรขาย Sell Put กับหุ้นที่คุณพร้อมจะถือยาว ๆ เท่านั้น


อีกเรื่องคือ อย่าไล่ตามค่าเบี้ยประกันที่สูงเกินไปโดยไม่ดูความเสี่ยง เพราะค่าเบี้ยที่สูงมักมากับความผันผวนที่สูง และความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะตกมากตามไปด้วย


สุดท้าย ควรระวังการใช้มาร์จิ้นมากเกินไป เพราะจะทำให้ขาดทุนหนักขึ้นถ้าตลาดวิ่งสวนทางกับคุณ


สรุป


การขาย Sell Put ยังคงเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างรายได้ในตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบหรือมีแนวโน้มขาขึ้น ในปี 2025 นี้ ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ค่าคอมมิชชั่นถูกลง และมีระบบช่วยเทรด กลยุทธ์นี้จะทำได้ง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น


กลยุทธ์นี้เหมาะกับคนที่ชอบลงทุนแบบระมัดระวังและอยากมีรายได้ประจำ รวมถึงนักเทรดที่ต้องการเปิดรับความผันผวน กุญแจสำคัญคือการเลือกหุ้นที่เหมาะสม วางแผนรับมอบหมายหุ้นอย่างชัดเจน และบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

USD/CAD กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน: ระดับ 1.3820 จะเป็นระดับการทะลุแนวรับหรือไม่?

USD/CAD กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน: ระดับ 1.3820 จะเป็นระดับการทะลุแนวรับหรือไม่?

USD/CAD พุ่งขึ้นใกล้เส้น EMA 20 วัน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการเจรจาการค้าส่งผลต่อความรู้สึกของตลาด

2025-06-19
ตัวบ่งชี้ปริมาณตัวใดดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อขาย?

ตัวบ่งชี้ปริมาณตัวใดดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อขาย?

สำรวจตัวบ่งชี้ปริมาณอันทรงพลัง 5 ตัว ได้แก่ OBV, VWAP, A/D Line, CMF และ Volume Profile เพื่อปรับปรุงการยืนยันแนวโน้มและจังหวะเวลาการซื้อขาย

2025-06-19
วิธีการเทรดตามกลยุทธ์ Break และ Retest เหมือนมืออาชีพ

วิธีการเทรดตามกลยุทธ์ Break และ Retest เหมือนมืออาชีพ

ต้องการซื้อขายแบบ breakout ให้ประสบความสำเร็จหรือไม่ เรียนรู้วิธีการ breakout และทดสอบซ้ำที่มืออาชีพใช้เพื่อรับการซื้อขายที่มีความน่าจะเป็นสูงพร้อมความเสี่ยงที่ลดลง

2025-06-19