SMT Divergence คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ SMC ถึงใช้กัน

2025-06-13
สรุป

คู่มือ SMT Divergence โดยละเอียดที่ครอบคลุมทั้งแนวคิดสำคัญ การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน และตัวอย่างการเทรด เพื่อช่วยให้คุณนำหน้าตลาดได้อย่างมั่นใจ

ในโลกของแนวคิด Smart Money Concepts (SMC) เทคนิคหนึ่งที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในกลุ่มเทรดเดอร์ระดับสูงคือ SMT Divergence หรือ Smart Money Technique Divergence ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดมองเห็นพฤติกรรมของสถาบันการเงินผ่านการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา


บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจหลักการสำคัญของ SMT Divergence รวมถึงวิธีการเทรด ตัวอย่างกราฟ พร้อมกลยุทธ์การเทรดในตลาดต่างๆ


SMT Divergence คืออะไร?

Types of SMT Divergence

SMT Divergence คือสถานการณ์ที่สินทรัพย์สองตัวที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น คู่สกุลเงินหลัก ดัชนี หรือหุ้น มีการเบี่ยงเบนกันระหว่างจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด


กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ สินทรัพย์ตัวหนึ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าเดิม ในขณะที่อีกตัวไม่สามารถทำได้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการกลับตัวของราคา หรือการเคลื่อนไหวที่มาจากสถาบันการเงิน นักเทรดใช้สัญญาณนี้เป็นเบาะแสว่า “เงินทุนระดับสถาบัน” กำลังจัดตำแหน่งล่วงหน้าสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่


แนวคิดนี้มีรากฐานจากการวิเคราะห์ระหว่างตลาด (inter-market analysis) เพื่อจับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของการไหลของเงินทุนที่นักเทรดรายย่อยอาจมองไม่เห็นง่ายๆ


ประเภทของ SMT Divergence

1. Bullish SMT Divergence

เกิดขึ้นเมื่อ:

  • สินทรัพย์ตัวหนึ่งทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิม (lower low)

  • สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องอีกตัวไม่สามารถทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิมได้


สัญญาณนี้บ่งบอกว่าสินทรัพย์ตัวที่สองแสดงความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ และอาจมีการสะสมตำแหน่งโดย “เงินทุนระดับสถาบัน” (smart money)


2. Bearish SMT Divergence

เกิดขึ้นเมื่อ:

  • สินทรัพย์ตัวหนึ่งทำจุดสูงสุดที่สูงกว่าเดิม (higher high)

  • สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องอีกตัวไม่สามารถทำจุดสูงสุดที่สูงกว่าเดิมได้


สัญญาณนี้บ่งบอกว่าสินทรัพย์ตัวที่สองมีความล่าช้า และอาจมีการกระจายตำแหน่ง (distribution) เกิดขึ้น โดย divergence นี้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเกิดใกล้กับโซนสภาพคล่องสำคัญ หรือระดับราคาที่สถาบันการเงินให้ความสนใจ (institutional price levels)


SMT Divergence ทำงานอย่างไร?

SMT Divergence

หลักการพื้นฐาน คือการสังเกตว่าทรัพย์สินสองตัวที่มีความเกี่ยวข้องกันในกรอบเวลาที่ใกล้เคียงกันมีพฤติกรรมอย่างไร หากทั้งสองสินทรัพย์ปกติจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่เริ่มแสดงความแตกต่าง (divergence) อาจเป็นสัญญาณของจุดกลับตัวของราคาได้


ตัวอย่าง :

พิจารณาดัชนี S&P 500 (SPX) และ Nasdaq 100 (NDX) ซึ่งโดยปกติจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน หาก SPX ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ NDX ไม่ทำ แรงซื้อใน SPX อาจไม่ยั่งยืน


ในทางกลับกัน หากคู่สกุลเงิน EUR/USD ทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลง แต่คู่ GBP/USD ไม่ทำเช่นนั้น นักเทรดอาจตีความว่านี่เป็นสัญญาณของโมเมนตัมที่อ่อนแรง และอาจเตรียมตัวสำหรับการกลับตัวเป็นขาขึ้น


กลยุทธ์นี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผสมผสานกับแนวคิดอื่นๆ ของ Smart Money Concepts (SMC) เช่น การเก็บสภาพคล่อง (liquidity grabs), บล็อกคำสั่งซื้อขาย (order blocks) และโซนการบรรเทาความเสี่ยง (mitigation zones)


คู่สกุลเงินยอดนิยมสำหรับการวิเคราะห์ SMT Divergence


  • EUR/USD และ GBP/USD: มีความสัมพันธ์สูง เหมาะสำหรับสัญญาณความแตกต่างในตลาดฟอเร็กซ์

  • SPX และ NDX: มักจะแตกต่างกันก่อนการกลับตัวของแนวโน้มในตลาดหุ้น

  • ทองคำ (XAU/USD) และ เงิน (XAG/USD): โลหะมีค่า มักแสดงความแตกต่างในช่วงจุดกลับตัว

  • USD/JPY และ DXY (ดัชนีดอลลาร์): มีประโยชน์ในการทำความเข้าใจความรู้สึกต่อตลาดดอลลาร์


ตัวอย่างแผนภูมิ


ตัวอย่างที่ 1 : EUR/USD เทียบกับ GBP/USD (Bullish SMT Divergence)

สมมติว่า EUR/USD ทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ GBP/USD ยังยืนที่จุดต่ำสุดเดิม ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการหมดแรงขายของยูโร การกลับตัวขึ้นมักจะเกิดขึ้นตามมา และการยืนยันอาจมาจากบล็อกคำสั่งซื้อแบบขาขึ้น (bullish order block) หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมราคา (CHOCH)


ตัวอย่างที่ 2 : S&P 500 เทียบกับ Nasdaq 100 (Bearish SMT Divergence)

ถ้า SPX ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ NDX ชะลอตัว นั่นอาจหมายถึงตลาดโดยรวมกำลังจะมีการปรับฐาน นักเทรดสถาบันอาจใช้ SPX เป็นกับดักเพื่อดึงให้เทรดเดอร์รายย่อยเปิดสถานะซื้อก่อนที่จะดึงตลาดลง


นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์มาตรฐาน เช่น RSI, เส้นแนวโน้ม และการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อช่วยยืนยันสัญญาณอีกด้วย


วิธีการเทรด SMT Divergence: คำแนะนำทีละขั้นตอน

SMT Divergence Indicator

ขั้นตอนที่ 1: ระบุตลาดสองแห่งที่มีความสัมพันธ์กัน

ใช้สินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์สูง หลีกเลี่ยงคู่สินทรัพย์ที่ไม่สัมพันธ์กัน เพราะการเบี่ยงเบนมีความหมายเฉพาะระหว่างเครื่องมือที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเท่านั้น


ขั้นตอนที่ 2: กำหนดระดับสภาพคล่องสำคัญ

มองหาจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่เท่ากัน หรือโซนอุปทานและอุปสงค์หลักในทั้งสองสินทรัพย์


ขั้นตอนที่ 3: มองหาการเบี่ยงเบน

ถ้าสินทรัพย์ตัวหนึ่งเกิดการทำลายโครงสร้างราคา (break structure) แต่สินทรัพย์อีกตัวไม่เกิด ให้จดบันทึกความแตกต่างนี้ และยืนยันว่าการเบี่ยงเบนนั้นสอดคล้องกับการกวาดสภาพคล่อง (liquidity sweep) หรือแนวคิด smart money หรือไม่


ขั้นตอนที่ 4: รวมกับการยืนยันเพิ่มเติม

รอสัญญาณเพิ่มเติม เช่น:

  • การทำลายโครงสร้างราคา (Break of Structure - BOS)

  • การเปลี่ยนแปลงลักษณะราคา (Change of Character - CHOCH)

  • การเข้าซื้อขายภายในโซนออร์เดอร์บล็อก หรือช่องว่างมูลค่ายุติธรรม (Fair Value Gap - FVG)


ขั้นตอนที่ 5: เปิดออร์เดอร์พร้อมจัดการความเสี่ยง

เปิดออร์เดอร์ในทิศทางของการเบี่ยงเบนและสัญญาณยืนยัน ตั้งจุดหยุดขาดทุน (stop loss) ไว้นอกจุดสวิงล่าสุด และตั้งเป้าหมายที่สภาพคล่องถัดไป (liquidity pool)


การใช้ SMT Divergence ในการเทรด Forex

เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์มักใช้ SMT Divergence ระหว่างคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD กับ GBP/USD หรือ USD/JPY กับ DXY


ตัวอย่างสถานการณ์ทั่วไป:

  • EUR/USD ทำจุดต่ำสุดใหม่ต่ำกว่าเดิม (lower low)

  • GBP/USD ยังคงรักษาระดับต่ำสุดเดิมไว้ได้ (holds its ground)

  • DXY แสดงการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว (spike)

การตั้งค่านี้มักจะเกิดขึ้นก่อนการกลับตัวขึ้น (bullish reversal) ของทั้งสองคู่สกุลเงิน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือของ smart money


SMT Divergence ในการเทรดดัชนีหุ้น

ในโลกของหุ้น ความแตกต่างของการเคลื่อนไหวระหว่างดัชนี SPX และ NDX เป็นที่นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีรายงานผลประกอบการหรือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งการเกิด divergence ที่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของสวิง จะช่วยบ่งชี้ว่าเงินสถาบันกำลังไหลไปทางใด


ตัวอย่างเช่น:

  • SPX ทำจุดสูงสุดใหม่หลังข่าวออกมา

  • NDX ชะลอและไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้

  • ในช่วงเซสชันถัดไป ทั้งสองเริ่มปรับตัวลดลง


สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเป็นไปได้ของการขายจากสถาบันลงทุน


ประโยชน์และความเสี่ยงของ SMT Divergence

ประโยชน์ ความเสี่ยง/ความท้าทาย
ให้สัญญาณล่วงหน้าของการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น อาจให้สัญญาณผิดพลาดได้หากไม่มีการยืนยันร่วม
ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเทรดด้วยข้อมูลข้ามตลาด ต้องติดตามกราฟสองตัวพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง
ช่วยระบุโซนที่สถาบันซื้อขายอยู่ ไม่เหมาะกับสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ต่ำ
ใช้ได้กับตลาดฟอเร็กซ์ ดัชนีโลหะมีค่า และคริปโต สัญญาณรบกวนในกรอบเวลาต่ำอาจทำให้เกิดความสับสน
ช่วยปรับจังหวะการเข้าออกเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือ SMC ต้องฝึกฝนและทดสอบย้อนหลังเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ


บทสรุป


สรุปแล้ว SMT Divergence คือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเมื่อผนวกเข้ากับกลยุทธ์การเทรดแบบ Smart Money Concept โดยการสังเกตความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กัน ช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกตลาดได้อย่างแม่นยำ


แม้ว่าจะต้องใช้การสังเกตอย่างละเอียด แต่ผลตอบแทนที่ได้จากการผสมผสาน SMT Divergence กับสัญญาณที่มีความน่าจะเป็นสูงอื่น ๆ นั้นสามารถมีความคุ้มค่าสูงมาก


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ


คำอธิบายรูปแบบ Gartley: คำแนะนำสำหรับการตั้งค่าอันทรงพลังนี้

คำอธิบายรูปแบบ Gartley: คำแนะนำสำหรับการตั้งค่าอันทรงพลังนี้

เรียนรู้วิธีการทำงานของรูปแบบ Gartley โครงสร้าง Fibonacci และเหตุใดจึงเป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้ในการระบุการกลับตัวของตลาดที่อาจเกิดขึ้น

2025-06-16
สกุลเงินใดที่ต่ำที่สุดในแอฟริกา? อันดับ 10 อันดับแรก

สกุลเงินใดที่ต่ำที่สุดในแอฟริกา? อันดับ 10 อันดับแรก

ค้นพบสกุลเงินที่ต่ำที่สุดในแอฟริกาในปี 2568 สำรวจสกุลเงินแอฟริกาที่อ่อนค่าที่สุด 10 อันดับแรกและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังมูลค่าที่ลดลง

2025-06-16
Russell 2000 ETF: วิธีเทรดหุ้นเล็กอย่างชาญฉลาด

Russell 2000 ETF: วิธีเทรดหุ้นเล็กอย่างชาญฉลาด

Russell 2000 ETF คืออะไร?ติดตามหุ้นอะไรบ้าง จุดเด่นของกองทุน รวมถึงความเสี่ยงที่ต้องเจอ หากเลือกลงทุนในกองทุน ETF

2025-06-16