คู่มือ SMT Divergence โดยละเอียดที่ครอบคลุมทั้งแนวคิดสำคัญ การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน และตัวอย่างการเทรด เพื่อช่วยให้คุณนำหน้าตลาดได้อย่างมั่นใจ
ในโลกของแนวคิด Smart Money Concepts (SMC) เทคนิคหนึ่งที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในกลุ่มเทรดเดอร์ระดับสูงคือ SMT Divergence หรือ Smart Money Technique Divergence ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดมองเห็นพฤติกรรมของสถาบันการเงินผ่านการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา
บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจหลักการสำคัญของ SMT Divergence รวมถึงวิธีการเทรด ตัวอย่างกราฟ พร้อมกลยุทธ์การเทรดในตลาดต่างๆ
SMT Divergence คือสถานการณ์ที่สินทรัพย์สองตัวที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น คู่สกุลเงินหลัก ดัชนี หรือหุ้น มีการเบี่ยงเบนกันระหว่างจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด
กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ สินทรัพย์ตัวหนึ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าเดิม ในขณะที่อีกตัวไม่สามารถทำได้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการกลับตัวของราคา หรือการเคลื่อนไหวที่มาจากสถาบันการเงิน นักเทรดใช้สัญญาณนี้เป็นเบาะแสว่า “เงินทุนระดับสถาบัน” กำลังจัดตำแหน่งล่วงหน้าสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
แนวคิดนี้มีรากฐานจากการวิเคราะห์ระหว่างตลาด (inter-market analysis) เพื่อจับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของการไหลของเงินทุนที่นักเทรดรายย่อยอาจมองไม่เห็นง่ายๆ
ประเภทของ SMT Divergence
1. Bullish SMT Divergence
เกิดขึ้นเมื่อ:
สินทรัพย์ตัวหนึ่งทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิม (lower low)
สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องอีกตัวไม่สามารถทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิมได้
สัญญาณนี้บ่งบอกว่าสินทรัพย์ตัวที่สองแสดงความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ และอาจมีการสะสมตำแหน่งโดย “เงินทุนระดับสถาบัน” (smart money)
2. Bearish SMT Divergence
เกิดขึ้นเมื่อ:
สินทรัพย์ตัวหนึ่งทำจุดสูงสุดที่สูงกว่าเดิม (higher high)
สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องอีกตัวไม่สามารถทำจุดสูงสุดที่สูงกว่าเดิมได้
สัญญาณนี้บ่งบอกว่าสินทรัพย์ตัวที่สองมีความล่าช้า และอาจมีการกระจายตำแหน่ง (distribution) เกิดขึ้น โดย divergence นี้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเกิดใกล้กับโซนสภาพคล่องสำคัญ หรือระดับราคาที่สถาบันการเงินให้ความสนใจ (institutional price levels)
หลักการพื้นฐาน คือการสังเกตว่าทรัพย์สินสองตัวที่มีความเกี่ยวข้องกันในกรอบเวลาที่ใกล้เคียงกันมีพฤติกรรมอย่างไร หากทั้งสองสินทรัพย์ปกติจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่เริ่มแสดงความแตกต่าง (divergence) อาจเป็นสัญญาณของจุดกลับตัวของราคาได้
ตัวอย่าง :
พิจารณาดัชนี S&P 500 (SPX) และ Nasdaq 100 (NDX) ซึ่งโดยปกติจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน หาก SPX ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ NDX ไม่ทำ แรงซื้อใน SPX อาจไม่ยั่งยืน
ในทางกลับกัน หากคู่สกุลเงิน EUR/USD ทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลง แต่คู่ GBP/USD ไม่ทำเช่นนั้น นักเทรดอาจตีความว่านี่เป็นสัญญาณของโมเมนตัมที่อ่อนแรง และอาจเตรียมตัวสำหรับการกลับตัวเป็นขาขึ้น
กลยุทธ์นี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผสมผสานกับแนวคิดอื่นๆ ของ Smart Money Concepts (SMC) เช่น การเก็บสภาพคล่อง (liquidity grabs), บล็อกคำสั่งซื้อขาย (order blocks) และโซนการบรรเทาความเสี่ยง (mitigation zones)
คู่สกุลเงินยอดนิยมสำหรับการวิเคราะห์ SMT Divergence
EUR/USD และ GBP/USD: มีความสัมพันธ์สูง เหมาะสำหรับสัญญาณความแตกต่างในตลาดฟอเร็กซ์
SPX และ NDX: มักจะแตกต่างกันก่อนการกลับตัวของแนวโน้มในตลาดหุ้น
ทองคำ (XAU/USD) และ เงิน (XAG/USD): โลหะมีค่า มักแสดงความแตกต่างในช่วงจุดกลับตัว
USD/JPY และ DXY (ดัชนีดอลลาร์): มีประโยชน์ในการทำความเข้าใจความรู้สึกต่อตลาดดอลลาร์
ตัวอย่างแผนภูมิ
ตัวอย่างที่ 1 : EUR/USD เทียบกับ GBP/USD (Bullish SMT Divergence)
สมมติว่า EUR/USD ทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ GBP/USD ยังยืนที่จุดต่ำสุดเดิม ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการหมดแรงขายของยูโร การกลับตัวขึ้นมักจะเกิดขึ้นตามมา และการยืนยันอาจมาจากบล็อกคำสั่งซื้อแบบขาขึ้น (bullish order block) หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมราคา (CHOCH)
ตัวอย่างที่ 2 : S&P 500 เทียบกับ Nasdaq 100 (Bearish SMT Divergence)
ถ้า SPX ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ NDX ชะลอตัว นั่นอาจหมายถึงตลาดโดยรวมกำลังจะมีการปรับฐาน นักเทรดสถาบันอาจใช้ SPX เป็นกับดักเพื่อดึงให้เทรดเดอร์รายย่อยเปิดสถานะซื้อก่อนที่จะดึงตลาดลง
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์มาตรฐาน เช่น RSI, เส้นแนวโน้ม และการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อช่วยยืนยันสัญญาณอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 1: ระบุตลาดสองแห่งที่มีความสัมพันธ์กัน
ใช้สินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์สูง หลีกเลี่ยงคู่สินทรัพย์ที่ไม่สัมพันธ์กัน เพราะการเบี่ยงเบนมีความหมายเฉพาะระหว่างเครื่องมือที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดระดับสภาพคล่องสำคัญ
มองหาจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่เท่ากัน หรือโซนอุปทานและอุปสงค์หลักในทั้งสองสินทรัพย์
ขั้นตอนที่ 3: มองหาการเบี่ยงเบน
ถ้าสินทรัพย์ตัวหนึ่งเกิดการทำลายโครงสร้างราคา (break structure) แต่สินทรัพย์อีกตัวไม่เกิด ให้จดบันทึกความแตกต่างนี้ และยืนยันว่าการเบี่ยงเบนนั้นสอดคล้องกับการกวาดสภาพคล่อง (liquidity sweep) หรือแนวคิด smart money หรือไม่
ขั้นตอนที่ 4: รวมกับการยืนยันเพิ่มเติม
รอสัญญาณเพิ่มเติม เช่น:
การทำลายโครงสร้างราคา (Break of Structure - BOS)
การเปลี่ยนแปลงลักษณะราคา (Change of Character - CHOCH)
การเข้าซื้อขายภายในโซนออร์เดอร์บล็อก หรือช่องว่างมูลค่ายุติธรรม (Fair Value Gap - FVG)
ขั้นตอนที่ 5: เปิดออร์เดอร์พร้อมจัดการความเสี่ยง
เปิดออร์เดอร์ในทิศทางของการเบี่ยงเบนและสัญญาณยืนยัน ตั้งจุดหยุดขาดทุน (stop loss) ไว้นอกจุดสวิงล่าสุด และตั้งเป้าหมายที่สภาพคล่องถัดไป (liquidity pool)
การใช้ SMT Divergence ในการเทรด Forex
เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์มักใช้ SMT Divergence ระหว่างคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD กับ GBP/USD หรือ USD/JPY กับ DXY
ตัวอย่างสถานการณ์ทั่วไป:
EUR/USD ทำจุดต่ำสุดใหม่ต่ำกว่าเดิม (lower low)
GBP/USD ยังคงรักษาระดับต่ำสุดเดิมไว้ได้ (holds its ground)
DXY แสดงการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว (spike)
การตั้งค่านี้มักจะเกิดขึ้นก่อนการกลับตัวขึ้น (bullish reversal) ของทั้งสองคู่สกุลเงิน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือของ smart money
SMT Divergence ในการเทรดดัชนีหุ้น
ในโลกของหุ้น ความแตกต่างของการเคลื่อนไหวระหว่างดัชนี SPX และ NDX เป็นที่นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีรายงานผลประกอบการหรือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งการเกิด divergence ที่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของสวิง จะช่วยบ่งชี้ว่าเงินสถาบันกำลังไหลไปทางใด
ตัวอย่างเช่น:
SPX ทำจุดสูงสุดใหม่หลังข่าวออกมา
NDX ชะลอและไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้
ในช่วงเซสชันถัดไป ทั้งสองเริ่มปรับตัวลดลง
สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเป็นไปได้ของการขายจากสถาบันลงทุน
ประโยชน์ | ความเสี่ยง/ความท้าทาย |
---|---|
ให้สัญญาณล่วงหน้าของการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น | อาจให้สัญญาณผิดพลาดได้หากไม่มีการยืนยันร่วม |
ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเทรดด้วยข้อมูลข้ามตลาด | ต้องติดตามกราฟสองตัวพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง |
ช่วยระบุโซนที่สถาบันซื้อขายอยู่ | ไม่เหมาะกับสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ต่ำ |
ใช้ได้กับตลาดฟอเร็กซ์ ดัชนีโลหะมีค่า และคริปโต | สัญญาณรบกวนในกรอบเวลาต่ำอาจทำให้เกิดความสับสน |
ช่วยปรับจังหวะการเข้าออกเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือ SMC | ต้องฝึกฝนและทดสอบย้อนหลังเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ |
สรุปแล้ว SMT Divergence คือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเมื่อผนวกเข้ากับกลยุทธ์การเทรดแบบ Smart Money Concept โดยการสังเกตความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กัน ช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกตลาดได้อย่างแม่นยำ
แม้ว่าจะต้องใช้การสังเกตอย่างละเอียด แต่ผลตอบแทนที่ได้จากการผสมผสาน SMT Divergence กับสัญญาณที่มีความน่าจะเป็นสูงอื่น ๆ นั้นสามารถมีความคุ้มค่าสูงมาก
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีการทำงานของรูปแบบ Gartley โครงสร้าง Fibonacci และเหตุใดจึงเป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้ในการระบุการกลับตัวของตลาดที่อาจเกิดขึ้น
2025-06-16ค้นพบสกุลเงินที่ต่ำที่สุดในแอฟริกาในปี 2568 สำรวจสกุลเงินแอฟริกาที่อ่อนค่าที่สุด 10 อันดับแรกและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังมูลค่าที่ลดลง
2025-06-16Russell 2000 ETF คืออะไร?ติดตามหุ้นอะไรบ้าง จุดเด่นของกองทุน รวมถึงความเสี่ยงที่ต้องเจอ หากเลือกลงทุนในกองทุน ETF
2025-06-16