10 อันดับแรกที่มีค่าเงินถูกที่สุดในแอฟริกา

สกุลเงินในแอฟริกามีมูลค่าหลากหลาย บางสกุลเงินถือเป็นสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ขณะที่บางสกุลเงินอยู่ในกลุ่มที่อ่อนค่าที่สุด ณ เดือนมิถุนายน 2025 สกุลเลโอนของเซียร์ราลีโอน เป็นสกุลเงินที่มีค่าเงินถูกที่สุดในทวีปนี้

การเข้าใจถึงค่างินที่อ่อนที่สุดไม่ได้สำคัญเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เข้าใจภาพรวมทางเศรษฐกิจอีกด้วย บทความนี้จะพาไปสำรวจ 10 สกุลเงินแอฟริกาที่อ่อนค่าที่สุด อธิบายถึงมูลค่า วิเคราะห์สาเหตุเบื้องหลัง และพูดถึงผลกระทบต่อประชาชนและนักลงทุน

10 อันดับ ค่าเงินถูกที่สุดในแอฟริกา

1) สกุลเงินเลโอน เซียร์ราลีโอน (SLE)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 22,900 SLE

แม้จะมีการปรับสกุลเงินใหม่ในปี 2022 แต่เลโอนยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเชิงลบ ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อ สถาบันที่อ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการขาดความหลากหลายในการส่งออก โดยส่วนใหญ่พึ่งพาเพียงแร่ธาตุ ส่งผลให้สกุลเงินนี้อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก

2) สกุลโดบราของเซาโตเมและปรินซิปี (STD)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 21.381 STD

โดบร้า มีค่าเงินอ่อนค่าที่อันดับสองในแอฟริกา เนื่องจากเศรษฐกิจขนาดเล็กและพึ่งพาการนำเข้าอย่างสูงของประเทศนี้ ซึ่งมีรายได้จากการส่งออกจำกัด การมีสำรองเงินตราต่างประเทศต่ำและการพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างมากทำให้สกุลเงินโดบร้าเปราะบางอย่างยิ่ง

3) ฟรังก์กินี (GNF)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 8,660 GNF

เศรษฐกิจของกินี พึ่งพาการทำเหมืองโดยเฉพาะบอกไซต์ แต่ปัญหาการทุจริต เงินเฟ้อ และความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้ฟรังก์มีความผันผวนสูง ความไม่แน่นอนในการลงทุนและการขาดความหลากหลายทางอุตสาหกรรมยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์นี้

4) อาเรียรี มาดากัสการ์ (MGA)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ถึง 4,502 MGA

สกุลเงินอาเรียรีของมาดากัสการ์ ประสบปัญหาเนื่องจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อปัจจัยทางภูมิอากาศ รวมถึงความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และโครงสร้างพื้นฐานที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ประเทศจึงประสบปัญหาในการสร้างรายได้จากการส่งออกเพียงพอที่จะสนับสนุนสกุลเงินนี้

5) เชลลิงยูกันดา (UGX)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 3,600 UGX

แม้จะมีความมั่นคงมากกว่าสกุลเงินเพื่อนบ้านบางประเทศ แต่เชลลิงยังอ่อนค่าจากการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง การพึ่งพาสินค้านำเข้าเป็นหลัก และเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยช็อกภายนอกสามารถทำให้สกุลเงินนี้อ่อนค่าลงได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากสำรองเงินตราต่างประเทศมีจำกัด

6) ฟรังก์บุรุนดี (BIF)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 2,976 BIF

ฟรังก์บุรุนดี พังทลายลงอย่างหนักจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ความไม่มั่นคงทางการเมือง การถูกคว่ำบาตร และการพึ่งพาภาคเกษตรกรรมเกือบทั้งหมด ในปี 2024 อัตราเงินเฟ้อพุ่งใกล้ 40% ส่งผลให้สกุลเงินอ่อนค่าลงหนักและเศรษฐกิจเผชิญความยากลำบากอย่างมาก

7) ฟรังก์คองโก (CDF)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 2,900 CDF

ฟรังก์คองโก ประสบปัญหาอย่างหนักจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ การบริหารที่อ่อนแอ และการพึ่งพาการส่งออกเหมืองแร่เกินไป โครงสร้างพื้นฐานที่ขาดแคลน การบริหารจัดการทางการเงินที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง และความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่ำ ทำให้สกุลเงินนี้อ่อนค่ามานานหลายปี

8) ชิลลิงแทนซาเนีย (TZS)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 2,587 TZS

แม้จะมีเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมั่นคง แต่เชลลิงยังอ่อนค่าจากปัจจัยเงินเฟ้อ การขาดความหลากหลายในการส่งออก และการพึ่งพาการนำเข้าสูง ปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่มีอยู่จำกัดความสามารถของเชลลิงในการแข็งค่าต่อดอลลาร์

9) ควาชาของมาลาวี (MWK)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 1,730 MWK

ควาชาสูญเสียมูลค่าเกือบ 40% ในปี 2024 หลังจากที่มาลาวีปรับลดค่าเงินเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์เงินตราต่างประเทศ เศรษฐกิจของประเทศพึ่งพาการส่งออกใบยาสูบอย่างหนัก ภัยแล้งซ้ำซาก เงินเฟ้อ และหนี้ต่างประเทศเป็นปัจจัยกดดันทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลง

10) ไนราไนจีเรีย (NGN)

• อัตราแลกเปลี่ยน : 1 USD ต่อ 1,548 NGN

ไนรา เผชิญกับการลดค่ารุนแรงเนื่องจากรายได้จากน้ำมันที่ลดลง นโยบายการเงินที่ไม่สม่ำเสมอ เงินเฟ้อสูง และการขาดแคลนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ความพยายามปฏิรูปสกุลเงินและความแตกต่างของตลาดคู่ขนานยังคงทำให้ไนราไม่เสถียร

ทำไมสกุลเงินเหล่านี้จึงอ่อนค่า?

1. ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อที่สูงทำให้กำลังซื้อในประเทศลดลง ส่งผลให้ธนาคารกลางต้องพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งมักไม่ได้ผล ตัวอย่างเช่น เบรูนดีที่เงินเฟ้อใกล้แตะ 38% แสดงให้เห็นถึงวงจรนี้อย่างชัดเจน

2. ความวุ่นวายทางการเมืองและความขัดแย้ง

ประเทศอย่างเซียร์ราลีโอน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และกินีเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมืองและความขัดแย้ง ส่งผลให้การลงทุนลดลงและทำให้สกุลเงินไม่มั่นคง

3. การพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์

หลายเศรษฐกิจในแอฟริกาพึ่งพาการส่งออกสินค้าหลักเพียงไม่กี่ชนิด เช่น แร่ธาตุ ใบยาสูบ และน้ำมัน ซึ่งมีความผันผวนของราคาสูง มาลาวี (ใบยาสูบ) และไนจีเรีย (น้ำมัน) เป็นตัวอย่างชัดเจน

4. สำรองการค้าและการเงินอ่อนแอ

การขาดดุลการค้าที่ยืดเยื้อทำให้ความต้องการเงินตราต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สำรองเงินตราต่างประเทศที่จำกัด เช่น ในเบรูนดีและมาดากัสการ์ ทำให้การรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินท้องถิ่นทำได้ยากขึ้น

แนวโน้มปี 2025: ความหวังท่ามกลางความอ่อนแอ

แม้ภาพรวมจะยังอ่อนแอ แต่บางประเทศแสดงสัญญาณของความมั่นคงหรือการฟื้นตัวในระดับปานกลาง:

• ค่าเงิน Naira ของไนจีเรียเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีขึ้นและการปฏิรูปนโยบาย

• ค่าเงินชิลลิงยูกันดามีเสถียรภาพ (อยู่ในช่วง 3,640–3,660) เนื่องจากการส่งออกที่มั่นคงและความต้องการนำเข้าที่จำกัด

ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่านโยบายเศรษฐกิจมหภาค การปฏิรูป หรือรายได้จากการส่งออกที่มั่นคง สามารถช่วยลดวิกฤตสกุลเงินแม้ในประเทศที่เศรษฐกิจยังล่าช้าได้

บทสรุป

โดยสรุปแล้ว สกุลเงินเลโอน เซียร์ราลีโอน เป็นสกุลที่มีค่าเงินถูกที่สุดในแอฟริกา รองลงมาคือ โดบราของเซาตูเมและปรีนซิเป รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจโครงสร้าง สาเหตุหลักที่ส่งผล ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ ความไม่มั่นคงทางการเมือง การพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์ และรายได้จากการค้าที่ยังอ่อนแอ

แม้ว่าบางประเทศ เช่น ไนจีเรียและยูกันดา จะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง แต่ส่วนใหญ่ยังคงเปราะบางต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจอย่างมากอยู่ดี

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ