หุ้นสหรัฐที่ให้ปันผลทุกเดือนมีอะไรบ้าง?ค้นหาคำตอบในปี 2025

2025-03-25
สรุป

ค้นพบหุ้นสหรัฐ ปันผลทุกเดือนดาวเด่นปี 2025 พร้อมข้อมูลการเติบโตทางธุรกิจและอัตราปันผลสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ

การลงทุนในหุ้นสหรัฐที่จ่ายปันผลทุกเดือนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน หุ้นปันผลไม่เพียงแต่ให้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล แต่ยังมีโอกาสเติบโตจากมูลค่าหุ้นอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 หุ้นสหรัฐ ปันผลทุกเดือน ที่มีศักยภาพในการเติบโตและอัตราเงินปันผลสูง

ธงชาติสหรัฐ - EBC

1. Phillip Morris International (PM)

Phillip Morris International เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยาสูบและผลิตภัณฑ์นิโคตินที่มีความเสี่ยงลดลง แม้ว่าผลิตภัณฑ์ยาสูบจะเป็นมรดกดั้งเดิมของบริษัท แต่ Phillip Morris ยังคงปรับตัวด้วยการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีรายได้เติบโตมากกว่า 6% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า


ราคาปัจจุบัน: 125.81 USD

ผลตอบแทนปีนี้ (YTD): 31.66%

อัตราเงินปันผล (Dividend Yield): 4.22%

การเติบโตของรายได้ (Revenue CAGR 5 ปี): 4%


2. United Parcel Services (UPS)

UPS เป็นบริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก ที่ให้บริการจัดส่งพัสดุและจดหมายทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ ด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและความต้องการบริการจัดส่งที่เพิ่มขึ้น UPS จึงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง


ราคาปัจจุบัน: 92.25 USD

ผลตอบแทนปีนี้ (YTD): -3.65%

อัตราเงินปันผล (Dividend Yield): 4.75%

การเติบโตของรายได้ (Revenue CAGR 5 ปี): 7%


3. CVS Health Group (CVS)

CVS Health เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพที่ดำเนินกิจการร้านขายยาและบริการประกันสุขภาพในสหรัฐอเมริกา ด้วยเครือข่ายร้านขายยากว่า 10,000 แห่ง CVS จึงเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมสุขภาพที่มีความมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง


ราคาปัจจุบัน: 220.50 USD

ผลตอบแทนปีนี้ (YTD): 5.39%

อัตราเงินปันผล (Dividend Yield): 4.5%

การเติบโตของรายได้ (Revenue CAGR 5 ปี): 5%


4. CME Group (CME)

CME Group เป็นตลาดซื้อขายอนุพันธ์และศูนย์การชำระบัญชีชั้นนำของโลก บริษัทให้บริการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชันในตลาดที่หลากหลาย เช่น สินค้าเกษตร พลังงาน และสกุลเงิน ด้วยความเชี่ยวชาญในตลาดอนุพันธ์ CME จึงมีรายได้ที่มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง


ราคาปัจจุบัน: 57.75 USD

ผลตอบแทนปีนี้ (YTD): -28.57%

อัตราเงินปันผล (Dividend Yield): 4.59%

การเติบโตของรายได้ (Revenue CAGR 5 ปี): 10%


5. PACCAR Inc (PCAR)

PACCAR เป็นบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกเชิงพาณิชย์และชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำของโลก โดยจำหน่ายภายใต้แบรนด์ดังอย่าง Kenworth, Peterbilt และ DAF ด้วยความแข็งแกร่งในตลาดรถบรรทุก PACCAR จึงมีศักยภาพในการเติบโตและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน


ราคาปัจจุบัน: 127.54 USD

ผลตอบแทนปีนี้ (YTD): -19.54%

อัตราเงินปันผล (Dividend Yield): 5.12%

การเติบโตของรายได้ (Revenue CAGR 5 ปี): 4%


หุ้นสหรัฐที่น่าสนใจอื่นๆ ทีให้ปันผลดี

1. ExxonMobil: หุ้นปันผลพลังงาน

ExxonMobil (XOM) เป็นอีกหนึ่งหุ้นเก่าแก่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับเข้ามาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้มีแนวคิดหนุนพลังงานฟอสซิล โดย XOM ได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar ที่ 4 ดาว โดยมีการให้คะแนนเศรษฐกิจของบริษัทในระดับ "Narrow" ซึ่งหมายความว่าบริษัทมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ค่อนข้างจำกัด และมีการให้คะแนนความไม่แน่นอนในระดับ "High" ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงที่สูงในอนาคต บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากปันผลที่ 3.60% และอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหุ้นปันผลที่ดีที่สุดในการลงทุน


ต่างจากคู่แข่งที่เริ่มหันมาลงทุนในพลังงานทดแทนเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนระยะยาว ExxonMobil ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในน้ำมันและก๊าซ ซึ่งตามคำอธิบายของ Allen Good ผู้กำกับ Morningstar การตัดสินใจนี้อาจไม่เป็นที่ชื่นชอบจากนักลงทุนที่มีแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็มีความเสี่ยงน้อยกว่าและอาจประสบความสำเร็จได้มากกว่าในระยะยาว


ExxonMobil ยังได้รับการยกย่องเป็น "Dividend Aristocrat" ซึ่งหมายความว่าเป็นบริษัทที่เพิ่มปันผลติดต่อกันมานานกว่า 25 ปีแล้ว ซึ่งทำให้บริษัทนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการจ่ายปันผลที่มั่นคง ขณะนี้ราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 20% ต่ำกว่ามูลค่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 135 USD ต่อหุ้น


2. Merck: หุ้นปันผลสุขภาพ

Merck (MRK) เป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยา ซึ่งได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar ที่ 4 ดาว และได้รับการประเมินความสามารถในการแข่งขันในระดับ "Wide" ซึ่งแสดงถึงข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่มีขอบเขตกว้าง รวมถึงมีการให้คะแนนความไม่แน่นอนในระดับ "Medium" ซึ่งหมายความว่าความเสี่ยงของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากปันผลที่ 3.35%


หลังจากที่ Merck ประกาศยอดขายของ Gardasil ลดลง ราคาหุ้นของบริษัทจึงลดลงตามไปด้วยและ Morningstar ได้ลดมูลค่าหุ้นของบริษัทลง 7.5% แต่ถึงอย่างนั้น หุ้นของ Merck ยังคงมีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้หุ้นนี้ยังคงถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและความเสี่ยงต่ำ และมีแนวโน้มที่จะจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการจ่ายปันผลที่ใกล้เคียงกับ 50% ของกำไรที่ปรับแล้วต่อหุ้น


3. Lockheed Martin: หุ้นปันผลอุตสาหกรรมอาวุธและอวกาศ

Lockheed Martin (LMT) ได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar ที่ 4 ดาว โดยมีการประเมินข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจในระดับ "Wide" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรม โดยบริษัทได้รับการประเมินความไม่แน่นอนในระดับ "Medium" ซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงปานกลาง บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากปันผลที่ 2.85% และอยู่ในอุตสาหกรรมการป้องกันและอวกาศ


Lockheed Martin ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจสูงสุดในรายการหุ้นปันผลที่ดีที่สุดของเดือนนี้ นักวิเคราะห์จาก Morningstar, Nicolas Owens ระบุว่า “Lockheed เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่และประสบความสำเร็จจากการมีสัญญาหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งให้รายได้และกำไรที่มั่นคงในระยะยาว” ด้วยการบริหารจัดการงบประมาณที่ระมัดระวัง รูปแบบธุรกิจที่มั่นคง และประวัติการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง บริษัทนี้จึงมีแนวโน้มที่จะรักษานโยบายการจ่ายปันผลไว้ต่อไป เราคิดว่าหุ้นนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 530 USD แต่ปัจจุบันหุ้นเทรดต่ำกว่ามูลค่าที่คาดไว้ถึง 15%


4. Mondelez International: หุ้นปันผลจากอุตสาหกรรมอาหาร

Mondelez International (MDLZ) ได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar ที่ 4 ดาว โดยมีการประเมินข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจในระดับ "Wide" ซึ่งหมายถึงบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมขนมหวาน โดยมีการให้คะแนนความไม่แน่นอนในระดับ "Low" ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงที่ต่ำ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากปันผลที่ 2.72%


Mondelez International เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยมในปีนี้ในกลุ่มหุ้นปันผลที่ดีที่สุดของเรา บริษัทมีแบรนด์ดังๆ เช่น Oreo, Chips Ahoy, Halls และ Cadbury ซึ่งทำให้บริษัทนี้มีข้อได้เปรียบในด้านเศรษฐกิจที่กว้าง นักวิเคราะห์จาก Morningstar, Erin Lash ระบุว่า “Mondelez มีความมุ่งมั่นในการลดความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจ โดยการลดฐานซัพพลายเออร์ออกจากธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และยังคงปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตอย่างต่อเนื่อง”คาดว่า Mondelez จะเพิ่มปันผลในช่วง 7-8% ต่อปีจนถึงปี 2033 นักวิเคราะห์มองว่าหุ้นนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 75 USD และปัจจุบันหุ้นเทรดต่ำกว่ามูลค่าที่คาดไว้ถึง 12%


สรุปแล้ว การลงทุนในหุ้นสหรัฐ ปันผลทุกเดือน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้สม่ำเสมอและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด หุ้นทั้ง 5 ตัวที่แนะนำในบทความนี้ล้วนมีศักยภาพในการเติบโตและอัตราเงินปันผลที่สูง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อนตัดสินใจลงทุน


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

Slippage เกราะกันขาดทุน Forex ที่เทรดเดอร์ควรรู้

Slippage เกราะกันขาดทุน Forex ที่เทรดเดอร์ควรรู้

Slippage คืออะไรในตลาด Forex? รู้จักสาเหตุ วิธีป้องกัน และเทคนิคจัดการ Slippage เชิงบวก–ลบ เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสทำกำไรอย่างมืออาชีพ

2025-04-19
คำอธิบายกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น

คำอธิบายกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น

สำรวจแนวคิดสำคัญและกลยุทธ์การซื้อขายฟิวเจอร์สสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณ

2025-04-18
เส้นการกระจายการสะสม: การวิเคราะห์การไหลของเงิน

เส้นการกระจายการสะสม: การวิเคราะห์การไหลของเงิน

Accumulation Distribution Line ติดตามแรงกดดันในการซื้อและการขายโดยการรวมราคาและปริมาณเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ซื้อขายยืนยันแนวโน้มและค้นหาจุดกลับตัว

2025-04-18