หุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากขึ้น ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้นอาจทำให้กองทุนย้ายจากยุโรปมาที่สหรัฐฯ
หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่การลงจอดอย่างนุ่มนวล ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางอาจกระตุ้นให้มีการจัดสรรเงินทุนออกจากยุโรปและเข้าสู่สหรัฐฯ
Morgan Stanley แสดงความเห็นต่อหุ้นที่เรียกว่าหุ้นวัฏจักร เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มรับความเสี่ยงที่ปลอดภัยกว่า โดยตั้งข้อสังเกตถึงข้อมูลการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในวันศุกร์ และความคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก
โกลด์แมนแซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของรายได้ของดัชนี S&P 500 ในปีหน้า เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งช่วยผลักดันอัตรากำไร นักยุทธศาสตร์ของธนาคารได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย 12 เดือนของดัชนีอ้างอิงเป็น 6,300 จุดจาก 6,000 จุด
ข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg Intelligence คาดว่าบริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานการเพิ่มขึ้น 4.7% ในไตรมาสที่ 3 จากปีก่อน หากเกณฑ์ต่ำ บริษัทต่างๆ มีโอกาสที่จะทำผลงานดีกว่าที่คาดไว้
ตั้งแต่ปี 1971 เป็นต้นมา ดัชนี S&P 500 มีอัตราผลตอบแทนต่อปี 15% ในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนจะยิ่งสูงขึ้นเมื่อเกิดรอบการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในทางกลับกัน ข้อมูลจาก Goldman Sachs คาดว่า CTA จะขายหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่าตลาดจะทรงตัวในเดือนหน้าก็ตาม และกองทุนควบคุมความผันผวนก็ไม่มีช่องทางในการเพิ่มความเสี่ยงอีกต่อไป
ดัชนี S&P 500 ซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่รูปแบบ double top บ่งชี้ว่าดัชนีมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในแนวข้างมากขึ้นในระยะใกล้ แนวรับอยู่ที่ประมาณ 5,680
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ