การเทรด
เกี่ยวกับ EBC
สรุป
ข้อดีของเทรด CFD คือ นักลงทุนจะสามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นขาลง ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปทางไหน นักลงทุนก็สามารถเข้าเก็งกำไรได้ ซึ่งแตกต่างจากหุ้นที่ต้องรอให้หุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างเดียว
เชื่อว่านักลงทุนหลายคนต้องทราบดีว่า การเทรด CFDs นั้นคืออะไรและเชื่อว่ามีนักลงทุนหลายคนที่ทราบความหมาย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้เริ่มต้นกับวิธีที่ถูกต้อง เพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า ลองมาทบทวนวิธีการเทรด CFDs กันอีกสักรอบและถ้าคุณคือนักลงทุนมือใหม่ คุณจะได้ทำความเข้าใจไปพร้อมกัน เพราะ CFDs ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องมือช่วยสร้างผลแทนได้ดี แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรระวังด้วยเช่นกัน
ข้อดีของเทรด CFDs คือ นักลงทุนจะสามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นขาลงซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปทางไหน นักลงทุนก็สามารถเข้าเก็งกำไรได้ ซึ่งแตกต่างจากหุ้นที่ต้องรอให้หุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างเดียว อีกทั้งการเทรดแบบ CFDs ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถเทรดสินทรัพย์ได้มากกว่าเงินลงทุนที่มีอยู่จริง ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า “เลเวอเรจ” และเมื่อได้ทราบข้อดีกันแล้ว คุณก็พร้อมที่จะเริ่มต้นการเทรดได้อย่างต้องและมีประสิทธิภาพ
1. สำรวจว่าคุณเหมาะสำหรับการเทรด CFDs หรือเปล่า
การเทรด CFDs ไม่ได้กำหนดว่าคุณจะต้องเรียนจบอะไรมาหรือต้องทำงานในสายงานอาชีพอะไร ขอเพียงคุณมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุน มีระเบียบวินัยในการลงทุน หมั่นฝึกฝนหากลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวเอง และรู้จักสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเทรด CFDs ได้ เพราะ CFDs เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปสู่สินทรัพย์หลากหลายประเภทที่มีความเสี่ยงและระยะเวลาแตกต่างกัน เพื่อการสร้างผลตอบแทนทั้งขาขึ้นและขาลง
2. คุณต้องรู้จักความเสี่ยง
การเริ่มต้นที่ถูกต้องจะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว เพราะ CFDs ก็มีความเสี่ยงที่ควรเริ่มต้นเรียนรู้ก่อนการลงทุน นั่นคือ การใช้เครื่องมือเลเวอเรจ โดยในขณะที่คุณเทรดได้กำไรด้วยการใช้เลเวอเรจ คุณอาจยังไม่เห็นถึงความเสี่ยงตรงนี้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณพลาดเลเวอเรจจะทำให้เสียเงินในจำนวนที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะเลเวอเรจช่วยเพิ่มเงินทุนให้สามารถเทรดสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่าเงินทุนที่มีอยู่จริง ดังนั้นหากไม่อยากเสียเงินจำนวนมากในยามที่ผิดพลาด ควรพิจารณาอัตราเลเวอเรจว่าต้องการใช้เท่าไหร่ อย่าเอามาเยอะเกินกว่าความต้องการ
3. กำหนดกลยุทธ์การเทรดของคุณขึ้นมา
หากนักลงทุนสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่เป็นของตัวเองได้ ก็สามารถเริ่มต้นเทรด CFDs ได้อย่างถูกต้อง โดยกลยุทธ์ก็คือการเขียนแผนการลงทุน ที่ประกอบไปด้วย
แผนการติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่ลงทุน เช่น คุณจะติดตามข่าวสารเวลาเท่าไหร่และกี่วันต่อสัปดาห์ เป็นต้น
คุณจะต้องทราบว่า คุณเป็นนักลงทุนแบบไหน เพื่อกำหนดรูปแบบการเทรดลงไปในแผน เช่น คุณเป็นนักเก็งกำไรระยะสั้น หรือคุณเป็นนักวางแผนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาว เป็นต้น
คุณจะต้องทราบว่า คุณจะเทรดที่ไหน เช่น ตลาดเงิน Forex, ตลาดดัชนี, ตลาดหุ้น หรือตลาดสินทรัพย์โภคภัณฑ์ เป็นต้น
กำหนดว่าจะออกจากสถานะเมื่อใด ถ้ายังทำไม่ได้ คุณควรชะลอการลงทุนก่อน จนกว่าจะกำหนดได้ว่าเมื่อไหร่ควรจะออกจากสถานะสัญญา เช่น เมื่อได้กำไรกี่เปอร์เซ็นต์ หรือเมื่อขาดทุนกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น การกำหนดเช่นนี้ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่มีโอกาสสร้างความเสียหายได้
ข้อมูลทั้งหมดนี้นักลงทุนสามารถใช้เป็นไอเดียในการเริ่มต้นเทรด CFDs ได้ แต่อย่าลืมหัวใจสำคัญของการลงทุน คือ อย่าหยุดการเรียนรู้ เพราะความรู้ช่วยให้ความเสี่ยงลดลง และพยายามเขียนแผนการลงทุนของตัวเองออกมาให้ได้ เพราะไม่มีใครรู้จักคุณดีเท่ากับตัวคุณเอง หากคุณสามารถเขียนแผนลงทุนได้สำเร็จ โอกาสของการสร้างผลตอบแทนที่ดีก็จะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
การจำกัดราคาเป็นกลไกตลาดที่หยุดการซื้อขายเมื่อราคาตกอย่างรวดเร็วเกินไป โดยป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกและให้เวลากับตลาดในการรีเซ็ตตัวเอง
2024-12-23
ช่องว่างกรรไกร M1 M2 วัดความแตกต่างในอัตราการเติบโตระหว่างอุปทานเงิน M1 และ M2 โดยเน้นย้ำถึงความแตกต่างในสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ
2024-12-20
วิธีการซื้อขาย Dinapoli เป็นกลยุทธ์ที่รวมตัวบ่งชี้ชั้นนำและตามหลังเพื่อระบุแนวโน้มและระดับสำคัญ
2024-12-19
