การใช้เทคนิคเทรดแบบ Scalping ในตลาด Forex

2023-08-30
สรุป

การเทรดแบบ Scalping เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเทรดที่ได้รับความนิยมในการเทรด Forex สำหรับนักเทรดสายเทคนิค Scalper นักลงทุนจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่า การเทรดรูปแบบนี้ ต้องการอาศัยเครื่องมือช่วยเทรด และต้องอาศัยความชำนาญในการอ่านกราฟเป็นหลัก จึงจะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างกำไรได้ต่อเนื่องในแต่ละวัน

บทความนี้เอาใจนักเทรดสายเทคนิคที่นิยมใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะการเทรดแบบ Scalping ที่นักเทรดกลุ่มนี้จะเรียกตัวเองว่า Scalper ถ้าคุณคือนักลงทุนที่อยู่ในสนามการลงทุนมานาน แต่ยังไม่สามารถค้นพบคำตอบได้ว่า ตัวเองเป็นนักเทรดแบบไหน รู้เพียงแค่ว่าชอบเทรดแบบใช้เครื่องช่วยเทรดในการวิเคราะห์ทิศทางตลาด ลองมาลงลึกกับการเทรดแบบ Scalping ดู เผื่อจะเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ


รู้จักและทำความเข้าใจ การเทรด Scalping กับ Day Trading ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน


              การเทรดแบบ Scalping มีรูปแบบที่ไปสอดคล้องกับการเทรดแบบ Day Trading โดยบังเอิญ โดยที่ทั้ง 2 รูปแบบนี้คือการเทรดระยะสั้นเหมือนกัน แต่มีวัตถุประสงค์และวิธีการที่แตกต่างกัน โดยการเทรดแบบ Day Trading นั้น นักลงทุนจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าทำกำไรระยะสั้น โดยจะคาดหวัง Risk & Reward หรือความเสี่ยงที่ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าเป็นหลัก ทำให้ในระหว่างวันนักลงทุนจะทำการได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น

              ส่วนการเทรดแบบ Scalping จะมีวิธีการเทรดเพียงช่วงแคบ ๆ เพื่อสร้างผลกำไรระยะสั้น แต่เน้นที่ความถี่ในการเข้าเทรด ดังนั้นในระหว่างวันจึงมีการซื้อ-ขายมากกว่า 2 ครั้ง โดยการจะเป็นนักเทรดแบบ Scalping ได้ นักลงทุนจะต้องมีความรู้ด้านการใช้เครื่องมือช่วยเทรดเป็นอย่างดี ต้องเข้าใจการวิ่งขึ้นและลงอย่างมีความหมายสำคัญของเส้นกราฟ และโดยเฉพาะการเทรดในตลาด Forex นักลงทุนต้องเพิ่มเติมเรื่องการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

3.jpg


เรียนรู้เทคนิคการเทรดแบบ Scalping กำไรน้อย แต่ได้บ่อย


              เทคนิคการเทรดแบบ Scalping ในตลาด Forex หรือในตลาดสินทรัพย์ใด ๆ นักลงทุนจะเปิดการเทรดหลายครั้ง โดยที่แต่ละครั้งจะมุ่งหวังการทำกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยระยะเวลาในการเทรดแต่ละครั้งจะนับกันเป็นหลักนาทีเท่านั้น จะไม่มีการเปิดสถานะทิ้งไว้หลายชั่วโมง เหมือนกับการเทรดแบบ Day Trading

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ง่าย ๆ ถึงความรวดเร็วในการเทรดแบบ Scalping โดยเราทราบกันดีว่า ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง และมีความผันผวนสูงด้วยเช่นกัน โดยสามารถนับการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวันได้ประมาณ 10-20 Pip มาถึงตรงนี้สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เรามาขยายความเข้าใจของคำว่า “Pip” กันก่อน โดยในโลกของการลงทุนนั้นจะมีคำว่า Point กับ Pip ซึ่ง 2 คำนี้ คือ หน่วยมาตรฐานสำหรับวัดอัตราความเคลื่อนของราคา

              Point จะใช้สำหรับตัวเลขที่อยู่ข้างหลังสุดของราคา และมีการรวมหน่วยให้นักลงทุนได้เข้าใจง่าย ๆ ว่า 10 Point จะมีค่าเท่ากับ 1 Pip ดังนั้นนักลงทุนจะเห็นได้ว่าในตลาด Forex ที่มีความเคลื่อนไหวต่อวัน 10-20 Pip นั้น มีความผันผวนสูงมากเพียงใด นักเทรดแบบ Scalping จะอาศัยความผันผวนต่อวันนี้ เข้าทำกำไรให้ได้มากที่สุด ด้วยการเปิดคำสั่งซื้อ-ขาย เพียงการเคลื่อนไหว 5-10 Pip โดยประมาณเท่านั้น แต่สำหรับนักลงทุนที่เทรดแบบ Day Trading จะเปิดสถานะซื้อ-ขายเอาไว้ เพื่อรอให้ราคาเคลื่อนไหวมากกว่า 10 Pip ขึ้นไป จึงจะเข้าทำการเทรด

และสุดท้ายนี้เมื่อนักลงทุนได้เข้าใจถึงการเทรดแบบ Scalping แล้ว และตัดสินใจว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่ม Scalper นักลงทุนจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่า การเทรดรูปแบบนี้ ต้องการอาศัยเครื่องมือช่วยเทรด และต้องอาศัยความชำนาญในการอ่านกราฟเป็นหลัก จึงจะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างกำไรได้ต่อเนื่องในแต่ละวัน และอย่าลืมว่ากฎการเทรดที่ดีคือไม่เปิดสถานะทิ้งไว้เป็นชั่วโมง แต่ให้เปิดทันทีเมื่อเห็นโอกาสว่า ราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5 Pip ขึ้นไป และหมั่นเข้าทำการเทรดให้บ่อยในแต่ละวัน เพื่อเป็นการสะสมกำไร และกระจายความเสี่ยง

คำจำกัดความของ Limit Down และผลกระทบต่อตลาด

คำจำกัดความของ Limit Down และผลกระทบต่อตลาด

การจำกัดราคาเป็นกลไกตลาดที่หยุดการซื้อขายเมื่อราคาตกอย่างรวดเร็วเกินไป โดยป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกและให้เวลากับตลาดในการรีเซ็ตตัวเอง

2024-12-23
ความหมายและนัยของช่องว่างกรรไกร M1 M2

ความหมายและนัยของช่องว่างกรรไกร M1 M2

ช่องว่างกรรไกร M1 M2 วัดความแตกต่างในอัตราการเติบโตระหว่างอุปทานเงิน M1 และ M2 โดยเน้นย้ำถึงความแตกต่างในสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ

2024-12-20
วิธีการซื้อขาย Dinapoli และการประยุกต์ใช้

วิธีการซื้อขาย Dinapoli และการประยุกต์ใช้

วิธีการซื้อขาย Dinapoli เป็นกลยุทธ์ที่รวมตัวบ่งชี้ชั้นนำและตามหลังเพื่อระบุแนวโน้มและระดับสำคัญ

2024-12-19