การลงทุนในจีนได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น: David Barrett CEO ของ EBC ร่วมแบ่งบันข้อมูลกับ Yi Cai
(ลอนดอน, 31 พฤษภาคม 2024) David Barrett CEO ของ EBC Financial Group (UK) Ltd ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการลงทุนในจีนร่วมให้สัมภาษณ์เชิงลึกกับ Yi Cai สื่อมวลชนด้านการเงิน David Barrett ได้สำรวจปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนรายใหญ่มุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดจีน และเสนอมุมมองของเขาเกี่ยวกับอนาคตของการลงทุนในหุ้นจีน
กระแสความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หุ้นจีนได้รับความสนใจจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ Michael Burry ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการทำนายของเขาใน 'The Big Short' ซึ่งได้เพิ่มการลงทุนใน JD.com และ Alibaba อย่างมีนัยสำคัญ ในทำนองเดียวกัน กองทุนป้องกันความเสี่ยงของ David Tepper ได้ลงทุนมากขึ้นในเทคโนโลยีและตลาดจีน ความสนใจที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของหุ้น Nasdaq Golden Dragon China เพิ่มขึ้น 14.86% ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนถึง 3 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสองสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ดัชนีปิดเพิ่มขึ้น 2.49% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
David Barrett มองว่าความสนใจครั้งนี้เกิดจากมูลค่าที่ตลาดจีนเสนอให้ “ดัชนีของจีนต้องดิ้นรนนับตั้งแต่การล่มสลายของอสังหาริมทรัพย์ในปี 2021 ส่งผลให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและความเชื่อมั่นในประเทศลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ได้นำไปสู่ความแตกต่างด้านราคาที่มากขึ้น ทำให้หุ้นจีนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นมูลค่า” David Barrett ยังอธิบายว่า “นักลงทุนอย่าง Burry และ Tepper มีชื่อเสียงจากการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ไปที่พอร์ตการลงทุนที่มีความเข้มข้นสูง และการที่พวกเขาหันไปลงทุนในบริษัทจีนก็ส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในศักยภาพของตลาดจีนอีกด้วย”
แนวโน้มการลงทุนของตลาดจีนในอนาคต
เมื่อมองไปข้างหน้า David Barrett ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดจีน “มีตัวชี้วัดหลายประการที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลจีนกำลังใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาด”David Barrettกล่าว “ความพยายามในการสนับสนุนพื้นที่เปราะบางของเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน กำลังเริ่มส่งผลลัพธ์ในเชิงบวก”
เขาเน้นยังเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของนโยบายภายในประเทศในการรักษาการเติบโตนี้ "นโยบายที่มุ่งลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน การสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการสนับสนุนรัฐวิสาหกิจในการเสริมสร้างสถานะทางการเงินของพวกเขาถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ โครงการริเริ่มเพื่อเพิ่มการจ่ายเงินปันผลในหมู่บริษัทจีนมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาผลตอบแทนใน สภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงอีกด้วย”
ภาคธุรกิจที่ดูมีความหวังและการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก
David Barrett เน้นย้ำว่าภาคเทคโนโลยีเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการลงทุนภายในตลาดหุ้น A-share และหุ้นฮ่องกง “บริษัทเทคโนโลยีของจีนอยู่ในระดับแนวหน้าในด้านนวัตกรรมใหม่ และด้วยแรงสนับสนุนจากรัฐบาล พวกเขาจึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการรับมือกับความท้าทายระดับโลก” David Barrett กล่าวว่า “ยกตัวอย่างเช่น หากจีนเผชิญกับอุปสรรคในการตกลงซื้อขายชิป พวกเขาก็มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองได้ เมื่อพิจารณาถึงอัตรากำไรที่น่าประทับใจในการลงทุนกับบริษัทอย่าง NVIDIA จึงมีแรงจูงใจอย่างมากสำหรับบริษัทจีนในการผลิตชิปที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าที่อื่น และด้วยแรงสนับสนุนการลงทุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความยืดหยุ่นและมีศักยภาพในการเติบโตของภาคส่วนนี้อย่างน่าจับตามองเป็นพิเศษ"
นอกจากนี้ David Barrett ยังระบุว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นภาคธุรกิจที่มีอนาคตมาก “เพราะ รถยนต์ EV เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงหลังมานี้” David Barrett ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า "อย่างไรก็ตามตอนนี้ ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าแบรนด์ตะวันตกจะมีคุณภาพดีเท่าแบรนด์ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่รึป่าว และในทางกลับกันก็ยังมีคำถามว่า รถยนต์แบรนด์จีนจะดำเนินธุรกิจอย่างไรต่อไปในตลาดโลก? แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่เทคโนโลยีของจีนก็ยังคงล้ำสมัยและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการลงทุนและให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการพัฒนาในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้อย่างรวดเร็ว"
จากมุมมองทั่วโลก David Barrett ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ที่หลากหลาย โดยเตือนไม่ให้พึ่งพาหุ้นสหรัฐฯ มากเกินไป “แม้ว่าตลาดสหรัฐฯ จะมีการเติบโตอย่างมาก แต่การพิจารณาโอกาสอื่นๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น ในประเทศจีน ซึ่งการประเมินมูลค่ามีความน่าสนใจ” เขาอธิบายว่า "จากการที่หุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ จึงจำเป็นต้องมีความระมัดระวังและกระจายความเสี่ยงในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ ยังคงมีแนวโน้มที่น่าดึงดูดในฐานะเป็นแหล่งสะสมมูลค่าและป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ในขณะที่ธนาคารกลางยังคงจัดการสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยต่อไปการรักษาพอร์ตลงทุนให้สมดุลและสินทรัพย์ระหว่างประเทศที่ประเมินค่าต่ำเกินไปรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ที่จับต้องได้ จะสามารถสร้างความมั่นคงและศักยภาพในการเติบโตได้ดีขึ้น"
เกี่ยวกับEBC Financial Group
EBC Financial Group (EBC) ก่อตั้งขึ้นในย่านการเงินที่มีชื่อเสียงของลอนดอน โดยมีชื่อเสียงในด้านบริการครบวงจร ซึ่งรวมถึงนายหน้าทางการเงิน การจัดการสินทรัพย์ และโซลูชั่นการลงทุนที่ครอบคลุม ด้วยสำนักงานที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางทางการเงินที่โดดเด่น เช่น ลอนดอน ซิดนีย์ ฮ่องกง โตเกียว สิงคโปร์ หมู่เกาะเคย์แมน กรุงเทพฯ ลิมาสโซล และอื่นๆ อีกมากมาย EBC ให้ความสำคัญกับลูกค้าที่หลากหลายทั้งนักลงทุนรายย่อย มืออาชีพ และนักลงทุนสถาบันทั่วโลก
EBC ได้รับการยอมรับจากรางวัลมากมาย มีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมและกฎระเบียบระหว่างประเทศในระดับสูงสุด EBC Financial Group (UK) Limited ได้รับการควบคุมโดย Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd ได้รับการควบคุมโดย Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ของออสเตรเลีย และ EBC Financial Group (Cayman) Limited ได้รับการควบคุมโดย the Cayman Islands Monetary Authority (CIMA) ของหมู่เกาะเคย์แมน
จุดแข็งของ EBC Group คือ ผู้เชี่ยวชาญที่มีลึกซึ้งมากกว่า 30 ปีในสถาบันการเงินขนาดใหญ่ โดยได้ผ่านวงจรเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเชี่ยวชาญตั้งแต่เหตุการณ์ Plaza Accord ไปจนถึงวิกฤตฟรังก์สวิสและในปี 2015 EBC ได้ส่งเสริมวัฒนธรรมที่เน้นความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความปลอดภัยของทรัพย์สินของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับที่หนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าการมีส่วนร่วมของนักลงทุนทุกคนจะได้รับการปฏิบัติด้วยความจริงจังสูงสุดแบบที่สมควรได้รับ
EBC เป็นพันธมิตรด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอล FC Barcelona โดยนำเสนอบริการพิเศษในภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และโอเชียเนีย EBC ยังเป็นพันธมิตรของโครงการ United to Beat Malaria ซึ่งเป็นแคมเปญของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพของประชาชนทั่วโลก เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป EBC ยังให้การสนับสนุนซีรีส์การมีส่วนร่วมต่อสาธารณะในซีรีส์เรื่อง 'นักเศรษฐศาสตร์จริงๆแล้วทำอะไร' (What Economists Really Do) โดยร่วมกับภาควิชาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Oxford เพื่อทำให้เศรษฐศาสตร์เป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายขึ้น และการประยุกต์ใช้กับความท้าทายทางสังคมที่สำคัญในปัจจุบัน เพื่อให้สาธารณะชนมีความเข้าใจในเศรษฐศาสตร์มากขึ้น