การที่เทรดเดอร์มือใหม่เข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับการเทรด Forex เป็นอย่างดี จะช่วยให้การเทรดนั้นง่ายขึ้น และรู้จักการใช้กลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการขาดทุนได้
แม้ว่าคุณเองจะเป็นนักเทรดมือใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนตลาด Forex มาก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จเทรดเก่งอย่างมืออาชีพไม่ได้ เพียงแต่ก่อนลงสนามเทรด ควรจะมีความรู้พื้นฐานในคำศัพท์การเทรด Forex เบื้องต้นไว้ก่อน เพราะคำศัพท์เหล่านี้เป็นคำเฉพาะที่ใช้ในการเทรดจริง และยังเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้นักเทรดมือใหม่เข้าใจกลไกการตลาด รู้ทันความผันผวน เปลี่ยนเกมได้ทัน เพื่อสร้างกำไรในการเทรดได้มากขึ้น ซึ่งในวันนี้เราก็ได้รวบรวมคำศัพท์ที่สำคัญในการเทรดมาให้คุณได้ศึกษาและจดจำพร้อมนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
การรู้จักภาษาการเทรดคือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักเทรดที่ยอดเยี่ยม และพร้อมไปด้วยความรู้ความเข้าใจในการเทรดอย่างผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การลงทุนของคุณนั้นคุ้มค่าและเพิ่มโอกาสได้ผลตอบแทนสูง ทีนี้มาดูกันเลยว่าทั้ง 10 คำศัพท์นี้มีอะไรบ้าง
1. Currency Pair (คู่เงิน)
คือ คู่เงิน Forex เมื่อมีการเปรียบเทียบสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งเพื่อซื้อหรือขายระหว่างสกุลเงิน 2 สกุลนี้ จึงเรียกว่าคู่เงิน ในปัจจุบันนี้จะมีประเภทหลักของคู่เงินอยู่ 3 ประเภท คือ คู่เงินหลัก (Major Currency Pairs), คู่เงินรอง (Cross Currency Pairs) และคู่เงินเกิดใหม่ (Exotic Currency Pairs) ซึ่งคู่เงินหลักเป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่
2. Bid - Ask (ซื้อ - ขาย)
คำว่า Bid คือ ราคาที่นักเทรดต้องการจะซื้อ ส่วนคำว่า Ask คือ ราคาที่นักเทรดต้องการจะขาย โดยส่วนมากแล้วราคา Ask จะมีราคาสูงกว่าราคา Bid เสมอ
3. Spread (ส่วนต่าง)
คือ ค่าส่วนต่างของราคา Bid และ Ask หรือเรียกว่าค่าธรรมเนียม หากว่ามีค่า Spread สูงมากเท่าไร ก็ทำให้นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์นั้นได้กำไรสูง ซึ่งทำให้นักเทรดได้กำไรลดลงตามไปด้วย
4. Broker (โบรกเกอร์)
คือ ตัวกลางระหว่างลูกค้าและผู้ให้บริการ หรือนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่มีหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขาย ให้ข้อมูล อัปเดตข่าวสารของการเทรด การลงทุน และยังเป็นสื่อกลางในการพูดคุย รวมถึงการให้คำปรึกษา แนะนำการลงทุน
5. Copy Trade (การคัดลอกการซื้อขาย)
คือ การเลียนแบบการเทรดของนักเทรดมืออาชีพ เป็นการติดตามดูความเคลื่อนไหวของนักเทรดที่เก่งว่ากำลังซื้อหรือขายสินทรัพย์ตัวไหนอยู่ แล้วจึงทำตาม เป็นการคัดลอกการเทรดแบบไม่ต้องตัดสินใจเอง
6. Demo Account (บัญชีทดลอง)
คือ บัญชีทดลองเล่นให้มือใหม่ได้ฝึกฝนการเทรดก่อนเพื่อเพิ่มประสบการณ์ โดยที่ทางโบรกเกอร์จะมอบเงินทดลองให้กับเทรดเดอร์ใหม่ ซึ่งรูปแบบการเทรด การเปรียบเทียบ การซื้อขายสินทรัพย์ จะมีการจำลองเหมือนตลาดจริงทุกประการ
7. Expert Advisor (โปรแกรมช่วยเทรด)
คือ ตัวช่วยของนักเทรดที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือยังมีประสบการณ์ในการเทรดน้อย เพราะเป็นโปรแกรมอัตโนมัติที่จะช่วยวิเคราะห์กราฟ และทำงานแทนนักเทรดแม้ในยามหลับ โดยไม่ต้องคอยนั่งเฝ้าดูกราฟตลอดเวลา
8. Bar Chart (กราฟ)
คือ กราฟที่นักเทรดส่วนใหญ่นิยมใช้ดูประกอบในการเทรด เพราะภาพในกราฟจะแสดงให้เห็นถึงผลของราคาการปิด และการเปิดที่ต่ำสุด-สูงสุดในอดีต เพื่อให้นักเทรดสามารถนำมาเปรียบเทียบกับราคาการซื้อขายในปัจจุบันได้
9. Bull Market (ตลาดกระทิง)
ตลาดกระทิง คือ การที่มีนักลงทุนส่วนใหญ่นิยมซื้อสินทรัพย์นั้น ๆ เพื่อเก็งกำไรกันมากขึ้น หรือเป็นช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น มีผลให้อัตราการซื้อมีสูง ราคาดี และทำให้นักเทรดส่วนใหญ่เชื่อมั่นในการลงทุน
10. Bear Market (ตลาดหมี)
ตลาดหมี แตกต่างกับตลาดกระทิง คือ เป็นช่วงที่แนวโน้มการตลาดอยู่ในช่วงขาลง มีผลให้นักเทรดหลายคนมีความเสี่ยง และอาจขายสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงลง
หลายคนมองว่าการเทรดเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่เรียนรู้ไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถทำได้ หรือหากเริ่มต้นเทรดไม่เก่ง แค่ลองเทรดตามนักเทรดท่านอื่นก็อาจโชคดีได้เงินก้อนใหญ่ แต่ความจริงแล้วการเทรด Forex ยังมีข้อมูลและรายละเอียดอีกมากมาย และนักเทรดเองยังต้องเข้าใจกราฟ Forex หมั่นอัปเดตข้อมูลราคาซื้อขายหุ้น และต้องหมั่นฝึกฝนเทรดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น หากอยากประสบความสำเร็จ และสร้างรายได้จากการเทรดเหมือนท่านอื่น ๆ ก่อนเทรดในตลาดจริง อย่างน้อยควรเรียนรู้คำศัพท์ Forex และใช้เวลาในการเทรดกับบัญชีทดลองก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมการเทรดจริง และเข้าใจการเทรดมากขึ้นกว่าเดิม แม้การลงทุนในบางครั้งอาจได้ผลกำไรไม่ตรงตามที่คาดหวัง แต่หากคุณได้ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจังก่อนลงทุนแล้ว เชื่อได้เลยว่าคุณจะตีโจทย์การลงทุนออกได้ง่าย ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาทางไหน และทำให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์มือทองที่มีสินทรัพย์มากมายได้ไม่ยาก