เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง การใช้เลเวอเรจอย่างมีสติและการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมสามารถนำพานักลงทุนไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้
ในโลกของธุรกิจและการลงทุน เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังซึ่งสามารถช่วยนักลงทุน และยังนับเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของการเทรด CFDs และ Forex ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถที่จะขยายผลกำไร และเพิ่มโอกาสในการบรรลุความสำเร็จ อย่างไรก็ตามแต่ เลเวอเรจยังเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม การเตรียมรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการและเทรดเดอร์ต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
คำว่า “เลเวอเรจ” หมายถึงการใช้ปริมาณเงินทุนหรือทรัพยากรที่มีอยู่น้อย ในการลงทุนหรือดำเนินการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลาย ๆ สาขา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเงิน ธุรกิจ หรือการลงทุน และการทำกำไรในตลาด Forex โดยในโลกของการเงินและการลงทุน เลเวอเรจมักจะหมายถึงการใช้เงินกู้ หรือเครดิต เพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุน ซึ่งสามารถทำให้นักลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์ได้มากกว่าที่จะทำได้ด้วยเงินทุนของตนเอง ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนมีเงินทุน 100,000 บาท และใช้เลเวอเรจ 1:10 ก็จะสามารถซื้อสินทรัพย์ได้มูลค่าถึง 1,000,000 บาท ซึ่งหากการลงทุนนั้นประสบความสำเร็จ ผลตอบแทนที่ได้จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณเลเวอเรจที่ใช้ และสำหรับในกรณีของการเทรด CFDs สมมติว่านักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มีราคาต่อหุ้นอยู่ที่ 8.60 ดอลลาร์ หากมีเงิน 100 ดอลลาร์ในบัญชีการเทรด ปกติแล้วจะสามารถซื้อได้เพียง 11 หุ้นเท่านั้น แต่หากใช้เลเวอเรจ 10:1 ในการเทรด CFDs ก็จะสามารถควบคุมหุ้นได้มากถึง 110 หุ้น ซึ่งมีมูลค่ารวม 946 ดอลลาร์ ด้วยเงินทุนเพียง 100 ดอลลาร์ที่มี เป็นต้น
การใช้เลเวอเรจในการลงทุนสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อตลาดมีการเคลื่อนไหวตามทิศทางที่นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจยังมาพร้อมกับความเสี่ยงที่เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจ และมีวิธีในการจัดการอย่างรอบคอบ เนื่องจากเลเวอเรจสามารถขยายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้ทั้งในทางบวกและทางลบ หากการลงทุนมีผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ผู้ใช้เลเวอเรจจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการลงทุนที่ไม่ใช้เลเวอเรจ แต่ในทางกลับกัน หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เอื้ออำนวย การขาดทุนอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีขนาดผลกระทบที่ใหญ่กว่าการเทรดแบบทั่วไปมาก
ซึ่งการจัดการความเสี่ยงในการใช้เลเวอเรจ เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อทำการลงทุนในตลาดที่มีความผันผวน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น นักลงทุนควรมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน ที่รวมถึงการกำหนดเป้าหมายการลงทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และกลยุทธ์ในการออกจากการลงทุน
นอกจากนี้ การวิเคราะห์ทางการเงินและการตลาดที่ละเอียดรอบคอบ ก่อนทำการลงทุนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เข้าใจถึงศักยภาพและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และการตั้งค่าการหยุดขาดทุน (Stop Loss) ที่เหมาะสม ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และสำคัญมาก ๆ ในการจำกัดการสูญเสียจากการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษาเงินทุนและลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่คาดคิดให้จำกัดอยู่ในวงแคบ และยังเหลือเงินทุนเพื่อลงทุนต่อได้
และหากมีการศึกษาข้อมูล และการเตรียมตัวมาก่อนการใช้เลเวอเรจ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างแผนการลงทุนที่มีคุณภาพและการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น การลงทุนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีโอกาสในการประสบความสำเร็จที่สูงขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ว่า ยิ่งใช้เลเวอเรจก็จะยิ่งต้องคิดและเตรียมตัวให้มากกว่าเดิม
การใช้เลเวอเรจในการซื้อขายถือเป็นดาบสองคม ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะแม้การใช้เลเวอเรจนักลงทุนสามารถขยายผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดได้มากขึ้น แต่ก็อย่าลืมความเสี่ยงในการขาดทุนด้วย ดังนั้นการใช้เลเวอเรจอย่างมีสติ เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และจัดการวางแผนการลงทุนและการตัดสินใจอย่างรอบคอบ จะสามารถพาคุณไปสู่การเติบโตของพอร์ตการลงทุน และความสำเร็จที่ยั่งยืนในอาชีพการเทรดได้