2025-09-18
ฟอเร็กซ์ (Forex) คือ ตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก สำหรับเทรดเดอร์ที่ก้าวเข้าสู่สนามนี้ คำถามสำคัญที่มักเกิดขึ้นเสมอคือ จะทำอย่างไรให้เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และนี่คือจุดที่หนังสือ Technical Analysis of the Currency Market โดย Boris Schlossberg เข้ามามีบทบาท
หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน คือ เพื่อมอบแนวทางที่เป็นระบบให้เทรดเดอร์สามารถประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคกับตลาดสกุลเงินได้โดยเฉพาะ
ในขณะที่หนังสือด้านการเทรดจำนวนมากมักเน้นไปที่หุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ ผลงานของ Schlossberg กลับชี้ให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะตัวของตลาดฟอเร็กซ์ พร้อมกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในตลาด
หนังสือเล่มนี้ถูกออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ระดับกลางเป็นหลัก ผู้ที่มีพื้นฐานการอ่านกราฟและอินดิเคเตอร์แล้ว แต่ต้องการกรอบแนวคิดเพื่อพัฒนาเป็นรูปแบบการเทรดที่มีระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้เริ่มต้นก็ยังสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก และได้รับพื้นฐานที่แข็งแกร่งเช่นกัน
Boris Schlossberg ไม่เพียงแค่เป็นเทรดเดอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นนักกลยุทธ์และนักการศึกษาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เขาเคยดำรงตำแหน่งอาวุโสในบริษัทเทรดและโบรกเกอร์ โดยมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นอกเหนือจากการปฏิบัติจริง เขายังใช้เวลาหลายปีในการสอนเทรดเดอร์ แสดงความคิดเห็นต่อทิศทางตลาด และมีส่วนร่วมในชุมชนการเงินในวงกว้าง
สิ่งที่ทำให้เสียงของเขามีเอกลักษณ์ คือ การสร้างสมดุลระหว่างความแม่นยำทางเทคนิคกับ ความเข้าใจง่าย
เขาหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อนโดยไม่จำเป็น แต่กลับมุ่งเน้นที่ความชัดเจนและการนำไปใช้จริง สไตล์การเขียนนี้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในหนังสือ Technical Analysis of the Currency Market ที่ทั้งทำหน้าที่เป็นคู่มือการเรียนรู้และตำราอ้างอิงในเล่มเดียว
ตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง และมีผู้เข้าร่วมตั้งแต่ธนาคาร สถาบันการเงิน กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ไปจนถึงเทรดเดอร์รายย่อย ขนาดมหึมาและสภาพคล่องสูงทำให้ตลาดนี้ทั้งน่าดึงดูดและน่าหวั่นเกรงในเวลาเดียวกัน
แตกต่างจากตลาดหุ้น สกุลเงินจะถูกซื้อขายเป็นคู่เสมอ หมายความว่าค่าเงินหนึ่งจะถูกวัดเมื่อเปรียบเทียบกับอีกค่าเงินหนึ่ง ลักษณะคู่นี้เปิดโอกาสให้เกิดกลยุทธ์ที่อิงกับความแข็งแกร่งเชิงเปรียบเทียบ โมเมนตัม และการเคลื่อนไหวในกรอบราคา
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคโดดเด่นในตลาดฟอเร็กซ์ คือ สกุลเงินได้รับอิทธิพลจากปัจจัยมากมาย ทั้งการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ นโยบายของธนาคารกลาง เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาวะความเชื่อมั่นของตลาด
แม้ว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจจะมีความสำคัญ แต่การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นก็มักเป็นไปตามรูปแบบที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถสังเกตและนำไปใช้ได้
คำถามที่เทรดเดอร์มักจะถามกันเสมอคือ ตลาดนั้นเป็นแบบสุ่ม หรือสามารถคาดการณ์ได้กันแน่?
Schlossberg ได้กล่าวถึงประเด็นนี้โดยยอมรับว่า แม้ตลาดอาจดูเหมือนโกลาหล แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงรูปแบบที่เกิดซ้ำพฤติกรรมของราคามักจะซ้ำรอยเดิม เพราะเทรดเดอร์มีแนวโน้มที่จะตอบสนองในลักษณะคล้ายกัน เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่คุ้นเคย
หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่ได้เกี่ยวกับ “ความแน่นอน” แต่เกี่ยวกับ “ความน่าจะเป็น” ไม่มีรูปแบบใดที่สามารถรับประกันผลลัพธ์ได้ 100% แต่หากใช้อย่างถูกต้อง เครื่องมือทางเทคนิคจะช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มโอกาสความสำเร็จในฝั่งของตนได้
ด้วยการมองตลาดในฐานะ “สนามแห่งความน่าจะเป็น” มากกว่ากฎตายตัว เทรดเดอร์จึงสามารถพัฒนาทัศนคติที่สมจริงและยืดหยุ่นมากขึ้น
หนึ่งในจุดแข็งของ Technical Analysis of the Currency Market คือหนังสือไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่เพียงแค่กราฟและตัวชี้วัด Schlossberg ให้ความสำคัญกับจิตวิทยาของเทรดเดอร์และความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง
การรักษาเงินทุน (Capital Preservation) ถูกเน้นว่าเป็นกฎข้อแรกของการเทรด หากไม่มีการกำหนดขนาดตำแหน่งอย่างเหมาะสมและการตั้ง Stop ที่ป้องกัน ความสำเร็จจากการตั้งค่าทางเทคนิคที่ดีที่สุดก็อาจล้มเหลวได้
นอกจากนี้ หนังสือยังเน้นว่าความรู้สึก เช่น ความกลัว ความโลภ และความมั่นใจเกินไป สามารถบ่อนทำลายการปฏิบัติเทรดอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยการผสมผสานหลักการบริหารความเสี่ยงเข้ากับความตระหนักด้านจิตวิทยา Schlossberg ชี้ให้เห็นความจริงที่มักถูกมองข้าม: ความสำเร็จในการเทรดมาจากวินัยมากกว่าการทำนายล่วงหน้า
หนังสือเล่มนี้จะเข้าสู่หัวใจของการวิเคราะห์เชิงเทคนิค: เครื่องมือที่เทรดเดอร์สามารถนำไปใช้บนกราฟ Forex ได้โดยตรง
ตัวชี้วัดตามแนวโน้ม เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) และการเบรกเอาต์ (Breakouts) ถูกนำเสนอเป็นวิธีในการระบุตลาดที่มีทิศทางชัดเจน
ออสซิลเลเตอร์ เช่น RSI, MACD และ CCI ถูกอธิบายว่าเป็นเครื่องมือสำหรับสภาวะตลาดแกว่งตัวในกรอบ (Range-bound) ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นสัญญาณซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
Fibonacci retracements และ extensions ถูกแนะนำเป็นวิธีในการกำหนดการปรับฐานและเป้าหมายที่เป็นไปได้ พร้อมคำเตือนเกี่ยวกับการใช้งานผิดพลาด
รูปแบบกราฟ (Chart patterns) ตั้งแต่รูปแบบกลับตัวคลาสสิก เช่น Head-and-Shoulders ไปจนถึงรูปแบบต่อเนื่อง เช่น Flags และ Wedges ถูกครอบคลุมพร้อมตัวอย่างเชิงปฏิบัติ รวมถึงคำเตือนเกี่ยวกับ “Antipatterns” ที่มักทำให้เข้าใจผิด
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่อธิบายเครื่องมือเหล่านี้ว่าทำงานอย่างไร แต่ยังอธิบายด้วยว่าควรใช้เมื่อใด จึงทำให้ผู้อ่านมีแนวทางที่เป็นระบบในการซื้อขายทางเทคนิค
จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ Schlossberg นำเสนอการตั้งค่าการเทรด (Trade Setups) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริง เขาส่งเสริมให้เทรดเดอร์เลือกกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับบุคลิกของตนเอง โดยตระหนักว่ากลยุทธ์ที่เหมาะกับเทรดเดอร์คนหนึ่งอาจไม่เหมาะกับอีกคน
กฎเกณฑ์ดั้งเดิม เช่น การรักษาสัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน 2:1 ถูกตั้งคำถาม โดยมีเหตุผลว่าความยืดหยุ่นและบริบทมักสำคัญกว่าสูตรที่ตายตัว ตัวอย่างเชิงปฏิบัติเช่น:
ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุจุดเบรกเอาต์หรือจุดที่ตลาดเริ่มอ่อนตัว
ใช้ Volatility Stops สำหรับบริหารการเข้าและออกตลาด
พัฒนาการตั้งค่าการอ่อนตัวของแนวโน้ม (Trend Exhaustion Setups) เพื่อคาดการณ์การกลับตัว
หนังสือเล่มนี้ยังแยกความแตกต่างระหว่างการเทรดแบบ Scalping และการเทรดแบบ Swing โดยแสดงให้เห็นว่าหลักการเดียวกันนี้สามารถนำไปปรับใช้กับกรอบเวลาและรูปแบบการเทรดที่แตกต่างกันได้อย่างไร
ในบรรดาคู่มือการเทรดจำนวนมาก หนังสือ Technical Analysis of the Currency Market โดดเด่นเพราะถูกเขียนขึ้นโดยเฉพาะสำหรับตลาด Forex แทนที่จะนำเสนอตัวชี้วัดทั่วไป Schlossberg อธิบายในบริบทของคู่สกุลเงิน ความผันผวน และสภาพคล่อง
สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือ การผสมผสานเครื่องมือเชิงเทคนิคเข้ากับจิตวิทยาและการบริหารเงิน หนังสือหลายเล่มมักแยกสองหัวข้อนี้ออกจากกัน แต่ Schlossberg ร้อยเรียงเข้าด้วยกัน สะท้อนความจริงที่ว่าความสำเร็จในการเทรดต้องอาศัยทั้งสามอย่าง
อีกจุดเด่นคือ การเน้นความเป็นประโยชน์ในทางปฏิบัติ แทนที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกหนักใจด้วยตัวชี้วัดลึกลับหลายสิบตัว หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นไปที่ชุดเครื่องมือที่จัดการได้ง่าย อธิบายไม่เพียงแต่การทำงานของเครื่องมือ แต่รวมถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งานด้วย
นี่ไม่ใช่หนังสือที่จะอ่านครั้งเดียวแล้ววางไป เทรดเดอร์สามารถกลับมาอ่านซ้ำได้หลายครั้ง โดยอ้างอิงบทต่างๆ เกี่ยวกับแนวโน้ม (Trends) ช่วงกรอบราคา (Ranges) หรือการตั้งค่าการเทรด (Setups) ตามการเติบโตของเส้นทางการเทรดของตนเอง พจนานุกรมศัพท์ (Glossary) ช่วยให้เข้าใจคำศัพท์ทางเทคนิคได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกราฟช่วยเสริมความเข้าใจแนวคิดสำคัญในรูปแบบภาพ
สำหรับผู้ที่กำลังสร้างแผนการเทรดส่วนตัว หนังสือเล่มนี้สามารถทำหน้าที่เป็นรากฐาน (Cornerstone) นำทางไม่เพียงแต่การออกแบบกลยุทธ์ แต่ยังรวมถึงการปรับทัศนคติและการควบคุมความเสี่ยงด้วย ด้วยเหตุนี้ มันจึงกลายเป็นเพื่อนคู่คิดระยะยาวสำหรับการเติบโตในตลาด Forex
1. จุดเน้นหลักของหนังสือของ Boris Schlossberg คืออะไร?
หนังสือสอนเทรดเดอร์วิธีใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคโดยเฉพาะกับตลาดสกุลเงิน ผสมผสานเครื่องมือสำหรับแนวโน้ม (Trends) และช่วงกรอบราคา (Ranges) เข้ากับการบริหารความเสี่ยงและจิตวิทยาการเทรด
2. หนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนังสือวิเคราะห์เชิงเทคนิคทั่วไปอย่างไร?
ถูกออกแบบมาสำหรับตลาด Forex โดยเฉพาะ ไม่ใช่หุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ และนำเสนอตัวอย่างและการตั้งค่าการเทรดที่ใช้งานได้จริงตามคู่สกุลเงิน
3. ใครจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการอ่านหนังสือเล่มนี้?
เทรดเดอร์ระดับกลางที่กำลังมองหาโครงสร้างการเทรดจะได้รับประโยชน์สูงสุด แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเข้าใจและได้ประโยชน์จากคำอธิบายที่ชัดเจน
4. หนังสือให้กลยุทธ์ที่รับประกันผลสำเร็จหรือไม่?
ไม่ หนังสือเน้นไปที่ความน่าจะเป็น (Probabilities) วินัย และการควบคุมความเสี่ยง ค่าของมันไม่ได้อยู่ที่ความแน่นอน แต่ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
หนังสือ Technical Analysis of the Currency Market โดย Boris Schlossberg ไม่ใช่เพียงคู่มือเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นแผนที่ปฏิบัติสำหรับการนำทางในตลาดที่มีความเคลื่อนไหวสูงที่สุดในโลก
ด้วยการผสมผสานตัวชี้วัด กลยุทธ์ จิตวิทยา และการบริหารเงิน หนังสือเล่มนี้มอบเครื่องมือให้เทรดเดอร์สามารถเข้าตลาด Forex ด้วยโครงสร้างและวินัย สำหรับผู้ที่จริงจังกับการเทรดสกุลเงิน หนังสือเล่มนี้ยังคงเป็นแหล่งอ้างอิงที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ