2025-09-10
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนยุคใหม่ เนื่องจากเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง ทำให้เป็นวิธีการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายในการเข้าร่วมตลาดการเงินระดับโลก
ไม่ว่าจะเป็นการเทรด Forex หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี หรือสกุลเงินดิจิทัล CFD ต่างมอบโอกาสที่โดดเด่นในการสร้างผลกำไรได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง
แต่ CFDs ทำงานอย่างไร และทำไมคุณจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันก่อนเริ่มต้นการเทรด? บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงานของ CFD ข้อดีและความเสี่ยง กลยุทธ์สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อนลงมือเทรด CFD ในวันนี้
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference: CFD) เป็นตราสารอนุพันธ์ชนิดหนึ่ง เมื่อลงทุนหรือเทรด CFD นักลงทุนจะทำข้อตกลงในการจ่ายหรือรับส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ ระหว่างช่วงที่เปิดและปิดสถานะการลงทุน
ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อสัญญาทองคำ CFD ที่ราคา 2,000 ดอลลาร์ และปิดที่ราคา 2,050 ดอลลาร์ คุณจะได้กำไร 50 ดอลลาร์ต่อหน่วย (นำไปคูณด้วยขนาดของสัญญา) แต่หากราคาลดลงแทน คุณก็จะขาดทุนในขนาดที่เท่ากัน
คุณลักษณะสำคัญของ CFD คือ นักลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง แต่เพียงแค่เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเท่านั้น
CFDs สามารถเทรดได้ในตลาดหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคู่เงิน Forex หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำและน้ำมัน ดัชนีอย่าง S&P 500 หรือแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล
คุณสามารถเปิดสถานะซื้อ (Long Position) หากคาดว่าราคาจะปรับขึ้น หรือเปิดสถานะขาย (Short Position) หากคาดว่าราคาจะปรับลง
การเทรด CFD ใช้หลักการเลเวอเรจ หมายความว่าคุณจำเป็นต้องฝากเงินเพียงส่วนหนึ่งของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด (เรียกว่า “มาร์จิ้น”) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมสถานะที่มีมูลค่ามากขึ้นได้ด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่า
กำไรหรือขาดทุนจะคำนวณจากส่วนต่างระหว่างราคาที่เปิดและราคาที่ปิด คูณด้วยขนาดของสถานะที่ถือครอง
เมื่อคุณปิดออเดอร์ โบรกเกอร์ CFD จะทำการชำระราคาส่วนต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดให้เป็นเงินสด
สมมติว่าคุณต้องการเทรด CFD หุ้น:
ราคาหุ้น: 100 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ออเดอร์: 100 หุ้น (1 สัญญา CFD = 1 หุ้น)
มูลค่าการซื้อขาย: 10,000 ดอลลาร์
ด้วยเลเวอเรจ 10:1 คุณต้องฝากมาร์จิ้นเพียง 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น
หากราคาขึ้นไปที่ 105 ดอลลาร์ กำไรของคุณคือ (105 – 100) × 100 = 500 ดอลลาร์
หากราคาลดลงไปที่ 95 ดอลลาร์ ขาดทุนของคุณคือ (95 – 100) × 100 = 500 ดอลลาร์
ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการซื้อขาย CFD คือ ความสามารถในการเข้าถึงสินทรัพย์หลายประเภทได้ผ่านบัญชีซื้อขายเพียงบัญชีเดียว กับโบรกเกอร์อย่าง EBC Financial Group นักลงทุนสามารถเลือกเทรด CFD ได้หลากหลายตลาด เช่น:
CFD Forex : เทรดคู่สกุลเงินเช่น EUR/USD, GBP/USD หรือ USD/JPY ด้วยการดำเนินการที่รวดเร็ว
CFD หุ้น : เข้าถึงบริษัทระดับโลก เช่น Apple, Tesla และ Amazon โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้น
CFD สินค้าโภคภัณฑ์ : ตัวเลือกยอดนิยมได้แก่ ทองคำ เงิน และน้ำมันดิบ
CFD ดัชนี: เก็งกำไรกับดัชนีระดับโลก เช่น NASDAQ, S&P 500, FTSE 100 หรือ DAX
CFD Crypto: เทรดสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ เช่น Bitcoin
การเทรด CFD อาจให้ผลตอบแทนที่ดีได้ แต่ต้องอาศัยการเตรียมตัวและวินัย เคล็ดลับที่ควรรู้ พร้อมการสนับสนุนจาก EBC ได้แก่:
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเลเวอเรจ : ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง โดย EBC ให้นักลงทุนสามารถเลือกตั้งค่าเลเวอเรจได้อย่างยืดหยุ่นตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ใช้บัญชีทดลอง : EBC มีบัญชีทดลองฟรี เพื่อให้นักลงทุนฝึกกลยุทธ์โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง
กำหนดคำสั่ง Stop-Loss : ปกป้องการลงทุนของคุณด้วยการกำหนดระดับ Stop-Loss ซึ่งระบบของ EBC รองรับอัตโนมัติ
ติดตามข้อมูล : EBC มอบข้อมูลเชิงลึกและการวิจัยตลาดรายวันเพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเงินระดับโลก
เริ่มต้นขนาดเล็ก : เทรดด้วยล็อตขนาดเล็กก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ EBC รองรับทั้งไมโครและมินิสัญญา เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ข้อดี | ความเสี่ยง |
---|---|
เทรดทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง | เลเวอเรจทำให้การขาดทุนเพิ่มมากขึ้น |
เข้าถึงตลาดโลกจากบัญชีเดียว | ความผันผวนของตลาดเพิ่มความเสี่ยง |
ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นต่ำเพราะมีมาร์จิ้น | ค่าธรรมเนียมการถือข้ามคืนอาจสะสมสูง |
ไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง | ไม่มีสิทธิความเป็นเจ้าของ |
ขนาดล็อตที่ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ | ความเสี่ยงจากคู่สัญญากับโบรกเกอร์ |
CFD ย่อมาจาก Contract for Difference หรือ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง ซึ่งเป็นข้อตกลงทางการเงินระหว่างนักเทรดกับโบรกเกอร์ ในการแลกเปลี่ยนส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ตั้งแต่ช่วงเปิดสถานะจนถึงช่วงปิดสถานะ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องถือครองสินทรัพย์อ้างอิงจริง
หากคุณคาดว่าราคาจะปรับขึ้น คุณสามารถเปิดสถานะซื้อ (Long/Buy) แต่หากคาดว่าราคาจะปรับลง คุณสามารถเปิดสถานะขาย (Short/Sell) กำไรหรือขาดทุนของคุณจะขึ้นอยู่กับส่วนต่างระหว่างราคาที่เปิดและราคาที่ปิด คูณด้วยขนาดสถานะที่คุณถือครอง
ได้ ผู้เริ่มต้นสามารถเทรด CFD ได้ แต่แนะนำให้เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง ใช้เลเวอเรจในระดับต่ำ และเปิดสถานะขนาดเล็กก่อน
โดยสรุปแล้ว การเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เป็นวิธีที่ยืดหยุ่นและทรงพลังในการเข้าถึงตลาดการเงินระดับโลก เพราะเปิดโอกาสให้ทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง ซึ่งบางครั้งการลงทุนแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจ ความผันผวนของตลาด และต้นทุนการถือสถานะข้ามคืน ล้วนทำให้การเทรด CFD ไม่ใช่เรื่องที่ปราศจากความเสี่ยง ก่อนเริ่มต้นเส้นทางการเทรด ควรเข้าใจกลไกการทำงาน ฝึกฝนผ่านบัญชีทดลอง ศึกษาความเสี่ยงให้รอบด้าน และใช้กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ