หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ ดิ่ง ขณะที่ Magnificent Seven สูญเสียส่วนแบ่งตลาด

2025-08-21
สรุป

หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ร่วง ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มป้องกันความเสี่ยงต่อความผันผวนเพิ่มเติมในกลุ่มนี้

ในเดือนสิงหาคม 2025 หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่ม “Magnificent Seven” ได้แก่ Apple (AAPL), Amazon (AMZN), Tesla (TSLA), Alphabet (GOOGL), Microsoft (MSFT), Nvidia (NVDA) และ Meta Platforms มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน การปรับฐานนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่อาจสูงเกินไป และความยั่งยืนของการขึ้นราคาที่ขับเคลื่อนโดย AI นักลงทุนเริ่มระมัดระวังมากขึ้น โดยบางส่วนหันไปใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง เช่น การซื้อออปชันขายแบบ “disaster” เพื่อคุ้มครองความเสียหายเพิ่มเติม


ผลการดำเนินงานล่าสุดและความเคลื่อนไหวของตลาด

Nasdaq Composite Price Change over the Last 5 Days

ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2025 ดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวลดลง 0.7% ทำให้การขาดทุนในสองวันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 2.1% ดัชนีเทคโนโลยีของ S&P 500 ก็ลดลงเช่นกัน สะท้อนถึงการถอยออกจากหุ้นเทคโนโลยีเติบโตสูงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหุ้น Nvidia ร่วง 5% ขณะที่หุ้น Palantir ดิ่งลงถึง 16% ซึ่งสะท้อนความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความยั่งยืนของผลตอบแทนที่เกี่ยวข้องกับ AI


การปรับฐานครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่:


  • ความกังวลเรื่องมูลค่า (Valuation Concerns): ราคาหุ้นเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากความคาดหวัง AI ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่ามูลค่าหุ้นอาจสูงเกินกว่าการเติบโตพื้นฐานหรือไม่

  • ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงิน (Monetary Policy Uncertainty): การรอคำกล่าวของประธาน Federal Reserve เจอโรม พาวเวลล์ ในงานสัมมนา Jackson Hole เพิ่มความผันผวนของตลาด เนื่องจากนักลงทุนต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยในอนาคต

  • การหมุนเวียนภาคส่วน (Sector Rotation): นักลงทุนย้ายออกจากหุ้นเทคโนโลยีไปสู่ภาคส่วนป้องกันความเสี่ยง เช่น สาธารณสุขและสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งถูกมองว่ามูลค่าต่ำเกินไปและมีความเสี่ยงต่ออัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า


การวิเคราะห์กลุ่ม Magnificent Seven

APPL Price Change over the Last 5 Days

  • Apple (AAPL): ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 226.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้น Apple ลดลงประมาณ 2% เมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่แข็งแกร่งและผลประกอบการที่สม่ำเสมอทำให้หุ้น Apple กลายเป็นหุ้นหลักในพอร์ตการลงทุนหลาย ๆ แห่ง


  • Amazon (AMZN): ราคาหุ้นอยู่ที่ 223.81 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Amazon ก็ลดลงประมาณ 1.8% เช่นกัน แหล่งรายได้ที่หลากหลายของบริษัท ซึ่งรวมถึงอีคอมเมิร์ซ คลาวด์คอมพิวติ้ง และโฆษณา ล้วนสร้างความยืดหยุ่นต่อความผันผวนของตลาด


  • Tesla (TSLA): ราคาหุ้นของ Tesla อยู่ที่ 323.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.6% แม้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงมีการแข่งขันสูง แต่นวัตกรรมและส่วนแบ่งตลาดของ Tesla ยังคงช่วยสนับสนุนมูลค่าของบริษัท


  • Alphabet (GOOGL): ซื้อขายที่ 199.32 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Alphabet ลดลง 1.1% ความเป็นผู้นำของบริษัทในด้านการค้นหาและโฆษณา รวมถึงการลงทุนใน AI และบริการคลาวด์ ล้วนเป็นปัจจัยหนุนโอกาสการเติบโตระยะยาวของบริษัท


  • Microsoft (MSFT): ราคาหุ้นอยู่ที่ 505.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Microsoft ลดลง 0.8% สถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในด้านซอฟต์แวร์องค์กร คลาวด์คอมพิวติ้ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้บริษัทพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต


  • Nvidia (NVDA): ราคาหุ้นของ Nvidia อยู่ที่ 175.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 0.14% ในฐานะผู้นำด้านหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรม AI และเกม


  • Meta Platforms: แม้ว่าจะไม่มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจน แต่การมุ่งเน้นของ Meta ในด้านความจริงเสมือนและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังคงขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป


กลยุทธ์การลงทุนท่ามกลางความผันผวน


เนื่องจากตลาดมีความผันผวนเมื่อเร็วๆ นี้ นักลงทุนจึงใช้กลยุทธ์ต่างๆ ดังนี้:


  • การกระจายการลงทุน: การกระจายการลงทุนในภาคส่วนและประเภทสินทรัพย์ที่แตกต่างกันเพื่อลดความเสี่ยง

  • การป้องกันความเสี่ยง: การใช้ตัวเลือกและตราสารทางการเงินอื่น ๆ เพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่อาจเกิดขึ้น

  • มุ่งเน้นที่ปัจจัยพื้นฐาน: เน้นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีรายได้สม่ำเสมอ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน


บทสรุป


การปรับตัวลงล่าสุดของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ เป็นเครื่องเตือนใจถึงความผันผวนโดยธรรมชาติในภาคส่วนที่มีการเติบโตสูง แม้การปรับตัวขึ้นของหุ้นที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะผลักดันราคาหุ้นเหล่านี้ไปยังระดับสูงสุดใหม่ นักลงทุนควรประเมินมูลค่าหุ้นอย่างรอบคอบและพิจารณาปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวม การรักษาพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับสภาวะตลาดปัจจุบันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

ASX 200 ทำสถิติสูงสุด: มีความหมายต่อตลาดอย่างไร

ASX 200 ทำสถิติสูงสุด: มีความหมายต่อตลาดอย่างไร

ดัชนี ASX 200 พุ่งแตะ 9,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รายได้ธนาคารที่แข็งแกร่ง และความตึงเครียดด้านการค้าโลกที่คลี่คลายลง

2025-08-22
พาวเวลล์ เตรียมเผยเส้นทางดอกเบี้ยสหรัฐ ในการประชุม Jackson Hole

พาวเวลล์ เตรียมเผยเส้นทางดอกเบี้ยสหรัฐ ในการประชุม Jackson Hole

จับตาเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed กล่าวสุนทรพจน์ Jackson Hole Symposium คาดชี้ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ กดดันค่าเงินดอลลาร์และตลาดการเงินโลก

2025-08-22
ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นหลังรัสเซียโจมตีอย่างหนัก

ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นหลังรัสเซียโจมตีอย่างหนัก

ราคาน้ำมันแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันศุกร์ โดยคาดว่าจะยุติการร่วงลงติดต่อกันสองสัปดาห์ได้ เนื่องจากความหวังในการสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ริบหรี่ลง ทำให้ค่าความเสี่ยงสูงขึ้น

2025-08-22